Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคใต้ - 1 เม.ย.48 ป่วนทั้งนราธิวาส คืนเดียว 8 อำเภอ เผา 22 จุด ยะลาโดนด้วยวางระเบิดหลอก โปรยเรือใบเล่นงานรถเจ้าหน้าที่เสียหายระนาว ตำรวจสงขลาโชว์ฟอร์มจับ 2 มือปืนป่วนใต้ ปัตตานีเอาด้วย ออกหมายจับคนร้ายค่าหัว 2 แสน

ตลอดคืนวันที่ 31 มีนาคม 2548 กลุ่มคนร้ายได้กระจายกำลังกันก่อเหตุลอบเผาสถานที่ราชการ และทรัพย์สินของประชาชน 22 จุด ใน 8 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย

อำเภอเมือง ลอบวางเพลิงศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนสายจารุเสถียร ระหว่างอำเภอเจาะไอร้อง - อำเภอเมืองนราธิวาส บริเวณทางเข้าสำนักสงฆ์บ้านตะโล๊ะแน็ง หมู่ที่ 4 ตำบลบางปอ ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด, บ้านของชาวบ้านบ้านใหม่ หมู่ที่ 5 ตำบลกะลุวอเหนือ 2 หลัง หลังแรกเป็นบ้านร้างถูกไฟไหม้ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง หลังที่สองเจ้าของบ้านย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติที่อำเภอสุไหงโก - ลก เนื่องจากเกรงจะถูกทำร้ายจากกลุ่มก่อความไม่สงบ ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลังเช่นกัน

อำเภอรือเสาะ วางเพลิงอาคารลานจอดรถองค์การบริหารส่วนตำบลสาวอ ได้รับความเสียหายบางส่วน, ลอบเผาตู้โทรศัพท์หน้าสถานีอนามัยบ้านสาวอ หมู่ที่ 7 ตำบลสาวอ ห่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลสาวอประมาณ 2 กโลเมตร ได้รับความเสียหายทั้งหลัง, บ้านของชาวบ้านไม่ทราบเลขที่ บริเวณหน้าแขวงการทางรือเสาะ ในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ดับไฟได้ทันก่อนจะลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียง

อำเภอระแงะ ลอบวางเพลิงบ้านของชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลตันหยงมัส เสียหายทั้งหลัง, ตัดต้นไม้ใหญ่ขวางถนนสายบ้านปูลาไซร์ - มะรือโบตก บริเวณบ้านปูลาไซร์ หมู่ที่ 8 ตำบลตันหยงมัส, ลอบเผาบ้านพักในสวนผลไม้ใกล้โรงฆ่าสัตว์ หมู่ที่ 7 ตำบลตันหยงมัส เสียหายทั้งหลัง ก่อนจะหลบหนีคนร้ายยิงปืนลูกซองยาว 3 นัด, ลอบวางเพลิงเผาองค์การบริหารส่วนตำบลบาโงสโตหลังเก่า ข้างมัสยิดบ้านบละแต หมู่ที่ 4 ตำบลบาโงสโต เสียหายทั้งหลัง ก่อนจะหลบหนีคนร้ายยิงปืนลูกซองยาวกว่า 20 นัด

อำเภอบาเจาะ ลอบเผายางรถยนต์บนถนน 3 สาย คือ ถนนเข้าหมู่บ้านส้มป่อย หมู่ที่ 5 ตำบลกาเยาะมาตี, ถนนสายบ้านบือราแง หมู่ที่ 5 ตำบลลูโบ๊ะสาวอ, ถนนสายบาเจาะ - บ้านทอน บริเวณบ้านดูกู หมู่ที่ 3 ตำบลบาเจาะ เมื่อกำลังตำรวจ ทหารเข้าไปตรวจสอบ กลับถูกตะปูเรือใบที่คนร้ายวางดักไว้ ทำให้รถยนต์เสียหายกว่า 10 คัน ไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้

อำเภอตากใบ ลอบวางเพลิงศาลาที่พักริมทางบริเวณแยกเข้าโรงเรียนบ้านโคกบือบา ตำบลโฆษิต เสียหายเล็กน้อย, ลอบวางเพลิงบ้านร้าง ที่บ้านปศุสัตว์เกษตรมูโน๊ะ ตำบลโฆษิต เสียหายเล็กน้อย, ลอบวางเพลิงศาลาที่พักริมทางบ้านศาลาเชือก ตำบลศาลาใหม่ ชาวบ้านดับเพลิงได้ทัน, ลอบวางเพลิงตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ ที่บ้านกูบู ตำบลศาลาใหม่ เสียหายทั้งหลัง, ลอบวางเพลิงรถแบคโฮ ข้างป้อมตำรวจตาบา เสียหายทั้งคัน, ลอบฟันต้นยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ต้น

อำเภอเจาะไอร้อง ลอบวางเพลิงบ้านพักครูโรงเรียนบ้านยานิง ตำบลจวบ เสียหายทั้งหลัง, ลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านบูกิต ตำบลจวบ อาคารชั้นประถมต้นได้รับความเสียหาย อำเภอสุไหงปาดี ลอบวางตะปูเรือใบในพื้นที่บ้านไอร์บาตู หมู่ 5 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอจะแนะ ลอบวางเพลิงศาลาที่พักริมทางที่บ้านมายอ หมู่ที่ 10 ตำบลจะแนะ เสียหายทั้งหลัง, ลอบวางเพลิงบ้านพักคนงานเฝ้าสวน ที่บ้านจะแนะ ตำบลจะแนะ เสียหายทั้งหลัง

โปรยเรือใบป่วนยะลา

เวลา 21.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.จีระศักดิ์ วิกรัยเจริญยิ่ง สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอรามัน จังหวัดยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายโปรยตะปูเรือใบ และมีวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดบนถนนสายรามัน - มายอ บ้านกาเม็ง หมู่ที่ 1 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับพ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.พิทักษ์ เอียดแก้ว ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และชุดเก็บกู้ระเบิดกองกำกะบการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 อำเภอเมืองยะลา

จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายโปรยเรือใบบนถนน ตั้งแต่บ้านกะโต หมู่ที่ 5 บ้านกาเม็ง หมู่ที่ 1 ตำบลอาซ่อง และหมู่ที่ 3 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จากนั้นยังพบวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องกระดาษกระดาษขนาด 12 คูณ 20 นิ้ว มีสายไฟโผล่ออกมา ถูกนำมาวางไว้ริมถนนบ้านกะโต และบ้านกาเม็ง เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า ข้างในบรรจุตะปูและก้อนหิน จึงเก็บไว้เพื่อนำไปตรวจลายนิ้วมือแฝงต่อไป

จากนั้น พ.ต.อ.พิทักษ์ได้สั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน ออกค้นหาผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ตำบลอาซ่อง และพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ หรือมีส่วนรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุ

ก่อนหน้านี้ 1 วัน ชุดสายสืบของตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เข้าไปจับกุมผู้ต้องหาคนหนึ่ง ที่บ้านกาเม็ง ซึ่งถูกออกหมายจับหลายคดี และเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งในพื้นที่

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 31 มีนาคม 2548 พ.ต.อ.ภูมิเพชร พิพัฒน์เพชรภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พ.ต.ท.อุทัย ทิพย์เสภา รองผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลห้วยปลิง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยกำลังจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ติดตามจับกุมตัวตัวนายเจะเต๊ะ มะยิดี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ที่ 1 ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ได้ที่หมู่ที่ 2 ตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบ้านภรรยาของนายเจเต๊ะ หมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 298/2548 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2548

สำหรับนายเจะเต๊ะ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียิงนายสมศักดิ์ รักชาติ อายุ 48 ปี ปลัดอำเภอกรงปีนัง จังหวัดยะลาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2548 บนถนนสายลำไพล - เทพา หมู่ที่ 3 ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าเคยก่อคดีปล้นปั้มน้ำมันที่ตำบลลำใหม่ อำเภอเมืองยะลา และเคยถูกจับในคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ที่ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย

จับ 2 มือปืนป่วนใต้

พล.ต.ต.สุรพล ทองประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2548 ตำรวจชุดเดียวกัน ได้จับกุมนายสาพาริส หลงเส็น อายุ 28 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 7 ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย ผู้ต้องหาร่วมกับพวกยิงร.อ.ยูโสบ บุตรรักษ์ อายุ 48 ปี ทหารธุรการ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร จังหวัดทหารบกปัตตานี เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2547 ที่ถนนทางเข้าหมู่บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะขับรถกระบะออกไปทำงาน

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2547 นายสาพาริส ยังได้ร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนเอช.เค. ยิงด.ต.บอรอเหม สะมะแอ ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยด.ต.บอรอเหมได้ยิงตอบโต้จนคนร้ายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
เมื่อขยายผลจากหลักฐานปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร 6 ปลอก และ 9 มิลลิเมตรอีก 8 ปลอก ซึ่งพบในที่เกิดเหตุยิงร.อ.ยูโสบ ทางกองกำกับการวิทยาการ 12 จังหวัดยะลา พบว่าเป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกับที่ยิงด.ต.บอรอเหม เมื่อให้ร.อ.ยูโสบดูภาพถ่ายนายสาพาริส ร.อ.ยูโสบยืนยันว่า เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ยิงตนเอง

ออกหมายจับคนร้ายค่าหัว 2 แสน

ขณะเดียวกัน ที่จังหวัดปัตตานี มีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีลอบยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ กองบัญชาการทหารสูงสุด สำหรับผู้ต้องหารายนี้ มีค่าหัวถึง 200,000 บาท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net