Skip to main content
sharethis

ประชาไท-5 เม.ย. 48 "ชาเขียวพร้อมดื่มขนาดขวดใหญ่ สามารถแบ่งดื่มได้ 2.5-3 แก้วแต่การดื่มโดยปกติของคนทั่วไปมักดื่มแบบรวดเดียว ซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายได้ เพราะเมื่อคิดปริมาณน้ำตาลต่อขวดเท่ากับ 15.6 ช้อนชา ซึ่งสูงมากต่อผู้บริโภค" นาย อิฐบูรณ์ อ้นวงษา ผู้ประสานงานฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและหัวหน้ากองบรรณาธิการหนังสือฉลาดซื้อกล่าว

วานนี้มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคได้แถลงผลการสำรวจปริมาณน้ำตาลที่ระบุไว้ในฉลากชาเขียวที่ขายในท้องตลาด โดยอ้างถึงคำแนะนำของ ร.ศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล เครือข่ายเด็กไม่กินหวาน ที่แนะนำว่า เด็กและวัยรุ่นไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินวันละประมาณ 6 ช้อนชา แต่ชาเขียวพร้อมดื่ม โดยเฉพาะสูตรที่มีน้ำตาลมีปริมาณในระดับที่อาจก่ออันตรายต่อผู้บริโภคได้เพียงแค่ขวดเดียว

นอกจากนั้น ชาเขียวพร้อมดื่มมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ตั้งแต่ 77.27-103.48 มิลลิกรัมต่อขวด ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้บริโภคกลุ่มเด็กที่อายุไม่เกิน 12 ปี และสตรีมีครรภ์ เนื่องจากปรกติกลุ่มดังกล่าวไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะจะมีผลต่อโรคกระเพาะ หัวใจเต้นจะไม่ปกติ อาจทำให้ชีพจรเต้นเร็วและตกใจง่าย รวมทั้งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสมองด้วย
หากบริโภคในปริมาณมาก

นาย อิฐบูรณ์ กล่าวว่า ฉลากชาเขียวบนท้องตลาดยังไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมายประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 277 ซึ่งกำหนดให้ ชาพร้อมดื่มต้องแสดงปริมาณคาเฟอีนหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ด้วยตัวอักษรสีเข้มทึบ ขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ที่อ่านได้ชัดเจนอยู่บนกรอบพื้นขาว บริเวณเดียวกับชื่ออาหารหรือเครื่อง หมายการค้า จากการสำรวจ 43 ยี่ห้อบนท้องตลาด มีเพียงยี่ห้อเดียวที่ปฏิบัติตาม นอกจากนี้พบว่ายังไม่มีการแจ้งปริมาณคาเฟอีนบนฉลากถึง 19 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 44.19 บางตัวอย่างใช้คำว่าสารจากชาแทนโดยไม่บอกว่าคืออะไรสร้างความคลุมเคลือแก่ผู้บริโภค

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net