Skip to main content
sharethis

การเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทย - สหรัฐ ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา กระนั้นก็ยังมีเรื่องราว บรรยากาศ ตามรายทางที่อยากเก็บตกมาบอกเล่าอยู่ไม่น้อย

โดเฉพาะวันที่ 5 เมษายนที่สื่อมวลชนหลายสำนักไปดักรอขบวนชาวบ้านกว่า 1,500 คน แต่เช้าตรู่ เพราะจะมีการเดินขบวนจากหาดจอมเทียนเพื่อมาประท้วงการเจรจาเอฟทีเอไทย - สหรัฐ ที่หน้าโรงแรมหรูบนเขา "รอยัล คลิฟ บีช" พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการเจรจา ห้องพักที่นี่ราคาต่ำสุดแบบลดครึ่งราคาแล้วอยู่ที่ 4,500 บาท คงยืนยันความหรูได้ระดับหนึ่ง

แม้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเป็นครั้งแรก หลังจาก 2 ครั้งก่อนหน้านี้จัดที่สหรัฐโดยตลอด แต่บรรยากาศของการเจรจาก็เป็นไปด้วยความขมุกขมัว เราทราบเพียงคร่าวๆ ถึงหัวข้อการเจรจา ก่อนหน้าการเจรจาจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน โดยหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย "นิตย์ พิบูลสงคราม" ระบุว่าเป็นทั้งมารยาทและความลับของการเจรจา

แม้ว่าภาคประชาชนทั้ง กลุ่มยา กลุ่มเกษตร กลุ่มศึกษาเอฟทีเอ ได้แสดงความเป็นห่วงประเด็นการเจรจาเรื่อง" ทรัพย์สินทางปัญญา" พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อเสนอของสหรัฐ ตลอด 2 สัปดาห์ก่อนการเจรจาก็ตาม

- - - - - - - - - - - - - -

ภายใต้อากาศร้อนอบอ้าวของวันที่ 5 เมษายน ด้านนอกของโรงแรม ขบวนตำรวจ อาสาสมัคร หน่วยกู้ภัย กว่า 200 คนพร้อมทั้งรถฉีดน้ำ 1 คันตรึงกำลังอยู่เต็มบริเวณทางเข้า

ก่อนที่ขบวนจะเคลื่อนมา ใครบางคนฝ่ากำแพงเจ้าหน้าที่ เดินไปบนทางเข้าลาดยาวที่เห็นตึกตระหง่านอยู่ไกลๆ เพื่อสำรวจการประชุมที่จัดขึ้น แต่เมื่อสอบถามพนักงานต้อนรับ เธอเข้าไปปรึกษาหัวหน้าด้านในครู่หนึ่ง แล้วกลับออกมาบอกผู้มาเยือนซึ่งแสดงตัวเป็นผู้สื่อข่าวว่า "ไม่มีการแจ้งจัดประชุมอะไรเลยค่ะ" .... เธอยืนยันประโยคเดิมราวแผ่นเสียงตกร่อง แม้ว่าใครคนนั้นจะพยายามถามอย่างไรก็ตาม

แหล่งข่าวที่เข้าพักโรงแรมดังกล่าวยืนยันถึงความเงียบสงัดของการประชุมครั้งนี้ว่า บริเวณห้องหลายห้องที่จัดประชุมก็ไม่มีการติดป้ายใดๆ นอกจากเขียนว่า "มีการประชุม" กลุ่มคณะเจรจาที่เดินไปเดินมาก็มีป้ายชื่อติดตัวระบุเพียง Thai Staff และ US Staff

- - - - - - - - - - - - - -

ประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่เดินทางมาจากหลายแห่งทั่วประเทศ พักกันที่วัดกระทึงทอง ริมหาดจอมเทียน เริ่มก่อรูปขบวนกันในช่วงสาย และเดินขบวนพร้อมรณรงค์แจกเอกสาร ประกาศเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง 2 ฝั่งถนนให้เป็นแนวร่วมคัดค้านการเจรจาเอฟทีเออย่างถึงพริกถึงขิง โดยยกตัวอย่างเหตุผลใกล้ตัวว่าจะกระทบต่อราคายาและภาคเกษตรของไทย

แม้จะสายมากแล้ว แต่นักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก คงมีแต่พ่อค้าแม่ค้า และผู้คนที่ไปมาบริเวณนั้นบางตา หลายคนออกมายืนดูงงๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่เมืองท่องเที่ยวชื่อดังแห่งนี้ได้มีโอกาสต้อนรับอย่างอื่นนอกจากนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้า ตลอดจนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หรือแทบจะเรียกได้ว่าทั้งหมดที่สุ่มถาม ไม่รู้จัก "เอฟทีเอ"

"เอฟทีเออะไรเหรอ ป้าก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกันว่าเขาประท้วงอะไร แล้วทำไมมานี่" ป้าจิตเจ้าของกิจการผ้าใบริมหาดตอบคำถามด้วยคำถาม ไม่เว้นแม้แต่สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อุบลราชธานีคนหนึ่ง ซึ่งพาภรรยามาพักผ่อนที่พัทยา เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าเอฟทีเอคืออะไร และซักถามอยู่พักใหญ่

ผิดกับนักท่องเที่ยวสูงอายุชาวเดนมาร์กคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าการเปิดเสรีทางการค้ากับสหรัฐ จะเป็นประโยชน์กับประเทศเล็กๆ อย่างไทย พร้อมทั้งให้ช่วยอธิบายสิ่งที่ขบวนประท้วงเป็นกังวลและเรียกร้อง ดังนั้น แถลงการณ์ที่อยู่ในมือจึงถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษอย่างไม่ค่อยลื่นนัก เขาหยุดการถกเถียงลงที่เรื่อง "ยา" และยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ยากจะโต้แย้ง

ถึงตอนนี้ขบวนก็เคลื่อนห่างไปจนไม่เห็นท้ายแถวแล้ว ใครบางคนถอนหายใจ ไม่ใช่เหนื่อยกับการวิ่งไล่ตามขบวน แต่อ่อนล้ากับการอธิบายตลอดรายทาง เพราะสภาพที่นี่คงไม่แตกต่างกับคนส่วนใหญ่ของประเทศที่อาจยังไม่ชัดแจ้งนักว่าเอฟทีเอคืออะไร

นี่จึงเป็นการบ้านข้อแรกที่หนักหนาเอาการ หากคิดว่าภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ควรมีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องนี้ หาไม่แล้วเราก็จะเจอสภาพที่คนเจรจาตัดขาดจากคนตัดสินใจ และทั้งสองส่วนตัดขาดจากภาคประชาชน จนการเจรจาออกมาแบบขมุกขมัว ต้องลุ้นกันตัวโก่งเช่นที่เป็นอยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net