เหตุเกิดที่ห้วยแก้ว (อีกแล้ว) โครงการในฝันนายกบูรณาเกิน รื้อบ้านสร้างใหม่ที่ไม่พอ

"ห้วยแก้ว"โครงการในฝันนายกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พ่นพิษอีก นอกจากหน่วยราชการในจังหวัดเชียงใหม่ที่พร้อมใจกันบูรณาการการทำงานจะไม่สามารถทำให้น้ำตกห้วยแก้วได้รินไหลต่อเนื่องเหมือนดังเดิมได้ เพราะปัญหาการบริหารจัดการจ่ายน้ำจากถังเก็บน้ำขนาดยักษ์ไปตามท่อถึงชาวบ้าน ล่าสุดการปรับภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าลานครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นโครงการเดียวกัน ก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นอีก

เป็นตลกร้ายเหลือรับ เมื่อบ้าน 24 หลังของชาวบ้านที่ถูกรื้อเพื่อให้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่า พื้นที่ไม่พอ เหลืออีก 1 หลังที่ยังค้างเติ่งให้เจ้าของต้องอาศัยอยู่ในเพิงรอคอยความหวัง

และช่างน่าเศร้า ที่ทางออกของการจัดการกับปัญหานี้ เลือกที่จะรื้อป้อมตำรวจ และตัดต้นโพธิ์ทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ ….งานนี้ ใครผิดยกมือขึ้น !

บ้านเลขที่ 9/1 กับข้อหาอยากสร้างความเจริญ..!

"อยู่ในสังกะสีที่ล้อมเป็นเพิงมา 3 ปีแล้ว ห้องน้ำก็ไม่มี เวลานอนต้องคอยฟังเสียงรถไม่เคยได้หลับเต็มตาซักวัน วันดีคืนดีก็มีคนเมาเหล้าขับรถมาชนสังกะสีต้องลุกขึ้นมาดู ลูกๆ ที่เกรดเฉลี่ยเคยได้สามกว่าตอนนี้ลดลงจนน่าตกใจ พูดได้เลยว่าตอนนี้สุขภาพจิตแย่มาก"

คำบอกกล่าวที่เป็นทุกข์เป็นร้อนของเจ้าของบ้านที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างบ้านทดแทนบริเวณป้อมตำรวจที่อยู่ด้านหลังครูบาศรีวิชัย ก่อนขึ้นดอยสุเทพ

เรื่องนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทลายป้อมตำรวจบริเวณด้านหลังครูบาศรีวิชัยและการขุดต้นโพธิ์ที่อยู่มานาน

หนังสือพิมพ์พลเมืองเหนือได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ซึ่งได้รับการอธิบายจาก นายทวีทรัพย์ สินออม คณะกรรมการหมู่บ้านห้วยแก้ว

นายทวีทรัพย์อธิบายว่า ในอดีตมีงบพัฒนาของ ฯพณฯ นายกทักษิณ ชินวัตร เป็นงบพัฒนาการท่องเที่ยวมีพื้นที่โครงการตั้งแต่สวนรุกขชาติ-ดอยปุย (เป็นบริเวณที่มีพื้นที่ของสวนรุกขชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่ น้ำตกห้วยแก้ว ดอยสุเทพ ภูพิงค์ บ้านแม้วดอยปุย) ในส่วนของบริเวณก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้วจะมีงบก้อนหนึ่งที่ใช้สร้างบ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณด้านหลังลานครูบาศรีวิชัย ก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งเมื่อในอดีตบ้านที่อยู่แถวนั้นเป็นบ้านไม้ และมีงบพัฒนาให้สร้างบ้านให้กับชาวบ้านห้วยแก้วเพื่อปรับภูมิทัศน์ จำนวน24 หลังคาเรือนและทางนายกรัฐมนตรีก็ขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ก็มีการรับปากจากชาวบ้าน

จากนั้นทางโยธาธิการและผังเมือง จ.เชียงใหม่ก็มาวางผัง ออกแบบในการสร้างบ้านให้กับชาวบ้าน

ปรากฏว่าการสร้างได้เริ่มสร้างจากหลังที่ 24 ไปหาหลังที่ 1 พอโครงการเสร็จสิ้นปรากฏว่าพื้นที่การสร้างไม่พอ

เหลือชาวบ้านอีก 1 ครอบครัวที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเพราะพื้นที่ไม่พอและได้แจ้งเรื่องไปทางโครงการ และชาวบ้านทุกคนก็อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ

โดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมต.กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ได้มีคำสั่งให้สร้างที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวที่เหลือบริเวณป้อมตำรวจ เพราะถ้าสร้างบริเวณทางเข้าน้ำตกห้วยแก้วคงไม่เหมาะ
สม โดยทางชาวบ้านและตำรวจที่ประจำอยู่ในพื้นที่นั้นก็เห็นเหมาะสม และเดือนมี.ค. ที่ผ่านมาได้มีการย้ายต้นโพธิ์ที่อยู่บริเวณป้อมตำรวจไปแล้วหนึ่งต้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการหมู่บ้านกำลังอยู่ในขั้นตอนทำหนังสือขอไปยังหัวหน้าอุทยานในการดำเนินการในเรื่องนี้อยู่

นางสุทธิดา นุตวัตร (แตง) ชาวบ้านที่ต้องได้รับการสร้างบ้านให้ จากความผิดพลาดของโครง
การได้พาไปดูสภาพบ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เริ่มทำโครงการจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 3 ปีว่ามีสภาพไม่ต่างจากเพิงพักคนงานก่อสร้าง ที่ห้องน้ำก็ไม่มี หลังคาเป็นรูพรุนและได้รับผลกระทบกับครอบครัวเป็นอย่างมากทั้งในด้านความเป็นอยุ่และสุขภาพจิต เพราะลูกที่กลังเรียนหนังสือผลการเรียนลดลง

นางสุทธิดาเล่าว่า ปกติบ้านของตัวเองจะเป็นบ้านเลขที่ 9/1 ตามโครงการจะเป็นบ้านหลังแรกที่ได้รับการสร้างบริเวณทางเข้าน้ำตกห้วยแก้ว และกรรมการหมู่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมติว่าสามารถสร้างตรงป้อมตำรวจบริเวณหลังลานครูบาศรีวิชัยได้ เพราะในการประชุมทุกครั้งชาวบ้านทั้ง 24 หลังคาก็จะมีมติร่วมกันและในเรื่องที่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งนำเสนอว่ามีการโวยของชาวบ้านห้วยแก้ว ที่จริงแล้วไม่เคยมีใครโวยวายและเห็นแย้งในเรื่องนี้เพราะทุกคนอยากให้มีที่อยู่ที่เป็นที่เป็นทางเหมาะสมกว่าที่อยู่ปัจจุบัน
นายวรพจน์ ผ่องสมัย ประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มน้ำตกดอยสุเทพ - ดอยปุย ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า โครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มน้ำตกดอยสุเทพ - ดอยปุย เป็นโครงการของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2545 ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ มีการออกแบบสิ่ง
ก่อสร้างโดยโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ออกแบบ และมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเสร็จสิ้น

แต่เหลืออยู่ 1 ครอบครัวที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเพราะพื้นที่ในการสร้างไม่พอ เลยมีการย้ายมาอยู่ที่ตรงป้อมตำรวจและในแผนการก่อสร้างบ้านให้กับชาวบ้าน จะมีการย้ายป้อมตำรวจ โดยต้นโพธิ์ที่อยู่บริเวณป้อมตำรวจนั้นจะถูกล้อมด้วยคอนกรีต ทำให้เกิดการดันของรากต้นโพธิ์ทำให้พื้นแตก และได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญมองว่า ต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นต้นที่ขึ้นเอง

ส่วนต้นโพธิ์ที่ปลูกโดยครูบาศรีวิชียจะเป็นต้นที่เยื้องไปทางเหนืออีกต้นหนึ่งและต้นโพธ์ที่ย้ายออกมีลำต้นที่แห้ง และรากยังสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ มีการประชุมร่วมกับชาวบ้านและทางอุทยาน ว่าจะร่วมกันแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย จึงต้องมีการมองกันหลายๆ ด้าน

นายวรพจน์กล่าวต่ออีกว่า บ้านที่จะสร้างให้กับชาวบ้านมีการออกแบบให้เหลือชั้นเดียว ทั้งความสูง รูปทรงโดยจะมีโครงสร้างเหมือนกับป้อมตำรวจ จึงไม่เป็นปัญหาในการที่จะไปทำลายทัศนียภาพบริเวณหลังพระศรีครูบาศรีวิชัย และตอนนี้กำลังประสานกับกรมบัญชีกลางในเรื่องงบประมาณการจัดสร้าง ขอมติครม.ให้อนุมัติโครงการถึง 31 มี.ค 48 ถ้ากรมบัญชีกลางขยายเวลาการดำเนินการก็จะมีการดำเนินการเรื่องนี้ต่อ แต่ถ้าไม่มีการขยายเวลาก็จะหาวิธีการแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป

ขณะที่นายธีรยุทธ กุคำใส สถาปนิก สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง เชียงใหม่ ผู้ออกแบบโครงการนี้บอกกับ "พลเมืองเหนือ" ว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น แม้กระทั่งต้นโพธิ์ หรือป้อมตำรวจก็ไม่ต้องถูกรื้อ หากมีการก่อสร้างตามแบบที่วางไว้เบื้องต้น

เขาเป็นผู้ออกแบบแปลนการก่อสร้างโครงการนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยมีการประชุมเข้าพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงแนวคิดและรูปแบบโครงการ ซึ่งผู้ใหญ่ของจังหวัดทั้งระดับนายอำเภอ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้าไปชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดเป็นที่เข้าใจแล้ว

ในการออกแบบเริ่มต้นเขาได้ประสานขอโฉนดที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัด รวมทั้งใช้ดาวเทียมและระบบ GPS ร่วมออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพภูมิทัศน์ ซึ่งแนวคิดจะไม่มีการตัดต้นโพธิ์หรือรื้อถอนใดใด

อย่างไรก็ตามเมื่อออกแบบแล้วเสร็จ ป่าไม้ในฐานะเจ้าของพื้นที่จะต้องเป็นผู้ดำเนินโครงการ ได้รับงบประมาณมาว่าจ้างบริษัทอลงกต ทำการรื้อห้องแถวเก่าทั้งหมดออก แล้วทำการสร้างใหม่เป็นห้องแถวสูงสองชั้น เนื้อที่ความกว้างประมาณ 6 เมตรเศษๆ ต่อหนึ่งครอบครัว ซึ่งงบ ประมาณที่ได้น้อยกว่าที่วางแผนไว้เดิมคือ ได้มาราว 10 ล้านบาทจากเดิมที่ยื่นขอไปราว 15 ล้านบาท

"หากขยับเข้าไปด้านในราว 5 เมตร ก็จะไม่มีปัญหาที่ไม่พอสร้าง แต่ในการก่อสร้างและการตรวจแบบได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากที่ได้ออกแบบไว้คือขยับไปด้านหน้า ซึ่งตนในฐานะผู้
ออกแบบเมื่อออกแบบเสร็จแล้วแต่ไม่ได้เป็นหน่วยงานก่อสร้างหรือเป็นกรรมการตรวจรับแบบ"

ล่าสุดขณะนี้ ต้นโพธิ์ได้ถูกรื้อถอนไปแล้ว ส่วนป้อมตำรวจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูพิงค์ใช้งานอยู่ก็รอวันรื้อถอน

ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมต่อการต้องสร้างห้องแถวล้ำมาจนถึงลานด้านหลังครูบาฯ ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

บูรณาเกินครั้งนี้ .. ใครผิดยกมือขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท