กรุงเทพฯ - 18 พ.ค. 48 "รัฐบาลเห็นด้วยกับการประกันสังคม แต่ต้องการเอาเงินของผู้
ประกันตนไปใช้ก่อน ซึ่งเรื่องนี้ต้องระวัง" นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ นักวิชาการจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการหารือร่วมกับอนุกรรมาธิการหลักประกันทางสังคม วุฒิสภาในประเด็นการจัดทำประกันสังคมของแรงงานนอกระบบ

ทั้งนี้ นายณรงค์กล่าวว่า แม้ฝ่ายแรงงานจะมีความต้องการที่จะมีประกันสังคมและรัฐบาลก็เร่งดำเนินการเรื่องประกันสังคมสำหรับแรงงานนอกระบบ แต่ก็คาดว่า รัฐบาลมีวาระซ่อนเร้นเรื่องการหาแหล่งทุนเพื่อจะเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจเช่น การปล่อยสินเชื่อ การลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งเป็นการแปลงเงินทุนของแรงงานไปสู่ภาคเอกชน

นายณรงค์ เสนอด้วยว่าเงินประกันสังคมทั้งหมดควรอยู่ในสถาบันเดียวกัน หรือธนาคารแรงงานเพื่อให้เงินประกันสังคมเป็นประโยชน์ของแรงงานอย่างแท้จริง เช่น ใช้สำหรับช่วยเหลือในกรณีที่แรงงานต้องใช้เงินกู้ คนตกงานจะได้รับความช่วยเหลือเงินกองทุน เป็นต้น

"เราไม่ควรปล่อยให้รัฐบาลนี้หมุนเงินตรงนี้ไปสู่ภาคธุรกิจ ไปสู่ตลาดหุ้น เพราะเงินเหล่านี้ เราสะ
สมมาเพื่อคุณภาพชีวิตของเรา" นายณรงค์กล่าวย้ำกับผู้ร่วมประชุมซึ่งบางส่วนเป็นแรงงานนอกระบบ เช่นเกษตรกร กลุ่มแม่บ้านซึ่งรับเหมาช่วงไปทำงานที่บ้าน

ด้านน.ส. วิไลวรณ เซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงานไทย กล่าวเสริมในฐานะของแรงงานในระบบซึ่งทำประกันตนอยู่แล้วว่า ที่ผ่านมา ประกันสังคมคำนึงกำไร ขาดทุนมากกว่า จะคิดถึงความทุกข์คนยากจน หรือประกันตน

ทั้งนี้ กลุ่มแม่บ้านรับงานไปทำที่บ้านซึ่งเข้าร่วมประชุมในวันนี้ กล่าวว่ายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการประกันตน และไม่รู้ว่าตนจะได้รับการคุ้มครองอย่างไรบ้าง โดยนายณรงค์ แสดงความเห็นว่ารัฐบาลต้องให้ความรู้เกี่ยวกับการประกันตนของแรงงานนอกระบบมาก่อนหน้านี้ 2-3 ปีแล้ว ไม่ใช่มาจะมาเร่งรัดโดยที่ผู้เอาประกันตนก็ยังไม่รู้ว่าตนจะได้ประโยชน์อะไรและอย่างไร

"เขาอยากให้เราทำเร็ว ๆ ไม่ใช่เพราะเราต้องการใช้เงินเร็ว แต่เขาตากหากที่ต้องการใช้เงินเร็ว ๆ " นายณรงค์ กล่าวในตอนท้าย ก่อนจะสรุปว่า "บางทีรัฐพูดภาษาเดียวกับเรา แต่คนละความหมาย"

ด้านนางระกาวิน ลีชนะวาณิชพันธ์ อนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ในขณะนี้รัฐบาลเร่งจัดทำประกัน
สังคมสำหรับแรงงานนอกระบบ ครอบคลุมสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนในกรณีเสียชีวิต ป่วยทุพพลภาพ ในระยะ 3 ปีแรกใช้วิธีการแบบสมัครใจก่อนหลังจากนั้นจะบังคับให้ประชาชนทุกคนจะต้องประกันตน ส่วนเงินสบทบสำหรับประกันตนนั้นรัฐบาลไม่ได้สมทบเพิ่มเพราะถือว่าสนับสนุนงบประมาณในกองทุนประกันสุขภาพ 30 บาทไปแล้ว

จันทร์สวย จันเป็ง