ค้นแหล่งฝึกป่วนใต้-โต๊ะครูสงสัยทำไมเพิ่งเจอ

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ฟ้อย รักเรือง รองแม่ทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พ.อ.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ 22 ปัตตานี และเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอยะหริ่งและสถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และทหาร กว่า 100 นาย แบ่งออกเป็น 3 ชุด ใช้อำนาจตามประกาศกฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่ อำเภอยะหริ่ง

โดยมีเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ หอพักนักเรียนปอเนาะ ในบริเวณสถานบันศึกษาปอเนาะญิฮาดวิทยา หมู่ที่ 3 ตำบลตะโละกาโปร์ โดยนำกำลังปิดล้อมรอบๆ บริเวณ และเข้าตรวจค้นหอพักนักเรียนกว่า 10 หลัง

จากการตรวจค้น สามารถยึดเอกสารภาษาอาหรับ และภาษายาวี หน้าปกเป็นรูปมัสยิดกรือเซะ และปืนใหญ่พญาตานี สมุดบันทึกความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รัฐ แผนผังจุดตรวจและการลาดตระเวนของตำรวจและทหารในพื้นที่ อำเภอยะหริ่ง และอำเภอปะนาเระ ม้วนวิดีโอการฝึกซ้อมของกลุ่ม "อัลกออิดะห์" อุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถใช้ประกอบระเบิดได้ เช่น สายไฟ ท่อพีวีซี

นอกจากนี้ ได้ควบคุมตัว นายอาดือนัน เจะอาแซ อายุ 33 ปี ลูกโต๊ะครูเก่าเจ้าของโรงเรียน อยู่บ้านเลขที่ 16 หมูที่ 3 ตำบลตะโละกาโปร์ นายมาซือลัม ดาแม อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 6 ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี นายอับดุลเลาะ กะเจ บ้านเลขที่ 187 หมู่ที่ 8 ตำบลตะโละกาโปร์ และนายแวฮาฟิซ แกตอง อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ที่ 8 ตำบลบางปอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ทั้งหมดเป็นนักศึกษาสถาบันปอเนาะญิฮาดวิทยาถูกนำไปยังศูนย์ซักถามกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี

ส่วนการตรวจค้นบริเวณสวนมะพร้าวรอบบริเวณหอพัก โดยใช้เครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัยเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด พบกระป๋องน้ำอัดลมมีร่องรอยถูกยิงเป็นรู ส่วนตามต้นมะพร้าว มีรอยถูกยิงเป็นรูเช่นกัน จึงได้เข้าตรวจสอบหาร่องรอยของกระสุนปืน

การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 22 ได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คนคดีลอบวางเพลิงในอำเภอปานาเระ คือ นายมามะ สะอิ และนายซอเฮาะ เปาะจิ ซึ่งทั้งสองรับสารภาพและให้ข้อมูลเชื่อมโยงว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ฝึกและประสานงานเพื่อเตรียมก่อเหตุร้าย

ร่วมทั้งได้พาดพิงผู้บงการที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุร้าย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังสอดคล้องกับคำให้การของ 2 ผู้ต้องหาคดีปล้นปืนทหารที่ จังหวัดนราธิวาสด้วย นอกจากนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมยืนยันว่ามีการเตรียมการเพื่อก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่

จากการตรวจค้นบ้านเรือนจำนวน 5 หลัง ในบริเวณปอเนาะญิฮาดวิทยา หรือปอเนาะท่าด่าน ตำบลตะโละกาโปร์ พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ชนิดลูกโม่ ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน 1 กระบอก หมายเลขทะเบียน ปน. 5/1563 มีข้อความเขียนข้างๆ ที่จับว่า "รางวัลยอดเยี่ยม 2526" และอาวุธปืนขนาด .38 ชนิดลูกโม่ ยี่ห้อทอรัส หมายเลขทะเบียน 1676541 มีข้อความเขียนข้างที่จับว่า "รางวัลยอดเยี่ยม 2531" และกระสุนปืนลูกซองสีแดง จำนวน 123 นัด สีส้ม 21 นัด สีเขียว 21 นัด รวมทั้งปลอกกระสุนสีแดงที่ใช้ยิงไปแล้วจำนวน 41 ปลอก ทั้งสองกระบอกเป็นปืนที่ทางราชการมอบให้แก่นายมะนุ ศรีท่าด่าน กำนัน ตำบลท่าด่าน เป็นรางวัลกำนันดีเด่น จึงได้ยึดอาวุธปืนพร้อมกระสุนดังกล่าวเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังตรวจพบวีซีดีของนายอุซามะห์ บิน ลาดิน กำลังฝึกการก่อการร้ายให้แก่เยาวชน เอกสารหนังสือประวัติศาสตร์ปัตตานี และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร กว่า 10 เล่ม พร้อมสมุดเช็ค 1 เล่ม และเช็คสั่งจ่ายเงินสดของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุจำนวนเงิน 10,000 บาท สั่งจ่ายภายในวันที่ 27-5 2548 เลขที่ 0477971 รหัส 0310020851

พ.อ.พิเศษจำลอง คุณสงค์ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจ ที่ 2 กล่าวว่า การตรวจค้นโรงเรียนญิฮาดวิทยา และบ้านเรือนที่ต้องสงสัย ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือ สืบเนื่องจากการสืบสวนทางลับพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็น 1 ใน 10 แห่ง ใน จังหวัดปัตตานี ระบุว่าเป็นสถานที่ที่มีการฝึกฝนเยาวชนในการใช้อาวุธเพื่อก่อความไม่สงบ

"เราได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ก่อนที่จะเข้าตรวจค้น และขอยืนยันเรามาดี ไม่ได้ประสงค์จะสร้างความเสียหายกับสถาบันทางศาสนา และหลังจากนี้เราจะมาช่วยกันพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ให้เจริญและอยู่ภายใต้กฎหมาย" พ.อ.พิเศษจำลอง กล่าว
พ.อ.พิเศษจำลอง กล่าวว่า หลักฐานที่เจอในครั้งนี้จะต้องให้ผู้ชำนาญการตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนจะสามารถสาวถึงผู้บงการหรือไม่คงจะพูดลำบาก เพราะต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ในพื้นที่เป็นลักษณะสั่งการโดยอาศัยแนวร่วม ที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ และมีการซุกซ่อนอาวุธ จึงยากต่อการตรวจค้นและจับกุมพร้อมพยานวัตถุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการซักถามผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวคนหนึ่ง ให้การยอมรับว่ามีการฝึกฝนการต่อสู้ในพื้นที่นี้จริงเมื่อปี 2546 ก่อนที่จะเข้าทำการปล้นอาวุธปืนที่ค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 จ.นราธิวาส โดยใช้เทคนิคการฝึกเข้ม ระยะเวลาเพียง 26 วัน ซึ่งสามารถเทียบหลักสูตรการใช้อาวุธต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 เดือน จึงถือได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเข้มกว่าเจ้าหน้าที่หลายเท่า

เป็นที่น่าสังเกตว่า การตรวจค้นครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างที่กองอำนวนการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้นำนายอับดุลอาซิส ยานยา ประธานชมรมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายหะยีอับดุลวาฮับ อับดุลวาฮับ รองนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 ชายแดนภาคใต้ และประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยะลาและนราธิวาส และตัวแทนของสำนักจุฬาราชมนตรี เดินทางไปศึกษาดูงานทางด้านอิสลามศึกษาที่ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 23 พฤษภาคม 2548 ตามคำเชิญขององค์กรนะห์ดอตุล อูลามา

นายมูฮำหมัดอาร์ลาวี บือแน เลขานุการชมรมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงการตรวจค้นครั้งนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีสถาบันศึกษาปอเนาะชื่อนี้ในบัญชีของชมรมสถานบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะยังไม่ได้ไปจดทะเบียนปอเนาะตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ อย่างไรก็ตาม ตนจะนำเรื่องนี้เข้ากับคณะกรรมการชมรมสถาบันศึกษาปอนาะต่อไป หลังจากนายอับดลอาซิส เดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย

"เราไม่ปฏิเสธว่ามีปอเนาะบางแห่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่ชัดเจนก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายไปได้เลย แต่หลักฐานที่พบครั้งนี้ มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน โดยเฉพาะเอกสารต่างๆ อีกอย่างพื้นที่อำเภอยะหริ่งเป็นพื้นที่ราบ ย่อมตรวจสอบง่ายว่ามีการฝึกอาวุธหรือไม่ ยิ่งในเวลากลางคืน ถ้ามีการยิงปืนจะได้ยิงเสียงชัดและไกล แต่ทำไมตำรวจ หรือทหารหาไม่พบ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท