ร่องรอยจากการสัมผัสสารพิษจากไร่ส้ม น้องบิ๊ก เด็กชายชาวกะเหรี่ยงวัย 1ขวบ ที่แค่สูดดมและโดนละอองของสารเคมีก็กลายเป็นตุ่มพุพองและเป็นแผลเรื้อรัง
----------------------------------------------------------------------------

ประชาไท-23 พ.ค. 48 เมื่อวานนี้(22 พ.ค.) นางยุพิน งามยิ่ง ชาวบ้านกะเหรี่ยงหมู่บ้านป่าผาก ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ภายในงานทอดผ้าป่าข้าวสารสามัคคี ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจัดขึ้น ณ หมู่บ้านป่าผากว่า มีสารเคมีจากไร่ส้มปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ หมู่บ้าน และเด็กๆ เริ่มเจ็บป่วยแล้ว

นางยุพินกล่าวว่า ปัญหาสารเคมีปนเปื้อนในบริเวณหมู่บ้านนั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ปี 2541 โดยนายทุนจากพื้นราบเข้ามาตั้งรกรากและทำเกษตรแบบฉีดพ่นยา และในขณะนี้เริ่มมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อเริ่มมีการทำไร่ส้ม แม้จะมีเพียงแห่งเดียวก็ตาม เพราะการดูแลจะต้องใช้สารเคมีมากพอสมควร ทำให้มีการสะสมโดยฟุ้งในอากาศและไหลปนเปื้อนลงในลำห้วยใกล้ ๆ หมู่บ้าน

"ตอนแรกยังไม่รู้ แต่พอลูก (ด.ญ.ยุภาพร งามยิ่ง อายุ 12 ปี) กับเพื่อน ๆ ไปเล่นน้ำที่ห้วยใกล้หมู่บ้าน กลับมาก็ไม่สบายคือเป็นตุ่มพุพอง บางคนก็เป็นตุ่มแล้วมีน้ำเหลืองไหล เลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่ อ.ด่านช้าง ซึ่งหมอบอกว่ามีสารเคมีในกระแสเลือด ต้องฉีดยาวันละ 2 เข็ม เกือบ 1 เดือนกว่าจะหาย" นางยุพินกล่าว

ชาวกะเหรี่ยงบ้านป่าผากกล่าวต่อว่า ยังมีเด็กอีกหนึ่งคนคือ ด.ช.ธนพล งามยิ่ง อายุ 1 ปีที่มีอาการแบบเดียวกัน แต่ได้รับสารเคมีจากการสูดดม เนื่องจากช่วงเวลาที่ทำการพ่นยาลมจะพัดละอองสารเคมีมาทางบ้าน ทำให้เป็นจุดจ้ำ ๆ และมีน้ำเหลืองไหลเช่นเดียวกัน

"เวลาไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอก็จะถามอยู่ตลอดว่ายังมีเด็กที่ได้รับสารอยู่อีกหรือเปล่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเมื่อทางโรงพยาบาลทราบเรื่องแล้ว ทำไมไม่แจ้งไปยังจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยใดเข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าวเลย จึงอยากร้องเรียนให้มีการตรวจสอบด้วย" นางยุพินกล่าว

สิรินภา อิ่มศิริ