นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา เปิดเผยว่า ตนจะให้นายแพทย์แวมะหะดี แวดาโอ๊ะ จำเลยคดี เจ.ไอ. ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องแล้ว กลับเข้ามาร่วมทำกิจกรรมกับสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาเช่นเดิม เนื่องนายแพทย์แวมาหะดีมีบทบาทเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของนายแพทย์แวมาหะดีเอง ทั้งนี้ตนได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว

นายแพทย์พลเดช เปิดเผยอีกว่า หากพนักงานอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ตนจะให้นายแพทย์แวมาหะดี เข้ามาทำงานในตำแหน่งเดิม คือ เป็นหัวหน้าทีมผู้ประสานงานโครงการวิจัยและพัฒนาชีวิตสาธาณะและท้องถิ่นพัฒนา โครงการส่งเสริมวิทยุชุมชนในจังหวัดนราธิวาส และโครงการจัดเวทีจุดประกายการปฏิรูประบบสุขภาพ ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีพื้นทีรับผิดชอบในจังหวัดนราธิวาส

"เสียดายช่วง 2 ปี ที่นายแพทย์แวมาหะดีถูกคุมขัง ทำให้โครงการต่างๆ ต้องสะดุดไป แต่สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ได้ทำให้คนที่ทำหน้าที่แทนมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งหากนายแพทย์แวมาหะดีไม่ถูกจับกุมตัวไป เขาจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์บรรเทาลงได้มาก เพราะฉะนั้นผมจะสนับสนุนให้เขากลับมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่อไป" นายแพทย์พลเดช กล่าว

นายแพทย์พลเดช กล่าวว่า การที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องนายแพทย์แวมาหะดี ย่อมแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของเขา รวมทั้งจำเลยอีก 3 คน ซึ่งการจับครั้งนี้เรื่องของความมั่งคงของชาติ ที่อาจเป็นไปได้ว่ามีเป้าหมายทางการเมือง แต่ต่อไปนี้ถ้าหากรัฐบาลต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้น ต้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบนำนำกรณีนี้ไปเป็นบทเรียน เพื่อที่ทุกฝ่ายจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น และไม่ควรที่จะอุทธรณ์

นายแพทย์พลเดช กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนได้แจ้งกับทนายของนายแพทย์แวมาหะดีว่า ถ้าหากมีการอุทธรณ์ขึ้น ถ้าจำเป็นตนพร้อมที่จะใช้ตำแหน่งประกันตัวนายแพทย์แวมาหะดี