ประชาไท-13 มิ.ย.48 "ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) นักศึกษาจะมีการประชุมและแถลงข่าวกันขึ้นที่ กรุงเทพฯ โดยตัวแทนผู้นำนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศเข้าร่วม เพื่อประเมินท่าทีก่อนตัดสินใจกันอีกครั้ง" นางสาวศิริกุล อัตถปัญญาพล นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุ

น.ส.ศิริกุลกล่าวว่า ทางกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อคำสั่งเลขาของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) ที่ให้ยุติกิจกรรมรับน้องในครั้งนี้ เพราะเป็นการเหมารวม โดยที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้นำนักศึกษา

"ความเป็นจริงควรทำประชาพิจารณ์จากทุกสถาบันก่อนตัดสินใจ ซึ่งแม้แต่อาจารย์เอง ก็ออกมาพูดว่า ถ้าจะให้ยุติกิจกรรมทั้งหมด ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งนั้นครอบคลุมกว้างเกินไป" นายกสโมสร นศ. มช. ระบุ

นายกิตติรัตน์ ปราการรัตน์ นายกสโมสรนักศึกษามาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยศิลปากรได้มีคำสั่งให้ยุติการ "ว้าก" ของวันนี้ เพื่อรอฟังข้อสรุปจากการประชุมเครือข่ายนิสิตนักศึกษาที่จะจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ก่อน

ส่วนการประชุมภายใน ได้ข้อสรุปในที่ประชุมว่า จะยังคงการประชุมเชียร์เพื่อสอนเพลงของมหาวิทยา ลัยและคณะไว้ เพื่อรักษาประเพณี แต่ต้องไม่มีการกระทำในลักษณะการ "ว้าก" โดยเด็ดขาด

นายธนาชัย สุนทรอนันตชัย นายกองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยกำลังคุยกันอยู่เป็นการภายใน คาดว่าจะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.)

ทั้งนี้ตามที่มีหนังสือด่วนที่สุด จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2548 โดยศาสตราจารย์พิเศษ ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นผู้ลงนาม ให้มหาวิทยาลัยและสถาบัน ยุติกิจกรรมรับน้องนักศึกษาใหม่ลงตั้งแต่บัดนี้

และให้มหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งห้ามการดำเนินกิจกรรมในลักษณะที่รุนแรง และล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในลักษณะต่างๆ เช่น การให้แสดงท่าทางที่ล่อแหลมหรือให้เป็นที่อับอาย การบังคับหน่วงเหนี่ยวในการจัดประชุมร้องเพลงเชียร์ การทำโทษในลักษณะต่างๆ ไปจนถึงการประทุษร้ายต่อร่าง กายและจิตใจ รวมถึงการกระทำที่สื่อความหมายของการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งด้วยร่างกายและทางวาจา และห้ามการทำหน้าที่เป็น" ว๊ากเกอร์" ของนิสิตนักศึกษารุ่นพี่ที่ใช้วาจาข่มขู่นิสิตนักศึกษาใหม่โดยเด็ดขาด

นอกจากนั้น ให้พิจารณาสั่งห้ามการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ทุกรูปแบบ และสอดส่องไม่ให้มีการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างลับๆ แม้จะเป็นความเห็นร่วมกันระหว่างรุ่นพี่และนิสิตนักศึกษาใหม่ก็ตาม

ในหนังสือ ยังระบุอีกว่า การนำนิสิตนักศึกษาใหม่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ นั้นจะต้องเป็นไปโดยความสมัครใจของนิสิตนักศึกษาใหม่ และต้องให้ผู้ปกครองรับรู้ ทั้งนี้มหาวิทยาลัยและสถาบัน ควรดูแลให้มีการลงชื่อแสดงความยินยอมเข้าร่วมกิจกรรมให้ชัดเจน และห้ามนิสิตนักศึกษารุ่นพี่ดำเนินการใดๆ อันเป็นการบีบบังคับให้รุ่นน้องเข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งให้วางโทษโดยกระบวนการทางวินัยอย่างชัดเจนสำหรับนิสิตนักศึกษาที่ฝ่าฝืน

องอาจ เดชา