Skip to main content
sharethis

ประชาไท -- 21 มิ.ย.48 "ลูกหลานไทยจะไม่เป็นเหมือนพวกเราทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องดีขึ้นแน่ จะเห็นเขาไปลงทุนนอกประเทศ ผมทำอะไรก็เพื่อลูกหลานของเราทั้งนั้น วันนี้การลงทุนในไทยต่างประเทศอาจได้ประโยชน์ แต่อยากให้เราดูถึงลูกหลานอีก 20-40 ปีข้างหน้า" ดร.วีรชัย พลาศรัย รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวขึ้นในเวทีสัมมนาเรื่อง "เปิดเสรีการลงทุนและกลไกระงับข้อพิพาท กับระบบกฎหมายและอธิปไตยไทย" ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ดร.วีรชัย เปิดเผยว่า "ที่จริงแล้วเอฟทีเอไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพราะเพียงเป็นแนวปฏิบัติเรื่องการคุ้มครองการลงทุนซึ่งไทยมีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นร่มโพธิสมภารให้แก่คนต่างชาติมาพึ่งพิงหลายยุคสมัยจนพวกเขาเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงวันนี้ ข้อตกลงเอฟทีเอเป็นการเขียนในรูปแบบใหม่เท่านั้นเอง"

รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเปิดเสรีการลงทุนถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับไทยว่าควรปิดหรือควรเปิดตรงส่วนไหน การมาลงทุนจากต่างประเทศจะสร้างงาน และกระจายรายได้จนสามารถทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนได้หรือไม่ โดยขณะนี้ท่าทีของไทยต้องการเปิดเสรีเฉพาะบางเรื่องที่ต้องระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งยังสวนทางกับท่าทีของสหรัฐ

ยิ่งไปกว่านั้น ดร.วีรชัย เพิ่มเติมว่า "การให้คนอื่นมาอยู่ในบ้านในเมือง เราก็ต้องช่วยเขาและให้ความเป็นธรรมแก่เขาด้วย ต้องพิจารณาเป็นนโยบาย เราต้องดูว่าใครเดือดร้อน ซึ่งมีอยู่ 2 ส่วน คือ คนได้และคนเสียประโยชน์ และเรายังมองภาพรวม 2 ระดับทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความสมดุล ซึ่งขณะนี้เราได้คุยกับสหรัฐมาโดยตลอดถึงกรอบตกลงต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด"

ในกรณีของการลงทุน ดร.วีรชัย กล่าวว่า รัฐอาจเลือกที่จะระบุในสัญญาจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของตนในหลายๆ เรื่อง เพื่อส่งสัญญาณด้านบวกกับนักลงทุนต่างชาติ ทำให้มีเงินทุนหลั่งไหลเข้าประเทศ ซึ่งหากใช้กฎเกณฑ์ดูแลการลงทุนเหล่านี้ให้อยู่ในลู่ในทาง ก็ย่อมจะส่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศอย่างสูง ทั้งในเรื่องการสร้างงาน เพิ่มผมผลิต เพิ่มการส่งออกและสร้างความเจริญเติบโตให้เศรษฐกิจ

"แน่นอนว่าประเทศพัฒนาแล้วย่อมรับประโยชน์มากกว่าเรา แต่ถ้าเราดูประเทศที่เหมือนๆ เรา เช่นเพื่อนบ้านของเราจะพบว่าเราไปได้มากกว่า ตอนนี้เราอยู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน ผมจึงไม่คิดว่าจะเป็นการเจรจาเพื่อผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ต้องเพื่อผลระยะยาวในด้านการลงทุนด้วย ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังเล่าอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นความลับเป็นอย่างยิ่ง ผมเองก็ยังเปิดเผยไม่ได้" รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวในที่สุด

ธิติกมล สุขเย็น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net