ประเด็นคิดราคาแบบนับซ้ำ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งประเด็น สินบนมันออกมาจากส่วนต่างราคา คิดราคาแบบนับซ้ำ

....มีเงินอยู่ 2 ก้อนผมก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่ามีการสร้างส่วนต่าง ราคาโดยปราศจากเหตุผลจริงๆ จึงมีจำนวนเงินอยู่ 2 ก้อน ที่อาจถูกนำไปใช้ให้สินบนตามแนวทาง ที่เขาสรุปไว้ในเอกสารที่กราบเรียน

…..ที่กราบเรียนมาทั้งหมด ท่านประธานจะเห็นครับ ว่าการอนุมัติโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ตรงนี้ ไม่ปกติเลย รัฐบาลที่เป็นคนซื้อของเนี่ยไม่มีแบบกลางของตัวเอง ให้คนขายไปออกให้ ไม่มีคณะกรรมการที่จะไปประเมินอะไรทั้งสิ้นว่ามันสมเหตุสมผลมั้ย ไม่มีราคากลาง ทั้งหมดทำตามแนวทาง ที่เหมือนให้ฝ่ายขายทำตามใจชอบ และระหว่างที่ชุลมุนที่กราบเรียนระหว่างกลางปี 2546 ก็ไปล็อคกันเรียบร้อย ทั้งสหรัฐฯ ทั้งไทยที่กระผมกราบเรียนว่ามีสัญญาเกิดระหว่างอินวิชั่นกับแพทริออต และมีการก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาขึ้น เพื่อรับงานนี้โดยเฉพาะด้วย เพราะฉะนั้นตรงนี้ประเด็นว่า การอนุมัติโครงการไม่ชอบมาพากลไหม มีการสมคบไหมผมว่ามีการชัดเจน และต้องนำมาสู่การซื้ออุปกรณ์นี้แบบนี้ ประเด็นที่ 2 คือ เมื่อตั้งโครงการ อนุมัติตั้งวงเงินมาแล้ว มันมีการไปทำส่วนต่างราคาเป็นทอด เพื่อให้เกิดกำไรที่เอาไปจ่ายในส่วนไม่ถูกต้องหรือไม่

มาดูราคาต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร แต่ รมต.เคยพยายามชี้แจงเรื่องส่วนต่างราคา อธิบายยาว และทำเป็นแผนภูมิขึ้นมา ผมบอกก่อนว่าถ้าวันนี้แจงเหมือนเดิม แผนภูมิที่ท่านเคยทำคงจะยากอยู่ เพราะเดี๋ยวผมจะชี้ให้ชัดเจนว่า ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น และถ้าไม่ชี้แจงตามนี้ ก็ต้องถามว่าวันนั้นทำไมชี้แจงอย่างนั้น ท่านประธานผมไม่ทำให้เกิดความสับสนและท่าน รมต.อย่าทำความสับสน ผมจะดูเฉพาะราคาเรื่องซีทีเอ็กซ์ 6 เครื่อง บวกอุปกรณ์ที่ประกอบ และบริการที่เกี่ยวข้อง ผมไม่พูดสายพาน ก็มาทำความตกลงกันก่อนว่าข้อเท็จจริงที่ 2 ฝ่ายยอมรับตรงกันคือ ซีทีเอ็กซ์ 26 เครื่อง บริการอุปกรณ์ต่างๆจะมีทั้งหมด 17 รายการตามสัญญาที่ปรากฎระหว่างไอทีโอกับ บทม. ไอทีโอขายให้ บทม.ราคา 2,608 ล้านบาท ไอทีโอไปซื้อจากแพทริออตในราคา 2,003 ล้านบาท และแพทริออตซื้อจากอินวิชั่นในราคา 1,432 ล้าน ตรงนี้เราไม่ต้องโต้แย้งกันเลย เพระราคาที่ บทม.ซื้อจากไอทีโอ ปรากฏในสัญญาชัดเจน และราคาที่แพทริออต ซื้อจากอินวิชั่นก็ตามคำให้การที่ปรากฏอยู่ ในเอกสารของสหรัฐฯ เพราะฉะนั้น จากต้นทาง 1,400 ล้าน เพิ่มเป็น 2,600 ล้าน ต่างกัน 1,200 ล้าน ต้องถามว่าจากอุปกรณ์ทั้งหลายที่ออกจากอินวิชั่นมาติดตั้งที่สนามบิน ทำอะไรมากมายถึง 1,200 ล้านหรือ

แผนภูมิท่านพยายามชี้แจงเยอะไปหมด แต่ผมตรวจสอบแล้วผมบอกได้เลยว่ามีการบวกราคาเข้าไปทั้ง 2 ทอด คือไอทีโอก็บวก บวกจากซื้อแพทริออต และแพทริออตก็บวกจากที่ซื้ออินวิชั่น ผมเอาส่วน ไอทีโอ ก่อนซึ่งต่างกัน 600 ล้าน รมต.เคยชี้แจงว่าไอทีโอเขาจะต้องมีค่าใช้จ่าย อโลเคชั่น โอเวอเฮด ภาษีหัก ณ ที่จ่าย โปรเจคแอดมินซุปเปอร์วิชั่น อีดีเอ็กซ์ อินดิเกรชั่น ค่าจ้างวิศวกรอิสระ ค่าบริการการค้ำประกัน 2 ปี โอเวอร์เฮดกำไร วิธีที่ดูคือ ดูว่า บทม.ที่ตีมูลค่าลงนามในสัญญา 2,600 ล้าน ได้อะไรบ้างจากไอทีโอ มีทั้งหมด 17 รายการ ผมไม่เสียเวลาอ่าน เริ่มต้นจากตัวเครื่องตรวจวัตถุระเบิดไป จนถึงติดตามวัตถุระเบิด ทำลายวัตถุระเบิด ยานพาหนะขนวัสดุอันตราย และมีรายการทั้งหมด 17 รายการ มูลค่า 2,608 ล้านบาท และผมไปดูอะไร ผมไปดูว่า ไอทีโอเขาทำสัญญากับ แพทริออตในราคา 2,003 ล้านบาท ซึ่งต่างกัน 600 ล้าน เขาซื้ออะไร น่าอัศจรรย์ก็คือว่า เขาซื้อ 17 รายการ ถ้อยคำเหมือนกันหมด ไม่มากกว่า ไม่น้อยกว่าเลยครับ สิ่งที่ไอทีโอได้มาจากแพทริออต ก็คือสิ่งที่ไอทีโอส่งมอบให้ บทม. ไม่ได้เพิ่มไม่ได้ลดแต่มีส่วนต่างราคา 600 ล้านบาท เอาละเราจะบอกว่าเขาอาจจะต้องมีค่าบริหารจัดการ ยอมให้กำไรเขาบ้าง ผมยอมเลยครับ ท่านรัฐมนตรีบอกว่า ให้เขาไม่เกิน 8.6 เอาผมตีให้ บวกค่าบริหารค่าอะไรไปอีกซัก 2 เปอร์เซ็นต์ เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ก็ได้ 2,000 ล้าน 10 เปอร์เซ็นต์ 200 ล้าน อีก 400 ล้านทำอะไร แต่ว่าเขาเข้าใจทำนะครับในการทำราคาให้มันโป่งขึ้นมา คือรายการแรก คือเครื่องซีทีเอ็กซ์ 26 เครื่อง ผมทำตารางเปรียบเทียบเลยครับว่า เขาบวกเข้าไปเท่าไหร่ เขาบวก 8.8 เปอร์เซ็นต์ ผมถือว่าไม่ผิดปกติ รายการที่ 2 อุปกรณ์ติดตามวัตถุระเบิด เขาบวกไป 9 เปอร์เซ็นต์ เอาละยอมกันได้ รายการที่ 3 อุปกรณ์ทำลายวัตถุระเบิด เขาบวกไป 8.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่ากัน รายการที่ 4 ยานพาหนะขนวัสดุอันตราย 7.4 เปอร์เซ็นต์ ที่บวกเข้าไป ก็คงไม่ผิดปกติ ที่เขาไม่บวกรายการพวกนี้ครับท่านประธานครับ เพราะมันบวกยาก ของพวกนี้มันไปตรวจสอบได้ว่าราคาเท่าไหร่ แต่วิธีที่เขาทำก็คือว่า รายการที่ 5-17 พอไอทีโอไปซื้อจากแพทริออตเขาไม่จำแนกว่าแต่ละรายการราคาเท่าไหร่ เขารวมไปเป็นยอดเดียวเลย รายการที่ 5-17 ไอทีโอซื้อจากแพทริออต ราคา 242 ล้านบาท แต่เขามาขายให้ บทม. ราคา 692 ล้านบาท บวกราคาเข้าไป 450 ล้านบาท กำไรเท่าไหร่ทราบมั๊ยครับ 186 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 8.6 นะครับ เอาจุดทศนิยมออกไปเอาเลข 1 ใส่ข้างหน้าอีกครับ 186 เปอร์เซ็นต์ ต้องตอบให้ได้นะครับว่าที่เขียนเหมือนกันทุกรายการมันเพิ่มอะไรนักหนาขึ้นมา 186 เปอร์เซ็นต์ นี่คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มราคาในตอนที่ไอทีโอเอามาขายให้ บทม. คราวนี้ลองย้อนกลับไปดูว่าแล้วที่ไอทีโอซื้อจากแพทริออต แพทริออตซื้อจากอินวิชั่น บวกด้วยหรือเปล่า อันนี้ก็ต่างกันอยู่ประมาณ 600 ล้านเหมือนกัน เพราะจาก 1,400 ขึ้นมาเป็น 2,000 ก่อนที่จะไปขายให้เป็น 2,600 ตรงนี้ท่านรัฐมนตรีก็พยายามชี้แจงว่ามันมีอุปกรณ์ เครื่องตรวจละอองระเบิดต่างๆ ซอฟต์แวร์อะไรเยอะแยะไปหมด ผมก็บอกว่าวิธีบวกตรงนี้ ไม่เหมือนกับที่บวกในช่วงเมื่อกี้ วิธีบวกช่วงนี้คือว่า เอารายการมานับซ้ำ รัฐมนตรียิ้ม คงรู้ว่าจริง

ทำไมถึงนับซ้ำ คือรายการที่เขาบอกว่า มาขายให้กับทางไอทีโอ เขาจะมีเขียนในรายการที่ไม่ใช่ตัวเครื่อง Multiplexing Network, HPS System Software, System Program Application อะไรต่างๆ ผมก็อยากรู้ว่า ของพวกนี้มันเพิ่มจากอุปกรณ์ตัวแรก คือ ตัวเครื่อง 26 เครื่องหรือเปล่า เพราะตัวเครื่องมันมีราคาที่บ่งบอกชัดเจน ถามว่าผมจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาตีราคาตัวเครื่องตรงนั้นมันรวมอะไรบ้าง ผมไปเอาใบอนุญาตการส่งออก ที่สหรัฐฯ มา ใบอนุญาตการส่งออกของที่สหรัฐฯ ซึ่งตีมูลค่าของที่ส่งออก 1,400 กว่าล้าน เขาเขียนชัดเจนว่าไม่ได้มีเฉพาะ 26 เครื่อง มี MUX Product, System Software, Hardware ที่ Connect Multiple CTX 9000 System มี Multiple Work Stations มี Work Stations และรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ คือโดยสรุป ที่บอก 1,400 มาเพิ่มอีกเล็กน้อยเป็น 1,600 มันไม่ใช่เฉพาะตัวเครื่อง มันรวมของพวกนี้อยู่แล้ว แต่มาทำรายการพวกนี้แตกออกมาอีก เพื่อมาคิดเงินเพิ่ม ไม่ได้มีเฉพาะตัวนี้ จดหมายจีอีที่ตอบรัฐบาลมา ไปถามเขาว่า ราคาที่ขายซีทีเอ็กซ์ 9000 เท่าไร เขาก็ตอบมาเลย 35.8 ล้านเหรียญ มีเครื่องซีทีเอ็กซ์ 26 เครื่อง บวกผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ รวมทั้ง Software, Multiplexing Integration Service and Maintenance Service แต่รายการย่อยๆ พวกนี้มาแตกออก คิดเพิ่มอีกรอบ

ทนายความของบริษัทแพทริออตมาให้การ บอกว่าแพทริออตซื้อระบบเครื่องตรวจวัตถุระเบิด 26 เครื่อง รวมอุปกรณ์ประกอบ และ option ต่างๆ และอะไหล่สำรอง 2 ปี ในมูลค่า 33 กว่าล้านเหรียญ แต่เวลาที่ท่านมาแจกแจง อุปกรณ์ต่างๆ แม้กระทั่งอะไหล่สำรอง 2 ปี มาคิดแยกเป็นอีกรายการ เหมือนบอกขายมือถือแล้วแถมหูฟัง แต่เวลาวางบิล เก็บค่าหูฟังอีก เพราะฉะนั้น 2 ส่วนนี้ เดี๋ยวมีเพื่อนสมาชิกมาคำนวณให้เห็น รวมกันแล้วมีเงินที่อธิบายไม่ได้ประมาณ 600 ล้าน เพราะฉะนั้นประเด็นที่ 2 ที่กระผมกราบเรียนท่านประธานก็คือว่า นอกจากสมคบกันขายของ เรียบร้อยแล้วก็ขายกันเป็นทอดๆ แล้วบวกราคากันเข้าไปเพื่อมีช่องว่างที่จะไปจ่ายเงินสินบนที่เป็นการทุจริต ก็มาถึงประเด็นที่สาม ว่าเมื่อทำกันมาอย่างนี้แล้วสรุปแล้วมีการจ่ายเงินมั๊ย รัฐบาลชอบมากเลยครับ เวลาที่ไปถามเขาแล้วให้บริษัทเขาตอบมาให้รัฐบาลเขาตอบมาบอกว่า เขาไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินของบริษัท จีอี มาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่สินบน แต่ที่ผมลำดับเรื่องมาให้ท่านประธาน มันไม่มีเงินออกมาจากจีอีอยู่แล้ว มันไม่เหมือนที่ฟิลิปปินส์ ที่จีน ผมเล่าให้ฟังสั้นๆ ที่ฟิลิปปินส์ ที่จีนเวลาติดสินบนเขาไปขอตัดเอาจากกำไรที่บริษัทได้แล้วบริษัท ก็เลยต้องไปตกแต่งบัญชีว่า ให้ค่าใช้จ่ายมันเพิ่มขึ้น นั่นคือเงินออกจากบริษัทไปเป็นสินบน แต่กรณีของประเทศไทย ที่เขาบรรยายไว้เงินไม่ทันถึงมือจีอี อินวิชั่น เพราะเงินออกจากประเทศไทย น่าเจ็บใจว่างานนี้ไม่ได้ไปแบ่งกำไรฝรั่ง เอาเงินประชาชนไปให้ ถามว่า จ่ายเงินกันรึยัง ในโครงการ 4,500 ล้าน โดยสรุปคือ จ่ายเงินไปแล้วประมาณ 2,900 ล้าน เฉพาะ 17 รายการที่ผมพูดว่ามันโป่งขึ้นมาเป็น 2,600 ล้าน จ่ายไปแล้ว 1,500 ล้าน

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ตอบ

ประเด็นเรื่องของว่า ไอทีโอซื้อจากแพทริออตในราคา 2 พันล้าน แล้วไอทีโอมาขายให้กับ บทม. 2,600 ล้านบาท ส่วนต่างตรงนี้หายไปไหน มีการพูดกันมากเรื่องส่วนต่าง 600 ล้านบาท ที่บอกกันว่าไอทีโอเอางานของแพทริออตมาเสนอ บทม. แล้วก็เอากำไรไป 600 ล้านบาท โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ก็เป็นความจริงครึ่งเดียวที่มาเสนอ

ในส่วนของ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนแรก 2,300 ล้าน เป็นส่วนของแพทริออต ผมคิดว่าท่านประธานและสภาแห่งนี้คงรับทราบไปแล้วว่าเป็นต้นทุนที่แพทริออตขายให้กับไอทีโอ แล้วก็ได้มีการยืนยันกันไปเรียบร้อยว่า มีการขายให้กับไอทีโอจริงในราคา 2,003 ส่วนอีก 605 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้นนั้น มีการกล่าวหากันหนักหนาว่าไอทีโอได้กินส่วนต่างไปฟรีๆ แล้วก็มีการกล่าวหาเลยไปอีกว่า เงินส่วนนี้ที่จะเอามาจ่ายให้กับนักการเมือง จนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจผิดกันไปทั่วประเทศ พูดความจริงครึ่งเดียว ไม่ดูรายละเอียด หรืออาจไม่รู้รายละเอียดก็ได้ อุตส่าห์ไปดูถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งหลายครั้ง หลายคณะ จนขณะนี้เจ้าหน้าที่ บทม.ไม่ต้องทำอะไรแล้ว 2 เดือนแล้ว แต่ก็ได้ข้อมูลมาเพียงครึ่งเดียว ที่ปรึกษาเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงก็ไม่ยอมฟัง บอกว่าไปหาข้อมูล แต่ไม่ฟังเขา กลับไปพูดต่อว่าเขา คนไปหาข้อมูลมีความรู้ขนาดนั้นไม่ถาม แถมยังจะไปสอนอีก

ท่านประธานที่เคารพครับ ผมขออนุญาตท่านประธานดูชาร์ตนะครับ ชาร์ตนี้ นี่นะครับราคาซื้อมา 2,003 ล้านบาท ทางไอทีโอจ่ายให้กับแพทริออตไป แล้วทางไอทีโอ ในส่วนที่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายของไอทีโอ ส่วนแรกจำนวน 280 ล้านบาท ก็เป็นของภาษี อากรสแตมป์เอย แล้วก็เรื่องค่าใช้จ่ายในสำนักงาน ซึ่งทางท่านอภิสิทธิ์ก็บอกไปแล้วว่าให้คิดได้ แล้วก็มีกำไรอยู่ 3 เปอร์เซ็นต์ เยอะไหมครับ ไม่ใช่ทำกำไรไป 3 เปอร์เซ็นต์ เสร็จแล้วได้กำไร 3 เปอร์เซ็นต์ แล้วกลับไปบ้านนอนนะครับ แต่ยังนอนสะดุ้งไปอีก 2 ปี เพราะจะต้องรับผิดชอบทุกวันทุกคืน ที่สนามบินเปิดวันละ 24 ชั่วโมง ทุกวันต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นนี่ก็คือส่วน 280 ล้าน ที่ทางไอทีโอได้คิดกับทาง บทม. เหลืออีก 325 ล้าน ผมจะอธิบายให้ฟังว่า ผู้รับจ้างเขาทำอะไรกับ บทม.บ้าง ส่วนที่ 2 69 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานในช่วงเวลารับประกัน 2 ปี ซึ่งจะต้องไปจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลการทำงานของเครื่องทั้งระบบ ทั้งผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดูแลระบบสายพาน ผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดูแลระบบเชื่อมโยงสายพานกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด

ผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องดูระบบไฟฟ้า ดับเพลิง ผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องดูแลรับผิดชอบระบบซอฟต์แวร์เชื่อมโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอินถึงกระเป๋าขึ้นเครื่อง เป็นเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน 2 ปีไม่มีวันหยุด ทำไม่ต้องถึง 24 ชั่วโมง เพราะเครื่องบินขึ้นลงตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันต่อปี ไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว จะเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ต้องมาทำงานให้ บทม. ถ้าระบบมีปัญหาดีเลย์ กระเป๋าหายกระเป๋าตกไฟลต์มันเกิดขึ้นไม่ได้สนามบินที่ลงทุนเป็นแสนล้าน นี่คือส่วนของ 69 ล้านบาทที่จะต้องทำงานให้ บทม.เป็นเวลา 730 วัน คิดแล้วตกวันละ 90,000 กว่าบาทต่อวัน สำหรับการจ่ายให้ผู้มาทำงานดูแลระบบสายพานที่ต้องลำเลียงและตรวจกระเป๋าชั่วโมงละ 10,000 ใบ วันละประมาณ 200,000 ใบ ซึ่งในส่วนนี้ยังมีส่วนที่จะต้องไปเตรียมค่าน้ำค่าไฟ เพื่อให้ทางบริษัท แพทริออต เวลาเข้ามาทำงานในสัญญาระหว่างแพทริออตกับไอทีโอจะต้องเตรียมอีกหลายเรื่องให้แพทริออต ก็จะอยู่ในส่วน 69 ล้านบาท ตกลง 605 ลบไป 280 ลบไป 69 เหลือ 255 ล้านบาท ผมจะอธิบายให้ฟังว่า บทม.จะใช้ประโยชน์อะไรกับการจ่ายเงิน 255 ล้านบาทนี้ เงิน 255 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นค่าจ้างในการออกแบบซอฟต์แวร์เชื่อมระบบสายพานลำเลียงกระเป๋ากับระบบตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ที่แพทริออตทำ

ระบบสารสนเทศของสนามบินเอมส์ และระบบอื่นๆ ในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน เราซื้อระบบตรวจสอบระบบนะครับ เราไม่ได้ซื้อเครื่องตรวจสอบระบบ ส่วนของแพทริออตเขาทำแต่เครื่องตรวจสอบระเบิด เราซื้อระบบ ซึ่งระบบต้องประกอบด้วยสายพาน พูดง่ายๆ ก็คือ เงินที่จ่ายไป 100 ล้านบาท จะทำให้ บทม.ได้ซอฟต์แวร์เชื่อมโยงระบบการทำงานของระบบสายพานลำเลียงและเครื่องตรวจวัตถุระเบิดให้เข้ากับทุกระบบในสนามบิน และซอฟต์แวร์เหล่านี้จะเป็นทรัพย์สินของ บทม.ที่สามารถนำไปปรับกับสนามอื่นๆ ได้ ตรงนี้แหละครับที่คนพยายามกล่าวหาซ้ำซ้อน ระบบซอฟต์แวร์ของซีที่เอ็กซ์มีแล้วอยู่ในส่วนของแพทริออตแล้วทำไมจะต้องมาตั้งในส่วนของไอทีโออีก ตั้งไว้เอาเงินไปจ่ายให้ใคร ท่านก็คิดได้เท่านี้แหละครับ ข้อเท็จจริงเป็นดังนี้ครับ

ผมขออนุญาตท่านประธานใช้พาวเวอร์พอยต์เพื่อจะได้อธิบายถึงการทำงานของระบบซอฟต์แวร์ ท่านประธานครับผมขอให้ดูในพาวเวอร์พอยต์ ผมขออนุญาตในการนำเสนอเรื่องราว ที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์และกล่าวหาผม ถึงเรื่องการเพิ่มเนื้องานที่ทำให้เป็นปัญหาและนำมาสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ในระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าทั้งหมด เส้นสีเหลืองคือสายพานลำเลียงกระเป๋าตามสัญญาเดิม ที่มีการประกวดราคาไว้ สำหรับรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี เดิมยาว 16 กิโลเมตร ตรงสีเหลืองยังไม่มีสีเขียวยังไม่มีซีทีเอ็กซ์ ความยาม 16 กม.เพื่อลำเลียงกระเป๋าจากที่เราโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์เช็กอินไปขึ้นเครื่องส่วนระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมก็เป็นระบบสแตนอโลนอย่างที่เราเห็นในสนามบินดอนเมือง คือ ก่อนเช็คอินนำกระเป๋าเข้าไปตรวจที่เครื่องเอกซเรย์ก่อน แล้วจึงตามไปติดสติกเกอร์แล้วจึงลากกระเป๋าเข้าไปที่เช็กอินเคาน์เตอร์ ต่อมาท่านประธานมีการปรับปรุงระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าเพิ่มเติม หลังจากมีการประชุมไอตาร์ในประเทศไทย ช่วง พ.ย.2545

ซึ่งการประชุมครั้งนั้นมีสายการบินทั่วโลกมาประชุมกัน เพื่อให้คำแนะนำในการก่อสร้างและปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นสนามบินที่ตรงกับความต้องการของสายการบิน มีเรื่องอยู่ 2 ส่วน เรื่องที่ 1 แนะนำว่า ควรจะมีสนามบินเดียวไม่ใช่ 2 สนามบิน เพราะการมี 2 สนามบินนั้นจะทำให้ค่าใช้จ่าย แต่ละฝ่ายเพิ่มเติมขึ้นมาก ส่วนผู้โดยสารก็จะต้องมีขนย้ายถ่ายระหว่าง 2 สนามบิน รวมทั้ง ณ วันเปิดใช้สนามบิน สุวรรณภูมิในวันข้างหน้า ประมาณการเพิ่มของจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ตรงนี้เองก็เลยมาพิจารณาตรวจสอบตัวเลขกัน ก็สอดคล้องตรงกันว่า ต้องขยายให้รองรับผู้โดยสารเป็น 45 ล้านคน เท่ากับว่าที่ขยาย ขยายเพราะไอตาร์นะ ไม่ใช่เพราะผม ส่วนที่สอง เมื่อขยายเป็น 45 ล้านคน สายพานลำเลียงมันก็ต้องยาวขึ้นเป็นธรรมดา เพราะกระเป๋าจากผู้โดยสารที่มากถึง45 ล้านคน และจากประมาณการณ์ว่า จะต้องมีเที่ยวบินขึ้นลงรวมทั้งปีประมาณ 340,000 เที่ยวบินต่อปี เฉลี่ยแล้วประมาณ 1,000 เที่ยว บินขึ้นลงต่อวัน เพราะฉะนั้น จำนวนกระเป๋าของผู้โดยสารที่จะเดินทางก็จะมีจำนวนมหาศาล ก็จะมีจำนวนกระเป๋าต่อชั่วโมงเป็น 10,000 ใบ สายพาน ลำเลียงก็ต้องยาวขึ้นสำหรับกระเป๋าผู้โดยสาร 45 ล้านคน ใน

ส่วนนี้เองเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมของไอตาร์ 1 มีการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 45 ล้านคน และเพิ่มความยาวสายพานอีก 6 กิโลเมตร ในส่วนแรกเพิ่มความยาวของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าเดิมอีก 2.82 กิโลเมตร กับอีก 3.18 กิโลเมตร เป็นการเพิ่มในระบบสายพานที่เป็นระบบพิเศษ ที่ใช้ลำเลียงกระเป๋าเข้าสู่ระบบเครื่องซีทีเอ็กซ์ เพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดและยาเสพติดในกระเป๋า นี่คือภาพรวมนะ ทีนี้มาดูว่าทำอะไรบ้าง แพงไม่แพงมีการกล่าวหาว่าเพิ่มงานส่วนต่าง เป็นดังนี้ เรื่องที่มีการกล่าวหากันมาตลอดหลักสำคัญของอธิบายชี้แจงว่า เรื่องซอฟต์แวร์วันนี้มีการ กล่าวหาว่าซอฟต์แวร์มีอยู่แล้ว อยู่ในส่วนรายการที่แพทริออตเสนอควบคู่มากับเครื่องซีทีเอ็กซ์อยู่แล้ว แล้วมาตั้งค่าใช้จ่ายซอฟต์แวร์ซ้ำซ้อนในส่วนไอทีโอ ท่านประธานของระบบการทำงานเป็นดังนี้

อันที่ 1 ท่านประธาน ซอฟต์แวร์ในระบบของที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสายพาน และระบบสนามบินทั้งหมดมันมีซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 เรื่อง ซอฟต์แวร์ที่ 1 เป็นซอฟต์แวร์ของระบบเอมส์ ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศหลักในการปฏิบัติหลักการสนามบินอยู่ความรับผิดชอบของผู้รับเหมารายอื่น ซอฟต์แวร์ที่ 2 เป็นซอฟต์แวร์ของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ซึ่งเป็นระบบเดิมของไอทีโอ ที่มีอยู่ใน 2,600 ล้านบาทของการประมูลในสัญญาแรก ซอฟต์แวร์ที่ 3 คือซอฟต์แวร์ระบบตรวจสอบระเบิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของไอทีโอ ซอฟท์แวร์ที่ 4 คือซอฟต์แวร์เครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท แพทริออต ซอฟต์แวร์ที่ 5 คือซอฟต์แวร์ระบบอื่นๆ ในอาคารผู้โดยสาร เรื่องซอฟต์แวร์ที่เถียงกันว่าซ้ำซ้อนกันนะครับ

ท่านประธาน มันไม่ซ้ำ เพราะว่าซอฟต์แวร์ที่เราพูดถึงคือซอฟต์แวร์ของระบบตรวจระเบิดของไอทีโอ ซึ่งจะเป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนมาเพื่อควบคุมระบบตรวจสอบ วัตถุระเบิดของตนเองแล้ว ยังต้องเชื่อมต่อประสานกันกับระบบทุกระบบ ตั้งแต่ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ระบบ Aim ที่เริ่มต้นตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอิน ไล่มาจนถึงผ่านระบบตรวจวัตถุระเบิด แล้วส่งกระเป๋าที่ตรวจสอบว่าปลอดภัยจากวัตถุระเบิด ขึ้นไปสู่เครื่องบิน

ท่านประธานครับ มาดูการทำหน้าที่ของมันนะครับ ว่ามันมีหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ซ้ำซ้อน ผมจะขออนุญาตท่านประธานอภิปรายว่า ระบบของการสั่งงานโดยระบบซอฟต์แวร์ในโครงการนี้มันเป็นอย่างไร เริ่มต้นที่ผู้โดยสารจะต้องนำกระเป๋ามาเช็คอิน แล้วก็จะเข้าสู่ระบบ พอเริ่มตั้ง ซอฟต์แวร์ตัวแรกคือซอฟต์แวร์ ของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าก็จะมีหน้าที่ 1.รับข้อมูลรหัสกระเป๋า คือบาร์โค้ด จากเคาน์เตอร์เช็กอิน 2.ซอฟต์แวร์ตัวนี้ก็จะไปควบคุมการทำงานของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า 3,400 ชุด สั่งงานด้วยมอเตอร์ 3,400 ตัว ของสายพานลำเลียงกระเป๋า เมื่อกระเป๋าเข้าสู่ระบบของการตรวจวัตถุระเบิด ซึ่งตอนนี้จะมาถึงซอฟต์แวร์ที่ไอทีโอจะต้องทำเชื่อมโยงทั้งหมด คือซอฟต์แวร์ระบบสายพานลำเลียง สื่อสารกับซอฟต์แวร์ระบบตรวจวัตถุระเบิด ซึ่งซอฟต์แวร์ตรวจระเบิดตัวนี้จะต้องทำหน้าที่ต่อไปนี้ 1.กำหนดกระเป๋าเข้าสู่สายพาน 2.จะต้องจัดคิวกระเป๋าบนสายพาน เพื่อป้อนเข้าสู่เครื่องซีทีเอ็กซ์ 3.ควบคุมการทำงานของมอเตอร์สายพาน 938 ชุด ในสายพาน 3 กิโลกว่าๆ นี่ล่ะ จะมีสายพานที่ประกอบด้วยมอเตอร์อยู่ 938 ตัว เพื่อที่จะส่งกระเป๋าเข้าไปในเครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งมีอยู่ 26 ตัว

ท่านประธานเห็นไหมครับว่า ทำไมจะต้องกำหนดกระเป๋าเข้าสู่วงสายพานตรงนี้ ถ้าไม่เขียนซอฟต์แวร์นะครับท่านประธาน เคาน์เตอร์เช็กอินจะต้องมีเต็มสนามบินแน่นอน เครื่องบินขึ้น-ลงพันเที่ยวใน 1 วัน นับเป็น 10 ไฟลท์ต่อชั่วโมง ผู้โดยสารเข้าไปเช็กกระเป๋าต่างคนต่างเอากระเป๋าเข้ามาใส่ ถ้าไม่มีการกำหนดกระเป๋าให้เข้าสู่วงสายพาน ไม่มีการจัดคิวกระเป๋าเข้าสู่สายพานเพื่อเข้าซีทีเอ็กซ์ กระเป๋าใบไหนจะเข้าก่อนเข้าหลัง ไฟลต์บินไหนจะออก่อน-หลัง ถ้าตัวนี้จัดระบบไม่ดี มันจะทำให้กระเป๋าตกเครื่องบิน หรือเครื่องบินดีเลย์ นี่เป็นความจำเป็นที่ต้องมีและหัวข้อสำคัญ เพราะกระเป๋าเวลาขึ้นเครื่องบิน เราไม่ได้ไปก่อนเวลาเหมือนเราขึ้นรถเมล์ เพราะเราต้องไปก่อนเวลาเป็นชั่วโมง 2 ชั่วโมง ต่างคนต่างไป ไฟลต์ออกไม่พร้อมกัน

เพราะฉะนั้น ระบบที่จะต้องจัดคิวกระเป๋าเข้าเครื่องเพื่อตรวจก่อนและขึ้นก่อน ไฟลต์ไหนจะออกก่อนตรวจก่อน นี่ซอฟต์แวร์ที่ไอทีโอจะต้องเป็นคนเขียนและจะต้องเป็นคนจัด

เมื่อเสร็จแล้วก็เข้าสู่ระบบสายพานจัดลำดับ เข้าสู่เครื่องอ่านรหัสกระเป๋าเพื่อรับทราบและติดตามการเคลื่อนไหวของกระเป๋าทุกใบ เมื่อเข้าไปสู่ระบบการตรวจสอบระเบิดและยาเสพติด เพื่อจะได้รู้ว่าใบไหนมีปัญหา ใบไหนไม่มีปัญหา นี่คือหน้าที่ของซอฟต์แวร์นี้ เมื่อกระเป๋าเข้าสู่วงสายพาน ซอฟต์แวร์นี้จะทำการเฉลี่ยกระเป๋าบนความเร็ววินาทีละ 1 ใบ เพื่อให้เข้าสู่เครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งมีอยู่ 26 เครื่อง ได้อย่างแม่นยำ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องซีทีเอ็กซ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นต้อง 10,000 ใบ ต่อชั่วโมง อันนี้เป็นสาระสำคัญ ซอฟต์แวร์ก็จะต้องสั่งงานอย่างแม่นยำในการจัดเรียงกระเป๋า และส่งไม่ให้เครื่องแต่ละเครื่องว่างเลย เพราะเครื่อง 26 เครื่อง มันจะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา มันจะต้องมีกระเป๋าวิ่งผ่านทั้ง 26 เครื่อง

ทีนี้ เมื่อกระเป๋าจากวงสายพาน ซอฟต์แวร์ในระบบตรวจระเบิดก็จะจัดกระเป๋าเข้าสู่เครื่องซีทีเอ็กซ์ แล้วก็จะเชื่อมซอฟต์แวร์ทั้งหมดส่งต่อไปให้คอมพิวเตอร์ของซีทีเอ็กซ์ ซึ่งตรงนี้เห็นได้ว่าคือหน้าที่ หนึ่งแล้วนะครับที่ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะฉะนั้นข้อมูลจะถูกส่งเข้ากับซอฟต์แวร์ของซีทีเอ็กซ์ หน้าที่ของซอฟต์แวร์ของซีทีเอ็กซ์ เป็นเพียงว่าสแกนกระเป๋าเพื่อค้นหาวัตถุระเบิดและยาเสพติดในกระเป๋าเท่านั้น ซอฟต์แวร์ตัวนี้จะทำหน้าที่เฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับซีทีเอ็กซ์ ซึ่งระบบซอฟต์แวร์ที่แพทริออตรับไปทำจะมีเพียงแค่การทำหน้าที่ในส่วนของการค้นหาระเบิดและยาเสพติดเท่านั้น ซึ่งจะมีระบบที่เกี่ยวข้องอยู่ 4 ส่วน ซอฟต์แวร์ที่แพทริออตเป็นคนจ่ายอยู่ในค่าจ้างก็คือ ซอฟต์แวร์ระบบมัลติเพล็กซิ่ง เชื่อมข้อมูลของการทำงานซีทีเอ็กซ์ไปสู่ห้องคอนโทรลรูมที่มีซีซีทีวี เข้าสู่ห้องโอเอสอาร์ ตรวจหาสารละอองเคมีที่เกี่ยวกับวัตถุระเบิด และยาเสพติด และเข้าไปสู่ห้องบีไออาร์ ดูภาพในกระเป๋าผ่านเครื่องซีทีเอ็กซ์เท่านั้น นี่คือระบบที่ท่านบอกว่ามีอยู่แล้วไปตั้งซ้ำซ้อน มันมีอยู่แค่นี้มันไม่ได้มีมากกว่านี้

ท่านประธานครับ ฉะนั้นส่วนที่เกินมาที่อธิบายตั้งแต่ต้นเป็นเรื่องที่ต้องเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์เข้ามาคุม นอกจากนั้น หลังจากกระเป๋าออกจากเครื่องซีทีเอ็กซ์แล้ว ซอฟต์แวร์ซีทีเอ็กซ์จะคืนซอฟต์แวร์ให้กับสายพานตรวจระเบิด ก็จะมาที่ซอฟต์แวร์ที่เป็นของไอทีโอส่งข้อมูลกลับมาที่นี่อีก ถ้าตรวจแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์เคลียร์ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเคลียร์แล้วก็ให้ขึ้นเครื่อง ก็จะส่งข้อมูลไปให้ระบบสายพานลำเลียงเพื่อจะเอาไปขึ้นเครื่องแต่ถ้าไม่เคลียร์ต้องส่งข้อมูลไปสู่ห้องตรวจวัตถุระเบิดและยาเสพติด มันจะต้องถูกสั่งงานซึ่งซอฟต์แวร์ซีทีเอ็กซ์จะเป็นคนตัดสินใจในเบื้องต้นโดยอัตโนมัติว่า กระเป๋าใดน่าสงสัยหรือไม่ นั่นคือส่วนที่แพทริออตรับทำ

ถ้าส่วนที่ไม่มีก็ต้องรับต่อแล้วส่งมาทางนี้ ก็ต้องรับต่อแล้วส่งไปยังระบบสายพานลำเลียงเพื่อไปเอาขึ้นเครื่องบิน ในตรงนี้เองแม้ว่าซอฟต์แวร์ ของซีทีเอ็กซ์จะได้ตรวจแล้วซอฟต์แวร์ระบบนี้ยังจะต้องทำหน้าที่ประสานงานข้อมูลผลการ สแกนซอฟต์แวร์ของซีทีเอ็กซ์ด้วยว่าใบไหนมีปัญหาใบไหนไม่มีปัญหาเพราะเมื่อมีปัญหาจะได้แจ้งไปที่เคาน์เตอร์เช็กอิน แจ้งไปที่ไฟล์บินเพื่อเอาผู้โดยสารลงมาแล้วเอากระเป๋าผู้โดยสารส่วนที่เหลือออกเพื่อไม่ให้มีปัญหาในเรื่องของไฟล์บินที่จะต้องดีเลย์ต่อไป เมื่อหาไม่พบแล้วเมื่อไปห้องตรวจละอองสารเคมีวัตถุระเบิดซอฟต์แวร์ซีทีเอ็กซ์จะถูกส่งกลับคืนมายังซอฟต์แวร์ของระบบตรวจสอบระเบิด และส่งไปยังระบบสายพานลำเลียงแล้วกระเป๋านี้จะขึ้นเครื่องบินไป นี่คือหน้าที่ทั้งหมดของซอฟต์แวร์ที่เรากำลังเถียงกันอยู่ เห็นมั้ยครับท่านประธาน ผมบอกว่ามีซอฟต์แวร์ในส่วนของแพทริออตที่คิดค่าใช้จ่ายจริงก็มี และมีระบบที่ใช้ส่วนตรงนั้นของซอฟต์แวร์อื่นมาคุมเพื่อเชื่อมโยงระบบทั้งระบบอย่างที่ผมชี้แจงไม่มีความซ้ำซ้อนครับท่านประธานครับ

ส่วนสุดท้ายก็ 17 ล้านบาท ก็เป็นค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญอิสระ เรียกกันว่า อินเฮาส์ สเปเชียลลิสต์ มาทำงาน 2 ปี มีหน้าที่พิจารณาหาข้อยุติในกรณีที่ผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา มีปัญหา ไม่สามารถตกลงการทำงานร่วมกันได้ เช่น แพทริออต ติดตั้งเครื่องซีทีเอ็กซ์เสร็จแล้ว ผู้ควบคุมงานไม่ยอมรับ มีข้อโต้แย้งกันทางการส่งมอบงาน รับมอบงาน การจ่ายเงินค่าจ้าง ก็ต้องมีคนกลางตัดสิน ซึ่งก็คือผู้เชี่ยวชาญอิสระคณะนี้ การจ้างผู้เชี่ยวชาญอิสระของไอทีโอเป็นเรื่องปกติของการทำงานโครงการขนาดใหญ่ ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งมามีในโครงการนี้ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อื่นๆ ก็มีอยู่ หากพิจารณาวงเงินที่จัดจ้างทำงาน 2 ปีแล้ว เฉลี่ยก็ตกเดือนละประมาณ 7 แสน ซึ่งผมเชื่อว่าไอทีโอจ้างด้วยราคาที่มีเหตุผล สำหรับผู้ที่จะมาทำหน้าที่ชี้ขาดโต้แย้งของงานที่มีมูลค่าสูงถึง 6,900 ล้านบาท

ท่านประธานที่เคารพครับ จากที่ผมได้นำเสนอให้ท่านประธานได้รับทราบทั้งหมดนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า เงินส่วนต่าง 605 ล้านบาท ที่มีการพูดกันมาก พูดกันเหลือเกิน ใส่ร้ายใส่ความกันทุกวันว่ามีนักการเมืองหากินกับส่วนต่าง 605 ล้านบาท นั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น การจ้างไอทีโอทำงานนี้เป็นการจ้างแบบล่ำซำในสัญญา ตั้งแต่สัญญาหลักเดิม คือ เหมาจ่าย ไม่ได้แยกจ้างเป็นงานๆ แบบที่ท่านนำมาแยก 12 รายการ แต่การแยกของไอทีโอที่เสนอให้ บทม. เพื่อเป็นการแยกไว้ในกรณีที่ว่าอยู่ในช่วงระยะประกัน 2 ปี ถ้าเกิดปัญหาก็จะสามารถเคลมกันได้ เรียกร้องชดเชยค่าเสียหายกันได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท