ประชาไท -28 มิ.ย.48 กรมประชาสัมพันธ์ยอมรับใช้ พ.ร.บ.วิทยุกระทรวงเสียงฯ 2498 ออกจดหมายกล่าวโทษคลื่นวิทยุชุมชน FM 92.25ขัด พร้อมแจงไม่เกี่ยวเรื่องปิดเว็บไซต์

นายปราโมช รัฐวินิจ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีส่งจดหมายเตือนคลื่นวิทยุชุมชน FM 92.25 MHz ให้ปรับปรุงเนื้อหาที่มีการยุยง ปลุกปั่นประชาชนให้แตกความสามัคคี ว่าเป็นไปตามหน้าที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะเนื้อหารายการ (ความจริงสถานการณ์) ดังกล่าว ขัดกับพ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 มาตราที่ 16 (2), (4) และ (6) ซึ่งออกโดยรัฐสภา ซึ่งมีเนื้อหาไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ดูหมิ่น เหยียดหยามเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลุ่มชุมชนใด

นายปราโมช กล่าวต่อไปว่า ตนคิดว่ารัฐบาลในสมัยนั้น คงต้องการให้คนในชาติเกิดความสามัคคีกัน จึงได้ตรา พ.ร.บ.ฉบับนี้ขึ้น

ระบุรัฐอ้างกม.เก่าจำกัดสิทธิฯ สื่อ

สำหรับกฎหมาย วิทยุกระจายเสียงฯ พ.ศ 2498 ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ใช้เป็นข้ออ้างในการกล่าว โทษวิทยุชุมชน 92.25 นั้น เคยถูกวิจารณ์จากนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนโดยใน รายงาน "สถานการณ์ด้านสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในรอบปี 2546" จัดทำโดย ผศ.ดร. วิลาสินี พิพิธกุล นักวิชาการประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ เสนอต่อสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ระบุว่า เป็นการอ้างกฎหมายเก่าที่ขัดรัฐธรรมนูญมาคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน

"…ภาวะของการเลือกปฏิบัติที่รัฐยังคงอ้างกฎหมายฉบับเก่า ที่ขัดกับหลักการรัฐธรรมนูญมาใช้ควบคุมสื่อ เช่น พรบ. การพิมพ์ พ.ศ.2484 พรบ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 เป็นต้น การเพิกเฉยและละเมิดหลักการแห่งสิทธิมนุษยชนและหลักรัฐธรรมนูญเหล่านี้เองที่เป็นปัญหาพื้นฐานของการละเมิดและคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนมาอย่างต่อเนื่อง…" รายงานฉบับดังกล่าว

ด้านนายสุวโรช พะลัง ส.ส. จังหวัดชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกมธ.ยุติธรรมฯ ให้ความเห็นว่า หนังสือที่ทางกรมประชาสัมพันธ์ร่างชี้แจงต่อปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 24 มิ.ย.48 ที่ระบุว่า "หลังจากที่กรมประชาสัมพันธ์ได้ตรวจสอบเนื้อหารายการความจริงสถานการณ์ของคลื่นวิทยุชุมชนFM 92.25 Hz ซึ่งมีนายสมาน สีงาม เป็นผู้จัดรายการระหว่างเวลา13.00-15.00 น. พบว่า มีเนื้อหาวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาล และนโยบายของสื่อที่ผิดความเป็นจริง ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความแตกแยกต่อต้านรัฐบาล" ค่อนข้างจะผิดปกติในโลกประชาธิปไตย พร้อมแนะนำให้นายปราโมชลองเปลี่ยนข้อความในเอกสารชี้แจง ให้เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากข้อความเช่นนี้มีลักษณะเป็นการกล่าวโทษ อาจทำให้ทางคลื่นวิทยุเข้าใจผิด

ด้านนายปราโมช ยืนยันว่า ทางกรมประชาสัมพันธ์ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่ทำไปตามกฎหมาย ส่วนในเรื่องการสั่งปิดเว็บไซต์นั้น นายปราโมชชี้แจงว่าไม่ใช่ภาระของกรมประชาสัมพันธ์ แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอทีซี

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทาง กมธ.ยุติธรรมฯ ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, สารวัตรอินเตอร์เน็ต, อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาครัฐ ให้เข้าชี้แจงต่อ กมธ.ยุติธรรมฯ กรณีสั่งปิดเว็บไซต์ www.fm9225.com ของคลื่นวิทยุชุมชน FM 92.25 MHz ในวันนี้ (28 มิ.ย.48) ปรากฏว่ามีเพียงตัวแทนจากกรมประชาสัมพันธ์เท่านั้นที่เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม กมธ.ยุติธรรมฯ

นพพร ชูเกียรติศิริชัย