Skip to main content
sharethis

ประชาไท-29 มิ.ย. 48 การประชุมชี้แจงและหารือ เรื่อง "ที่กระเหรี่ยงป่าผาก" ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนวันนี้ ยังไม่เคลียร์ ตัวแทนฝ่ายรัฐแบ่งรับแบ่งสู้กรณีชาวบ้านขอกันที่ทำ "ไร่หมุนเวียน" ระบุ ขัดมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 มิ.ย. 2541 เนื่องจากไม่ใช่การทำกินอย่างต่อเนื่อง แต่จะรับไว้เป็นแนวทางนำเสนอเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายสุรินทร์ ชลธารเฉลิม ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า กรมป่าไม้ได้รับเรื่องการพื้นที่การทำไร่หมุนเวียนไว้เป็นแนวทางการจัดการพื้นที่ป่า แต่ยังทำในทางปฏิบัติไม่ได้ เพราะในทางกฎหมายยังไม่ระบุให้ทำได้

ด้าน นายสุนัย เศรษฐบุญสร้าง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ชี้แจงว่า การกันที่เป็นกรรมสิทธิ์โฉนดให้เป็นเรื่องที่เกินขอบเขต แต่มีทางออกเสนอให้ที่ประชุมและตัวแทนชาว
กะเหรี่ยง บ้านป่าผาก ที่มาร่วมประชุมว่า ควรจะลองมีการทำโครงการที่รัฐและเอกชนอยู่ร่วมกันในลักษณะกรมปศุสัตว์จ้างงานชาวบ้าน และให้อาศัยในพื้นที่ รวมทั้งอาจจัดสรรพื้นที่ในลักษณะเกษตรพอเพียง

นอกจากนี้จะมีการจัดการเพื่อให้ความรู้กับชาวบ้าน อาจนำไปดูงานยังที่ต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน มีเงินเก็บในลักษณะสะสมต่อไปได้ โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีระบุว่า การทำตามวิธีนี้จะเป็นขั้นแรกที่เป็นกุญแจในการเริ่มต้นการจัดการพื้นที่ใหม่แทนที่จะมาวนเวียนกับปัญหาเรื่องเรียกร้องสิทธิ์ในที่ดินแบบเดิม เพราะหากทำได้ ก็คงทำไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายบุญชัย ศีลาเจริญ ประธานคณะกรรมการอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตก แย้งว่า ชาวกระเหรี่ยงไม่ได้เรียกร้องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เพียงแต่ขอสิทธิ์ในการทำกินเท่านั้น และไร่หมุนเวียนก็ไม่ใช่ไร่เลื่อนลอย ที่มีลักษณะทำลายป่า หากภาครัฐจะวงพื้นที่ไว้ให้ ชาวกระเหรี่ยงก็จะหมุนเวียนทำกินในวงพื้นที่นั้น

ทั้งนี้ อยากให้ทุกฝ่ายลงไปดูพื้นที่จริง ชาวกระเหรี่ยงไม่ได้ขอเอกสิทธิ์ในลักษณะปัจเจกบุคคล แต่ขอเป็นพื้นที่กลางไว้ทำกิน โดยจะแบ่งกันเองในแต่ละปีว่าในพื้นที่ดังกล่าวใครจะทำกี่ไร่ ตรงไหน หากลงพื้นที่จะเห็นภาพว่าไร่หมุนเวียนเป็นลักษณะการเกษตรบนพื้นที่ชัดเจน

ด้าน นางสุนี ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า หลังจากที่ตัวแทนของชาวกะเหรี่ยงบ้านป่าผาก เข้ามารับฟังการชี้แจง และหารือปัญหาที่ทำกินในวันนี้แล้ว ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในสิ่งที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีเกษตรฯเสนอ แต่ก็ดีใจที่หลายฝ่าย เห็นปัญหาและพร้อมให้การช่วยเหลือ ซึ่งข้อเสนอในวันนี้ชาวกะเหรี่ยงเองก็ยังไม่ถึงกับปฏิเสธ แต่จะนำไปหารือกันต่ออีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทางชาวกะเหรี่ยงเองยัง เห็นว่า แนวทางของทางผู้ช่วยรัฐมนตรียังเป็นแนวทางการจัดการในระยะยาว ดังนั้น จึงอยากให้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในส่วนของปีนี้ก่อน โดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยง 15 ราย ที่ขณะนี้ไม่มีที่ทำกินเลย จึงอยากให้ใช้ส่วนพื้นที่ของกรมปศุสัตว์บางส่วน ที่สร้างเป็นสถานีอาหารสัตว์ทับที่ดินทำกินเดิมของชาวกะเหรี่ยง เป็นที่ทำกินเฉพาะหน้าก่อน

ทั้งนี้ ชาวกะเหรี่ยงเองก็เห็นด้วยกับแนวทางของภาครัฐที่ต้องการรักษาผืนป่า และไม่ต้องการรุกที่อุทธยานแห่งชาติ พุเตย เช่นกัน

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net