ประชาไท - 29 มิ.ย. 48 พระกิตติศักดิ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ กรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทน
ราษฎร และกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอความยุติธรรม กรณีคดีฆ่าพระสุพจน์ไม่คืบหน้า

ที่อาคารรัฐสภา พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ พร้อมด้วย โยมพ่อ โยมแม่ ของพระสุพจน์ สุวโจ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ
กรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา กรณีคดีฆาตกรรมพระสุพจน์ไม่คืบหน้า เนื่องจากตำรวจไม่ยอมรับฟังข้อมูลจากผู้ใกล้ชิดพระสุพจน์ตั้งแต่แรก

โดยพระกิตติศักดิ์ ได้ชี้แจงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสรุปความให้เป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกายประเด็นเดียว โดยเชื่อว่าพระสุพจน์ไปด่าคนตัดไม้จึงถูกฆ่า รวม
ทั้งไม่มีการสอบสวนทางญาติและผู้ใกล้ชิด แต่หลังสุด ผบ.ตร.ภาค 5 ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า คงต้องมีการรื้อสอบสวนคดีนี้ใหม่ เพราะจากหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมการแนบเนียน ซึ่งต่างจากข้อสรุปที่ท่านให้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้คดีล่าช้า

ภายหลังรับฟังข้อร้องเรียน นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวว่า คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่มุ่งสรุปคดีไปประเด็นเดียว ทำให้อาจละเลยหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ทาง กมธ.ตำรวจจะช่วยเร่งดำเนินการติดตามคดีดังกล่าว

ด้านนายแพทย์ นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ความเห็นว่า กรณีของพระสุพจน์ เป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจและความมั่นคงของมนุษย์ การสูญเสียพระสุพจน์จึงไม่ได้เป็นเพียงการสูญเสียพระดีๆ แต่ยังสูญเสียนักอนุรักษ์ จึงเป็นหน้าที่ที่ทางฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องติดตามตรวจสอบ

และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย. 48) ทาง กมธ.พัฒนาสังคมฯ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบในพื้นที่ซึ่งเกิดคดีฆาตกรรมพระสุพจน์ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาความรุนแรง และหามาตรการในการคุ้มครองนักอนุรักษ์ โดยใช้กรณีพระสุพจน์เป็นกรณีศึกษา

ด้านนางเตือนใจ ดีเทศน์ รองประธานกมธ.พัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า คดีพระสุพจน์จะมองเฉพาะกรณีไม่ได้ ต้องมองภาพรวมของพื้นที่ด้วย เนื่องจากพื้นที่ซึ่งเกิดเหตุ เป็นหนึ่งใน 3 พื้นที่ ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการส่งเสริมให้ปลูกส้ม ทำให้เกิดการรุกล้ำพื้นที่ เนื่องจากทางกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่มีการจัดระเบียบ

ทั้งนี้ทาง กมธ.พัฒนาสังคมจะได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีพระสุพจน์ ทั้งฝ่ายตำรวจท้องจากส่วนกลางและในพื้นที่ กระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนกรณีพิเศษ (DSI) เข้ามาร่วมประชุมเพื่อหามาตรการในการคุ้มครองชีวิตของนักอนุรักษ์ในโอกาสต่อไป

นพพร ชูเกียรติศิริชัย