ประชาไท- รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของอิรักซึ่งกำลังจะประกาศใช้กลางเดือนหน้ากำลังสั่นคลอนความรู้สึกของกลุ่มสตรีนักกิจกรรมสังคมชาวอิรักว่า กำลังจะทำผู้หญิงต้องถอยหลังลงคลองไปอีกครั้งโดยการไม่ให้สิทธิในการฟ้องศาลในกรณีลักษณะครอบครัว

กลุ่มนักกิจกรรมสังคมสตรีอิรักกล่าวว่า ไม่ว่าจะมีอะไรที่ผิดพลาดไปภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซ็นแห่งพรรคบาธซึ่งดำเนินแนวทางมุสลิมสายกลางก็ตาม แต่พรรคนี้ก็ได้ให้ความคุ้มครองต่อสิทธิสตรีที่เข้มแข็งที่สุดในบรรดาโลกอาหรับด้วยกัน

แต่ขณะนี้กลุ่มสตรีนักกิจกรรมสังคมกำลังกลัวว่า ผู้บริหารชุดใหม่นั้นกำลังหันมาให้ความสำคัญกับการใช้กฎศาสนาซึ่งจะถอดผู้หญิงออกจากการมีสิทธิทั้งปวง  โดยเฉพาะ ถอดออกจากการที่เคยสามารถพึ่งพิงศาลพลเรือนในการคุ้มครองตนเองในกรณีการหย่าและการดูแลบุตร

"เราต้องการที่จะก่อตั้งประเทศด้วยกฎหมายซึ่งให้ความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย" ทามีม อัล- อาซาวี  นักกฎหมายและนักกิจกรรมสังคมด้านสิทธิสตรี กล่าวกับรอยเตอร์ " เรากลัวว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะไม่ยอมให้ศาลอนุญาตให้ผู้หญิงมีสิทธิได้อีกต่อไป"

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้นขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนที่นักกฎหมายกำลังวุ่นวายอยู่กับการร่างอยู่ เพื่อจะนำออกมาให้ทันการลงคะแนนลงประชาชามติในระดับชาติในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีร่างรับธรรมนูญใดๆได้ถูกนำมาเผลแพร่ต่อสาธารณะ  ทว่าในขณะที่การเจรจากันซึ่งเป็นการประชุมลับนั้น กลุ่มผู้หญิงออกมาเปิดเผยว่า สิ่งที่พวกเธอกล่าวนั้นเป็นฉบับ(เวอร์ชั่น)ที่บรรจุไว้ด้วยถ้อยคำสำนวนที่สามารถยกเลิกสิทธิสตรีได้ โดยแทนที่จะให้กรณีการต่อสู้คดีหย่าร้างกันในศาลแต่กลับจะให้ปัญหาข้อพิพาทในครอบครัวนั้นถูกตัดสินด้วยกฎศาสนาภายในชุมชนที่ครอบครัวนั้นอาศัยอยู่

"เราต้องการที่จะเห็นกฎหมายการว่าด้วยการหย่านั้นจะคล้ายๆกับกฎหมายที่ทางตะวันตกใช้กันอยู่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาและมีผลบังคับใช้กับทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาหรือ นิกายใด" ซูฮาม อัล-ฮัสซานี นักสิทธิสตรีระดับแกนนำกล่าว

การที่ข้อมูลรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังร่างกันอยู่นี้รั่วออกมา ทำให้เกิดการประท้วงเกิดขึ้นในแบกแดดโดยกลุ่มสตรีนักกิจกรรมสังคม และเรื่องราวก็ได้ลงตีพิมพ์ในนิวยอร์ค ไทมส์  ซึ่งส่งผลให้เป็นประเด็นใหญ่ที่วอชิงตันต้องพูดถึง ซึ่งเริ่มจากคำพูดของรัฐมนตรีกลาโหม ของสหรัฐฯ โดนัล รัมสเฟลด์  "ผมเชื่อเป็นการส่วนตัวว่า ประเทศใดก็ตามที่ไม่ได้นับเอาคนอีกครึ่งเข้ามารวมด้วยอย่างสมเหตุสมผลก็เท่ากับกำลังทำผิดอยู่อย่างร้ายแรง" รัมสเฟลสรุปสั้นๆกับเพนตากอน

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้รีบออกมาชี้แจงเรียกความเชื่อมั่นอีกครั้งว่า พวกเขาไม่ได้มีแผนเช่นนั้น

ที่มา: รอยเตอร์

เผยแพร่ใน: http://www.dailytimes.com.pk/default.asp?page=story_24-7-2005_pg4_10