Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

รายงาน


 


ตามที่เทศบาลนครเชียงใหม่มีโครงการที่จะพัฒนาถนนท่าแพและถนนช้างคลานให้เป็นถนนตัวอย่างที่สวยงามเพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยจะนำสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ลงไว้ใต้ดิน ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ราวปี 2546 ทว่า 2 ปีผ่านไป จนแล้วจนรอดโครงการดังกล่าวก็ยังไม่แล้วเสร็จ และถือเป็นโครงการที่ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนานที่สุด ก่อผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนอย่างมาก และส่งผลให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ถูกมองเป็นภาพลบในสายตาของนักท่องเที่ยว


 


เชื่อว่าคนเชียงใหม่เองรู้ดีว่าหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ คงเลี่ยงไม่ผ่านถนน 2 สายนี้อย่างแน่นอน เพราะสภาพถนนที่อยู่ระหว่างการขุด วางท่อ ล้วนแต่เป็นหลุม ขรุขระ ไม่เอื้อต่อการสัญจร รถเคลื่อนตัวได้ช้า ยิ่งชั่วโมงเร่งด่วนถนนทั้ง 2 สายแทบจะเป็นอัมพาต


 


แต่ปัญหาความล่าช้าของโครงการนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น แม้ไม่ใช่เป็นความรับผิดชอบของเทศบาลนครเชียงใหม่แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าฯ และโทรศัพท์ฯ ที่ต้องรับผิดชอบนำสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ลงใต้ดิน แต่ทั้ง 3 หน่วยงานมีการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตรงกันและไม่สอดคล้องกัน ทำให้การดำเนินการล่าช้าออกไปเพราะต้องรองบประมาณ เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เมื่อเทียบกับความเดือดร้อนของประชาชนและภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่


 


นายวิชัย คุณารัชตสกุล ผู้อำนวยการสำนักการช่าง เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผย "พลเมืองเหนือ" ถึงความล่าช้าของโครงการว่า ในส่วนของเทศบาลนครเชียงใหม่ จะรับผิดชอบในส่วนงานโยธาคือ การขุดและวางท่อ เพื่อรองรับสายไฟฟ้าและโทรศัพท์ ซึ่งขณะนี้โครงการขุดและวางท่อมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 80 % ส่วนที่เหลือคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนจะแล้วเสร็จ โดยในส่วนของถนนช้างคลานตั้งแต่สี่แยกวัดอุปคุตถึงสี่แยกแสงตะวัน ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ได้ทำการปูถนนแอสฟาสติกไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ นี้ เช่นเดียวกับถนนท่าแพ โดยจะเร่งปรับพื้นผิวจราจรและทางเท้าให้แล้วเสร็จภายใน 1 - 2 เดือนนี้


 


ทั้งนี้ ยอมรับว่าการดำเนินการในส่วนของการขุดและวางท่อมีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาการทำงาน เช่น ถนนท่าแพจะเริ่มต้นทำงานได้ประมาณสี่ทุ่ม เพื่อต้องรอให้การจราจรเบาบาง ส่วนถนนช้างคลานจะเริ่มทำงานได้หลังเที่ยงคืน เพราะต้องรอให้ปิดไนท์บาร์ซาร์ก่อน เพื่อไม่ให้รบกวนการสัญจรและการค้าขาย ขณะที่ตลอดระยะเวลาที่เริ่มโครงการ การทำงานไม่สามารถทำได้ต่อเนื่อง เนื่องจากถนนท่าแพและถนนช้างคลาน ซึ่งเป็นถนนยุทธศาสตร์ที่สำคัญ มักมีกิจกรรมและงานประเพณีบ่อยครั้ง ทำให้มีการปิดถนนบ่อย


 


ถนนท่าแพและถนนช้างคลานคือ ถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ เป็นทั้งย่านการค้าการลงทุน เป็นแหล่งที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญ ถนนท่าแพทอดยาวเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ในเขตตัวเมือง เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวมากที่สุด ขณะที่ถนนช้างคลาน มีไนท์บาร์ซาร์เป็นตัวชูโรง และกำลังเป็นที่หมายตาของกลุ่มทุนที่จะมาปักฐานการลงทุนบนย่านนี้ ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม ฯลฯ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมการค้า การติดต่อธุรกิจมากมาย


 


แต่วันนี้โครงการพัฒนาถนนตัวอย่างท่าแพและช้างคลาน กลับเป็นภาพสะท้อนปัญหาการจัดการท่องเที่ยวที่ซ้ำซาก ขาดการบูรณาการของหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน


 


ความล่าช้าคือความบกพร่องของการบริหารจัดการ ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่เชียงใหม่ถูกมองว่า Getting Ugly ให้แย่ลงไปอีก เพราะปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นช่างสวนทางกับความพยายามที่จะทำให้เชียงใหม่กลายเป็น "เชียงใหม่เมืองงาม" อย่างสิ้นเชิง.


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net