Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

*นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ(กอส.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "อานันท์ ปันยารชุน กับการสร้างสันติสุขภาคใต้" ให้กับนักธุรกิจจาก 6 สถาบันองค์กรเอกชน  เพื่อระดมทุนเข้ากองทุนสมานฉันท์ ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีน สปาร์ค เมื่อคืนวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา


 


 


วันนี้เป็นวันที่เป็นนิมิตที่ดีในระยะสองปีที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศมีความทุกข์ทรมาน แต่คนไทยในภาคใต้สามจังหวัดนั้นอยู่ด้วยความยากเข็ญ ยากลำบากและรับทุกข์ทรมานมากกว่าคนอื่นใดทั้งสิ้นและเหตุผลก็เกิดจากความรุนแรง เกิดจากการใช้กำลัง


 


วันนี้ สถาบันหกสถาบันที่เป็นสถาบันภาคธุรกิจเอกชนได้เกื้อหนุนมา ให้กล่าวคำปราศรัย ผมก็เลยว่าให้กล่าวคำปราศรัยความในใจของผม ผมมาที่นี่ผมก็ไม่ได้มาพูดแทนคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมาน


ฉันท์แห่งชาติ แต่ผมมาพูดในฐานะนายอานันท์ นายอานันท์ที่เป็นพสกนิกรคนหนึ่งในประเทศไทยในหกสบล้านคน นายอานันท์ที่ไม่มีตำแหน่งด้านบริหาร และนายอานันท์ที่ชั่วชีวิตนี้ก็ใฝ่ฝันอยากเห็นความจริง อยากเห็นความยุติธรรม อยากเห็นความรับผิดชอบในสังคมไทย


 


วันนี้นักธุรกิจที่มาร่วมฟังอยู่ด้วยกันนั้นเป็นนิมิตที่ดี เพราะว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของนักธุรกิจโดยทั่วไป โดยเฉพาะนักธุรกิจในกรุงเทพที่อยู่ห่างไกลสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใย ความกังวลใจ ในความเดือดร้อน หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับในทุกสังคม ปัญหาขัดแย้งมีอยู่เสมอ ปัญหาขัดแย้งถ้าปล่อยให้รุกลามต่อไป ปล่อยให้โรคนี้กินเข้าถึงกระดูก เข้าถึงหัวใจ เข้าถึงหัวสมอง โรคนี้ก็ไม่มีทางแก้ไขได้


 


ก่อนที่ผมจะเข้าปัญหาเรื่องสาระทางภาคใต้ ผมอยากจะอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้า


อยู่หัวที่ได้พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2519 คือได้มีพระราชดำรัสในวันพุธที่ 31 ธันวาคม 2518 เป็นเวลา 30 ปีมาแล้ว หลายท่านคงจำไม่ได้ หรือบางคนอาจจะยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ว่าในเดือนธันวาคม พุทธศักราช 2518 นั้น มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นที่จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สั่นสะเทือนใจคนไทยโดยทั่วไป ทำความยากลำบากให้พี่น้องชาวไทยในสามจังหวัด ไม่กี่สัปดาห์นั้นพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวซึ่งตรัสมาเมื่อ 30 ปีที่แล้วผมขออ่าน


 


"อันแผ่นดินไทยของเรานี้ ถึงจะเป็นที่เกิดที่อาศัยของคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา แต่เราก็อยู่ร่วมกันโดยปกติราบรื่นมาได้เป็นเวลาช้านาน เพราะเราต่างสมัครสมานกัน อุตสาห์ช่วยกันสร้างบ้านเมือง สร้างความเจริญ สร้างจิตใจ สร้างแบบแผนที่ดีขึ้นเป็นของเราเอง ซึ่งแม้นานาประเทศก็น่าจะนำไปเป็นแบบ


อย่าง ถ้าเราทั้งหลายมีสามัคคี มีเหตุผลอันหนักแน่นและมีความรู้ความเข้าใจอันถูกต้องชัดเจนในสถาน


การณ์ที่แท้จริง ต่างคนต่างร่วมมือร่วมความคิดกัน อันที่จะช่วยกันผ่อนคลายปัญหาและสถานการณ์ที่หนักให้เป็นเบา ไม่นำเอาประโยชน์ส่วนน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้เสียหายถึงประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติบ้านเมือง เชื่อว่าเราจะสามารถรักษาชาติประเทศ และความผาสุก สงบที่เราได้สร้างขึ้น และรักษาสืบต่อกันมาช้านานนั้นไว้ได้"


 


นี่เป็นพระราชดำรัส 30 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังเป็นพระราชดำรัสที่ยังมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน ในปี 2548 คำถามที่เราต้องถามถึงก็คือว่า แนวคิดของพระองค์ท่านแนวพระราชดำรัสนั้น ได้ซึมทราบเข้าไปในหัวใจคนไทยมากน้อยแค่ไหน คำตอบง่ายๆ คือว่า 30 ปีนี่เราไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย ไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่เราทำพลาดในอดีต  ในวันนี้ก็ได้มีการนำเสนอพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงไว้โดยพระราชหัตถเลขา ที่ 3/78 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2466 เป็นข้อความที่ค่อนข้างยาว แต่ผมขอเชิญชวนท่านทั้งหลายได้อ่านพระบรมราโชบายอันนี้เพื่อที่จะได้นำไปปฏิบัติใช้ ยกเลิกใช้ พ.ศ.2474 ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง หลังจากนั้นเราก็มีรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยซึ่งจิตใจไม่เป็นประชาธิปไตย ยังเป็นรัฐบาลที่ยังนิยมการใช้อำนาจ ยังนิยมในเรื่องของการสั่ง ในเรื่องของการครอบครองจิตใจ 30 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เรียนรู้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2466 มาเราก็ไม่ได้เรียนรู้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น ในระยะ สองสามปีนั้น ต้นเหตุและสาเหตุก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อเกือบร้อยปีที่ผ่านมา หรือเมื่อ 30 ที่ผ่านมา ปัญหาภาคใต้มันมีมาช้านานแล้ว


 


 เราคนไทยทุกคนรวมทั้งตัวผมเองประณามการกระทำรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะฝ่ายใด สังคมไทยรับไม่ได้ครับการก่อการร้าย สังคมไทยรับไม่ได้ สังคมทั่วโลกก็รับไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นนั้นกระทบ


กระเทือนชีวิตผู้คนและทรัพย์สิน โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กที่บริสุทธิ์ แต่คำถามอยู่ที่ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น ผมจะพูดเรื่องนี้ต่อไป แต่ในตอนนี้ผมขออาศัยเรียกว่าโฆษณาฟรี


 


เมื่อเร็วๆนี้ ทางรัฐบาลสนับสนุนให้ผมจัดตั้ง กองทุนสมานฉันท์แห่งชาติ รายได้หักค่าใช้จ่ายในวันนี้จากการซื้อโต๊ะทั้งหลายก็จะเป็นต้นทุนของกองทุนนี้ คาดว่าบัตรที่ขายไปร้อยโต๊ะ ก็จะมีเงินมาสู่กองทุนนี้ 4-5 ล้านบาท เท่าที่ผมได้ยินมาเมื่อประมาณ 5 นาทีนี้ ได้มีการบริจาคที่เป็นลายลักษณ์อักษรและที่ยืนยันได้แล้วประมาณ 25 ล้านบาท (เสียงปรบมือ) เงินกองทุนนี้จะนำไปเยียวยา


 


รัฐบาลปัจจุบันถึงแม้จะล่าช้าไปบ้างในอดีต และเพราะกฎเกณฑ์ทางราชการค่อนข้างจะยืด กลไกของรัฐก็ค่อนข้างจะเดินเครื่องไม่สะดวก ความล่าช้าที่เกิดขึ้นก็สร้างความผิดหวังให้กับคนที่ประสบภัย ในปัจจุบันนี้ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้รองนายกฯ จาตุรนต์ ฉายแสง ให้เป็นผู้กำกับการแสดงเรื่องของการเยียวยา เรื่องของการพัฒนาภาคใต้ ในระยะสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รองนายกฯ จาตุรนต์ ได้เดินทางไปที่ภาคใต้ นำเงินไปมอบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือว่า การเยียวยานั้นเยียวยาด้วยเงินไม่พอ พ่อเค้าตายไป สามีเค้าตายไป หรือบาดเจ็บสาหัส หรือถูกดำเนินคดีถูกจับกุมอยู่ในคุก สิ่งที่กระทบกระเทือนครอบครัวโดยทันทีคือว่า ครอบครัวนั้นขาดรายได้โดยอัตโนมัติ ลูกก็ไม่สามารถไปโรงเรียน ฉะนั้นชีวิตคนที่เสียไปไม่มีอะไรชดใช้แทนได้ การเยียวยาก็ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย ทางด้านจิตใจ กองทุนที่ตั้งขึ้นมาไม่ตั้งกองทุนที่ตั้งทับซ้อนกับสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ แต่เป็นกองทุนที่เข้ามาเสริมการทำงานของรัฐบาลซึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่แล้ว


 


แต่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการทับซ้อน ก็ได้เชิญคุณจาตุรนต์ ซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งอยู่ใน กอส.มาเป็นที่ปรึกษา ของคณะกรรมการบริหารกองทุนด้วย กองทุนนี้จะเข้าไปช่วยเสริมสิ่งที่รัฐบาลทำ อะไรที่ยังล่าช้าอยู่เบิกไม่ได้เราจะเข้าไปก่อน  ใช้เงินกองทุนไปแล้วตามอัตราที่รัฐบาลตั้งไว้ เมื่อรัฐบาลเข้ามาแทนที่ รัฐบาลก็จะคืนเงินกองทุนให้เรา แต่ถ้าเป็นเราใช้เงินเกินขอบเขตจากรัฐบาลกองทุนก็จะรับผิดชอบด้วยตัวเอง แต่พูดถึงกองทุนนี่ทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่น้ำใจของคนต่างๆ หลายครั้งหลายคราวได้รับข่าวตื่นเต้น น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นระเบิดที่หาดใหญ่ที่สนามบินนานาชาติจนทำให้น้องฮ่องเต้ อายุ 4ขวบ บาดเจ็บสาหัส หรือนางสาวกอบกุล  ผอ.โรงเรียนบ้านตือกอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ทันทีทันใดที่มีข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้แสดงความห่วงใย ต่อพสกนิกรอยู่ทั่วไป ก็ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของเด็กชายคนนี้ และครอบครัวของนางสาวกอบกุล ทันทีทันใด ก่อนที่กลไกของรัฐจะเดินทางไปถึง


 


 ผมยังจำได้ในพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้พูดถึงว่า ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาของชาติปล่อยให้รัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ คนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือ อย่างที่พระองค์ท่านได้ทรงเป็นตัวอย่างที่ดี ดังนั้นเพื่อเป็นการดำเนินตามรอยพระบาทของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ผมก็ยังนึกถึงว่า การแสดงน้ำใจต่อคนภาคใต้โดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวประชาชน ไม่คำนึงถึงว่าเกิดขึ้น ใครพูด แต่ใครก็ตามที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงเราจะเข้าไปช่วย ยิ่งมีการจัดตั้งกองทุนนี้ขึ้นมา ในโอกาสนี้ผมขอขอบคุณ บริษัทต่างๆและตัวบุคคลหลายบุคคล รวมทั้งผู้ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยนามด้วย ที่ได้ร่วมบริจาค คือ ผมขอเชิญชวนบริษัทที่ยังไม่ทราบข้อมูลนี้หรือยังลังเลใจอยู่ หรือประชาชนโดยทั่วไปได้ช่วยร่วมใจกันดำเนินรอยตามพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ


 


ผมได้เอ่ยถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมอยากจะเริ่มต้นการพูดในวันนี้ว่าคณะ


กรรมการ กอส.เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เป็นความริเริ่มของคณาจารย์คณะหนึ่งซึ่งไม่รู้จักผมส่วนตัว ได้ไปคุยกับท่านนายกทักษิณ แล้วก็มาหาผมบอกว่าขอให้ผมเป็นประธาน ผมก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะแต่งตั้งผม เพราะรัฐบาลนั้นคือ รัฐบาลที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี คือรัฐบาล แต่ในหลักการผมสนใจ แต่เรื่องนี้ผมตอบว่าผมจะรับได้ไม่ได้ ผมต้องคุยกับนายกทักษิณโดยตรง เพราะการทำเรื่องความสมานฉันท์ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งแรกที่ผมต้องทำคือ ทำการสมานฉันท์กับตัวนายกรัฐมนตรีเสียก่อน(ในห้องหัวเราะ) เพราะว่าถ้าผมกับนายกรัฐมนตรีไทยปัจจุบันซึ่งมีอำนาจโดยบริหารตามกฎหมาย เป็นหัวหน้ากองทัพ หัวหน้าตำรวจ หัวหน้ากระทรวงต่างๆ ถ้าจิตใจท่านไม่สมานฉันท์ ผมรับไปผมก็มี....


 


จากการที่พูดคุยกันสองครั้ง ครั้งแรกรู้สึกยังไม่สมานฉันท์กันดี ผมก็ต้องเล่าประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศให้ท่านฟังบ้าง เล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟังบ้าง ง่ายๆคือว่านโยบายที่คุณทักษิณกับรัฐบาลใช้มาในระยะหนึ่งปีครึ่งนั้นผิดทาง เพราะเป็นนโยบายที่มุ่งแต่การปราบ ปราบคนร้าย ปราบศัตรู ถ้าเผื่อปราบให้ถูก ปราบให้มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ออกมาในทางที่ดีได้บ้าง แต่หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมานั้นผลลัพธ์ไม่ได้ออกมาอย่างที่คิด ยิ่งปราบยิ่งเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ยิ่งปราบคนในพื้นที่ยิ่งมีความกลัวมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยพุทธ และถ้าเกิดเราตั้งโจทย์ว่าโจทย์ของเราคืออะไร ถ้าโจทย์ของเราเป็นการแบ่งแยกดินแดน หรือเป็นเรื่องของการก่อการร้าย ผมก็บอกว่านี่ไม่ใช่วิธีคิดของผม เรื่องการแบ่งแยกดินแดนหรือเรื่องการก่อการร้ายเป็นเพียงผลลัพธ์ แต่ไม่ใช่ต้นเหตุ สาเหตุสำคัญปรากฏอยู่ในราโชบายของรัชกาลที่ 6 อยู่แล้ว สาเหตุที่สำคัญก็คือปรากฏอยู่ในพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงเรื่องความแตกต่าง


 


ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนมา เราเรียนแต่ประวัติศาสตร์ประเทศไทย ไม่ได้มีการเรียนรู้เป็นประวัติ


ศาสตร์ท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนมาเป็นเรื่องของการสู้รบกัน ไทยชนะบ้าง ไทยแพ้บ้าง ชนะเมื่อไหร่ก็ต้อนเชลยศึก ได้ดินแดนมามากขึ้น แพ้เมื่อไหร่ก็เสียเชลยศึกเมืองหลวงถูกทำลาย อาณาจักรประเทศไทยขณะนี้มันเริ่มขึ้นจากอาณาจักรสุโขทัย ดั้งเดิมจะมีคนไทยอยู่ในพื้นที่นี้รึเปล่าผมก็ไม่รู้ ถ้าเคยมีอยู่ตามหลักฐานบ้านเชียงหรือตามหลักฐานอะไรต่างๆนั้น จะบอกว่าพวกนั้นเป็นต้นตระกูลไทยรึเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเกิดว่าคนไทยนั้นอพยพมาจากทางภาคใต้ของคนจีน เมื่อประมาณ 800 ปีที่ผ่านมาแล้วก็ปลดแอกจากการเป็นเมืองขึ้นหรือว่าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรขอม มาตั้งอาณาจักรสุโขทัย ตอนนั้นแผ่นดินที่เรียกว่าสุวรรณภูมิก็มีแต่คนพม่า มอญ คนเวียดนาม คนเขมร แต่ลืมไปว่าติ่งข้างล่าง คนมลายูนะ รัฐมลายูเค้ามีมาช้านาน เขาพูดภาษามลายู เขามีเชื้อชาติมาเลย์ เขาพูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนราม


คำแหง ประดิษฐ์อักษรไทย ก่อนนั้นเค้าอาจจะเป็นอาณาจักรศาสนาพุทธ ต่อมาเป็นอาณาจักรศาสนาฮินดู  แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นอาณาจักรศาสนาอิสลาม เขาไม่ใช่คนพลัดถิ่น


 


ในประวัติศาสตร์ของไทย 500-600 ปีสังคมไทยเป็นสังคมที่มีความหลากหลายมาก ที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ ผมถามใครกี่คนที่ไม่มีต่างชาติหรือต่างชนชาติเลย แต่เราเป็นไทยมั๊ยครับ เป็นครับ เพราะเรารู้สึกเป็นคนไทย เรารักแผ่นดินไทย เรารักสถาบันไทย เรามีความสุขในผืนแผ่นดินไทย เรามีความภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย แต่ถามว่าผมมาจากไหน ทางคุณแม่ผมมาจากจีน คุณพ่อผมมาจากมอญ ทุกท่านที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ จะไม่สามารถนิยามคำว่าไทยได้ ไทยคือความรู้สึกของแต่ละคนที่พลัดถิ่นมาจากที่ต่างๆ 800 ปี พลัดถิ่นมาจากเมืองจีน ในระยะ 200-300 ก็มีคนจีนอพยพลี้ภัย จนไทยมีหมดครับ ไทยจีน ไทยเขมร ไทยพม่า ไทยมอญ ไทยใหญ่ ไทยลาว ไทยโปรตุเกส ไทยอาหรับ ไทยมลายู ไทยญี่ปุ่น จนถึงไทยฝรั่งก็เต็มไปหมด เราลืมประวัติศาสตร์ สมัยสมเด็จพระนารายณ์ สมุหนายกเป็นคนกรีก นะครับ  ฟอลคอล 400 ปีมาแล้วสมัยนั้นคนโปรตุเกสอยู่เต็มเมือง กรุงศรีอยุธยา ทางจดหมายเหตุของราชทูตฝรั่งเศสที่มาอยู่ในเมืองไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาบอกว่าที่เมืองไทยนั้นมีแขกอยู่ 32 ประเภท รวมทั้งตุรกี รวมทั้งแอฟริกา เปอร์เชีย ตระกูล บุนนาค ชีคอาหมัด มาเมืองไทย 400 ปีแล้ว เดี๋ยวนี้ตระกูลบุนนาคเป็นตระกูลคนไทย นะครับ ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตลอดทุกรัชกาลมาในราชวงศ์จักรี จะมีตระกูลบุนนาคเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ขุนนางที่มีอำนาจมาก


 


นี่เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง ว่าคนไทยคืออะไร เรายอมรับครับว่า คนไทยพุทธนั้นเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า พื้นที่ทางภาคใต้ สามจังหวัด ที่บางครั้งก็เป็นของมลายู บางครั้งก็เป็นของไทย บางครั้งก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เขาอยู่ที่นั่นมาดั้งเดิม เขาไม่ได้ลี้ภัยมาจากไหน ไม่เหมือนคนจีนลี้ภัยความจน ภาวะทางเศรษฐกิจ คนเวียดนามลี้ภัยมาจาก เดียนเบียนฟู มาอยู่แถวอุดรฯ แถวอุบลฯ คนมอญนี่ไม่ต้องพูดถึงนะครับเป็นเชื้อชาติที่น่าสงสารที่สุด ไทยพม่ารบกันที ไทยชนะก็ต้อนเชลยศึก เชลยศึกส่วนใหญ่ก็เป็นมอญทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และคำนึงถึง


 


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านจึงได้รับสั่ง ว่า การแก้ปัญหาภาคใต้นั้นต้องเข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา ต้องเรียนรู้ประวัติท้องถิ่น  นายกฯทักษิณ กลับไปเชียงใหม่ ท่านก็พูดคำเมืองตลอดเวลา ส.ส.อิสานกลับ


ไปก็พูดภาษาลาว สส.ที่กลับไปบุรีรัมย์ ก็พูดภาษาเขมร ทางใต้ คุณชวนลงไปก็พูดภาษาใต้ เยาวราชเป็นเมืองจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนะครับ เมืองจีนโพ้นทะเล เมื่อ 60 ปี ตอนที่จีนเป็นมหาอำนาจ แสดงอำนาจต่างๆ พวกคุณยังไม่เกิดส่วนใหญ่ คนจีนปิดร้านไม่ขายของ คนจีนเคยถูกบีบนะครับ รัฐบาลในอดีตบีบจีนมาก ห้ามเปิดโรงเรียนสอนภาษาจีน ให้คนจีนเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นภาษาไทย ห้ามใส่เกี๊ยะ ห้ามใส่กางเกงแพร หลังจากเดียนเบียนฟู คนเวียดนาม อพยพมาอยู่เมืองไทย ก็ถูกบีบคั้นจากรัฐ จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ให้สัญชาติ เกิดในเมืองไทยก็ไม่มีสัญชาติไทย สังคมไทยมีความหวั่นกลัวพวกต่างชาติตลอดเวลา มีความสงสัย เปิดความสัมพันธ์กับจีนผืนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่ได้ กลัวว่าคนจีนที่อยู่ในเมืองไทย หรือคนไทยเชื้อจีนเป็นไส้ศึก เวียดนามก็สงสัยครับ กลัวว่าจะเป็นไส้ศึกของรัฐบาลเวียดนาม ไอ้ความสงสัย ความไม่มีความเชื่อมั่นในตนเองเกิดขึ้นมาโดยไม่มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของเราฉาบฉวย เราเรียนแบบตื้นๆ ไม่ขาวก็ดำขณะนี้กลายเป็นว่าภาษาจีน แม้แต่คนไทยไม่มีเชื้อสายจีนก็ยังอยากให้ลูกเรียนภาษาจีน ภาษาจีนนั้นเป็นภาษาระหว่างประเทศไปแล้ว เป็นภาษาที่ต้องใช้ในต่างชาติ


 


 ทำไมเราไม่มีความรู้สึกว่าคนไทยที่อีสานพูดภาษาลาว คนไทยทุกท้องถิ่นพูดภาษาท้องถิ่น เราก็ต้องมองว่าภาษามลายูเป็นภาษาท้องถิ่น ภาษาท้องถิ่นปัตตานี เราต้องเรียนรู้ว่า อาณาจักรปัตตานีมีมาช้านานแล้ว เขารุ่งเรืองมากกว่าอาณาจักรอีกหลายอาณาจักร ในประวัติศาสตร์ไทยเราต้องรู้ว่ามีอาณาจักรของคนมาเลอีกหลายอัน อาณาจักรศรีวิชัย ศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยอาจอยู่ที่นครศรีธรรมราชก็ได้ อาณาจักรมัชรปาหิต เราต้องยอมรับว่าเป็นอีกมุม เราจึงจะแก้ปัญหาได้ แต่ทำไมถึงความเป็นมาเล เชื้อชาติมาเลย์กับการนับถือศาสนาอิสลาม การพูดภาษามลายูมีความหมายลึกซึ้งกับคนในปัตตานีคนภาคใต้ ไม่ใช่เค้าอยากปลีกตัวจากประเทศไทย ไม่ใช่ว่าเค้าอยากเป็นรัฐอิสระ ผมบอกคุณทักษิณ ครับ ว่า ถ้าหากคุณคิดว่า ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องของการก่อการร้ายหรือการแบ่งแยกดินแดน ผมว่าคุณ ผิด ผมยอมรับว่ามีกบฏ มีแบ่งแยกดินแดน อาจจะมี 50 คน อาจจะมีเครือข่ายเพิ่มเติมอีกหมื่น หรือสองหมื่นคนแต่อย่าลืม สามจังหวัดมีพลเรือน 1,800,000-1,900,000 คน ถึงแม้จะเป็นคนไทย มลายู 85เปอร์เซ็นต์  แต่คนไทยพุทธก็มีประมาณ 200,000 คน เค้าเป็นคนกลุ่มน้อยครับ เราต้องดูแลต้องปกป้องคุ้มครอง ชนกลุ่มน้อย คือ คนไทยพุทธ ในสามจังหวัด แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องสำนึกถึงอัตลักษณ์ของคนไทยมลายูด้วย


 


ผมเคยถามพวกคนมาจากอีสาน  ถามเค้าบอกถามจริงๆเถอะ ตอนเกิดมาเด็กๆ เนี่ย เขาพูดภาษาอะไรก่อน เขาบอกเขาพูดภาษาลาว แล้วเค้าเรียนภาษาไทยเมื่อไหร่ ในอำเภอเมือง รู้ตอนเข้าโรงเรียนเรียนภาษา


ไทย พอถามว่า ตอนกลับบ้านพูดภาษาอะไร เขาบอกว่าพูดภาษาลาว ถ้าพูดภาษาไทยถูกแม่ตีแน่ เป็นลักษณะประจำชาติ ของแต่ละเชื้อชาติ


 


สมัยก่อนเรามีอยู่สี่ จังหวัดครับ ที่บอกว่า เป็นปัญหา สตูลร่วมอีกอันนึง ขณะนี้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องสตูลเลย สตูลครั้งหนึ่งเคยมีเจ้าเมืองที่เก่งมาก สมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชื่อพระยาอะไรผมจำไม่ได้ และต่อมาลูกชายก็เก่ง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว คนสตูล 99 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยพูดไทยได้ คนไทยมากมายที่อยากให้ลูกพูดภาษาอังกฤษดี พอโตมาก็สอนภาษาอังกฤษก่อน ให้เรียนคู่กันไปกับภาษาไทย ภาษไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้ว แต่ที่เค้ายังยึดภาษามลายู เพราะว่าถ้าเผื่อเค้าไม่รู้ภาษามลายู เค้าไม่สามารถอ่านอัลกุรอานได้  แม้แต่ในปัจจุบันคัมภีร์อัลกุรอานที่แปลภาษาไทย แปลเป็นภาษาไทยแจกคนไทยในภาคกลาง เค้าไม่ขออะไรมากขอให้ยอมรับความแตกต่าง ขอให้เคารพในอัตลักษณ์ของเค้า เคารพในจารีตประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ


 


ถามว่า รู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่อยากแบ่งแยกดินแดน บอกว่าง่ายๆเลย เมื่อห้าหกเดือนที่แล้วมีการเลือกตั้ง อัตราส่วนโดยทั่วไปของการที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั่วประเทศประมาณ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ สามจังหวัดภาคใต้ 73 เปอร์เซ็นต์ ไปออกเสียง แล้วออกเสียงโดยไม่เลือกผู้แทนจากพรรครัฐบาลเลย ความหมายคืออะไร ถ้าสมมติอยากแบ่งแยกดินแดน ถ้าหากอยากเป็นรัฐอิสระ เค้าไม่เสียเวลาออกเสียงเลือกตั้งรัฐบาลไทยที่กรุงเทพฯ 73 เปอร์เซ็นต์ และในการไม่เลือกพรรครัฐบาลแสดงให้เห็นว่าเค้าเห็นว่านโยบายขอรัฐบาลเป็นนโยบายที่ไม่เหมาะสม เป็นนโยบายที่สร้างความแตกแยก เค้าขอให้ยอมรับความจริง เขาขอให้เคารพวัฒนธรรมประเพณี และจากนั้นเค้าก็พร้อมรับอัตลักษณ์ของคนไทยด้วยเช่นกัน


 


หลักการของความสมานฉันท์ต้องเริ่มต้นจากการพูดความจริง ถึงแม้บางครั้งบางคราวความจริงอาจจะเป็นสิ่งที่กระเทือนจิตใจคน แต่ก็ต้องใจกว้างอย่าแบ่งพวกเขาพวกเรา เราจะเห็นเค้าเป็นศัตรูไม่ได้ หลักการของความสมานฉันท์คือมีความขัดแย้งระหว่างคนสองกลุ่ม ส่วนใหญ่จะมีความขัดแย้งต่อรัฐบาลกับประชา


ชนที่ครองพื้นที่ จนบานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างคนสองกลุ่ม หน้าที่ของรัฐไม่ต้องไปเสริมสร้างให้มีความแตกแยกมากขึ้น รัฐต้องไม่ถือว่าใครเป็นศัตรู เพราะทั้งสองกลุ่มเป็นพสกนิกรทั้งคู่ หน้าที่ของรัฐต้องเสริมสร้างการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี โดยมีฐานของความจริง บนฐานของของความยุติธรรมและบนมูลฐานของความกล้ารับผิด


 


เมื่อสามสิบสี่สิบปีที่แล้วคนอย่างผมเป็นคอมมิวนิสต์ได้ นักศึกษาหนึ่งหมื่นคนได้รับความไม่เป็นธรรมจากรัฐ จากนโยบายของรัฐจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหนีเข้าป่า ไปอยู่กันสี่ปีห้าปี พอรัฐบาลท่านนายกฯ เปรม เปลี่ยนนโยบายเอาการเมืองนำการทหาร อะลุ่มอล่วย สุดท้ายให้นิรโทษกรรม คนไทยที่บอกว่าถูกกล่าว


หาเป็นคอมมิวนิสต์ รวมทั้งคุณจาตุรนต์ด้วย ก็เดินออกมาจากป่าเพราะทนอยู่ป่าไม่ไหวส่วนหนึ่ง บัดนี้ก็นั่งสลอนนะครับในครม. ในสภา ในธนาคาร นักธุรกิจ ทั่วไปหมด และหลายคนก็เปลี่ยนอุดมการณ์ไปแล้ว


 


14 ตุลา เป็นแต่ความทรงจำในชีวิตที่ยากแค้น แต่ในปัจจุบันก็แสวงอำนาจ แสวงเงินทอง นี่เป็นเรื่องของโลก เมืองไทยเป็นประเทศเดียวที่ชนะสงครามกับคอมมิวนิสต์โดยที่ หลังจากประกาศนโยบาย หลังจากดำเนินนโยบายไม่ต้องมีการยิงกันอีกเลย หลังจากมีการต่อสู้กันมาสิบปี ในป่าในเขา ทหารตำรวจตายไป ประชาชนเป็นหมื่นโดยเฉพาะในประวัติศาสตร์ของโลก ความขัดแย้งทั้งหลายมีทั้งหมด ไม่ใช่มีที่เมืองไทยแห่งเดียว เริ่มต้นจากพวกอียิปต์เป็นอาณานิคม ต่อสู้กับรัฐบาลที่กดขี่ตั้งตัวเป็นอิสระได้ ที่แคนนาดาคนส่วนใหญ่เป็นแองโกลแซ็กซั่น พูดภาษาอังกฤษ แต่ในมลรัฐลีเท็กซ์คนส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเศส เชื้อชาติฝรั่งเศส พูดภาษาฝรั่งเศสเค้าก็ยอมรับการจัดตั้งพรรคการเมืองที่สนับสนุนการแบ่งตัวแยกไป แต่พรรคนั้นไม่เคยชนะเลยถามจริงๆ พรรคนั้นมีกันอยู่ก็เพื่อเป็นการต่อรอง


 


และแม้กระนั้นกระบวนการก่อการร้าย กระบวนที่เราเรียกว่าแบ่งแยกดินแดนของเมืองไทยมีอยู่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่จะใช้การต่อรองมากกว่าว่าขอเค้ามีส่วนในการปกครองตนเอง ขอแค่มีส่วนว่าค้ากำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง  แต่ในไทยแปลกครับคนไทยพุทธที่อยู่สามจังหวัดภาคใต้เป็นคนกลุ่มน้อย คนกลุ่มใหญ่เป็นคนมุสลิม แต่ถ้าดูทั้งประเทศแล้ว คนไทยนับถือศาสนาพุทธเป็นคนกลุ่มใหญ่พวกมุสลิมเป็นคนกลุ่มน้อย มันต้องหาความสมดุลในเรื่องของการที่จะเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ยอมรับในสิ่งที่เป็นจริง ยอมรับความผิดพลาดที่มีมาในอดีต อีกประการหนึ่งผมบอกคุณทักษิณว่า มันไม่มีทางที่จะเป็นรัฐอิสระถ้าเกิดรู้ประวัติศาสตร์ของโลกไม่มีประเทศใด ไม่มีแคว้นใดที่ปลีกตัวเป็นประเทศอิสระที่มีพื้นที่ได้แน่นอน ที่มีพรมแดนที่แน่นอน ขนาดสถานที่แห่งหนึ่งในอาฟริกาพออังกฤษให้อิสรภาพประชาชนส่วนใหญ่เป็นผิวดำ คนผิวขาวพูดภาษาอังกฤษไปตั้งรกรากไปปลูกไร่ยาสูบมีเป็นแสนๆคนทีนี้ธุรกิจ อุตสาหกรรมเป็นของคนอังกฤษหมด คนผิวขาวกลัวคนผิวดำก็ประกาศอิสรภาพ อยู่มาได้ ห้าปีหกปี เจ็ดปี ไม่มีประเทศไหนรับรอง ทุกประเทศบอยคอต อยู่ได้หกปี เจ็ดปี ปัจจุบันเป็นประเทศชื่อซิมบับเว คนผิวดำปกครองตัวเองอาจจะปกครองไม่ดีนั้นอีกเรื่องหนึ่ง


 


สามจังหวัดไม่มีทาง ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีทั้งทรัพยากรบุคคลที่จะบริหารประเทศได้ มาเลเซียเค้าก็ไม่ต้องการ สถานการณ์ร้ายแรงจริง มีกระบวนการแบ่งแยกดินแดนจริง มีกระบวนการกระทำร้ายก่อการร้ายจริง ต้องปราบแต่ปราบภายใต้กฎหมาย แต่คำว่าต้องปราบภายในขอบเขตในกรอบกฎหมายก็ต้องระวัง กฎหมายกับความยุติธรรมไม่ได้ไปด้วยกันเสมอ กฎหมายต้องควบคู่กับความเป็นธรรมด้วย แล้วเราต้องยอมรับว่ากฎหมายของเมืองไทยนั้น มันไม่ค่อยสอดคล้องกับความยุติธรรมในหลายๆเรื่อง แม้แต่ท่านที่เป็นนักธุรกิจก็ทราบดีว่ากฎหมายที่กำหนดหรือควบคุมหรือกำกับดูแลการทำธุรกิจนั้น หลายสิ่งหลายอย่าง มันไม่สอดคล้องกับความยุติธรรมและความเป็นจริง ผมใช้เวลาส่วนใหญ่เล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดยาก คนก็จะบอกว่า คนๆนี้นิยมมุสลิม แบ่งแยกดินแดนบ้าง แต่ผมเป็นมาหมดแล้วในชีวิตนี้ ได้เป็นอีกสองอย่างก็ได้ ไม่สะทกสะท้านอะไรแต่พอถึงเวลาก็จะพบทาง เพราะแสวงหาความจริง บางทีก็มีโทรศัพท์มาด่าผม บางทีก็มีจดหมายมาถึงผม แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องขวนขวายหาความจริง


 


สังคมนี้เป็นสังคมที่ประเสริฐ เป็นสังคมที่น่าอยู่ ผมมีโอกาสได้ไปอยู่ต่างประเทศหลายครั้งในชีวิต ก็ไม่เคยคิดอยากจะอยู่  คนไทยเชื้อสายมลายูเค้าก็ยังอยากอยู่ในสังคมไทย เราเข้าใจว่าคนไทยพุทธมีความหวั่นเกรง ความเครียดแค้นเกิดขึ้น ความเกลียดชังที่สร้างโดยสื่อบ้าง ไม่อยากเอ่ยเลยว่าสื่อไหน มาตรการของการปราบนั้นยังไม่แน่นพอ เหวี่ยงแห เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีใหม่ ผมไม่ทราบว่าเกิดขึ้น เชื่อมั๊ยครับว่าระยะสองปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีแรกก่อนปีที่สองเนี่ย มากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสิบปีที่ผ่านมา ในปีนี้ปีเดียวคนตายไป เจ็ดแปดร้อยคนแล้ว ไอ้เหตุการณ์รุนแรงผมก็ไม่แน่ใจว่า มีกี่เปอร์เซ็นต์ที่เกี่ยวโยงกับเรื่องของปัญหาทางการเมืองเราต้องเข้าใจว่าวัฒนธรรมของการฆ่ากัน การอุ้มกันการยิงซึ่งกันและกัน เรื่อง ชู้สาว เรื่องส่วนตัว เรื่องเงิน มันมีอยู่ทั่วประเทศ ต้องระวังครับวัฒนธรรมของการใช้อำนาจ วัฒนธรรมของการใช้ความรุนแรง ไม่ใช่บอกว่าสมานฉันท์แล้วต้องยอมจำนน สมานฉันท์ต้องเผชิญกับความรุนแรง แต่จะต้องไม่โต้ตอบด้วยความรุนแรง เพราะว่าถ้าเกิดโต้ตอบด้วยความรุนแรงแล้ว เราเดินเข้าไปสู่กับดักของอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งเค้าสร้างสถานการณ์ เค้าก่อเหตุการณ์ขึ้นมาทั้งหลายนั้น มันไม่ใช่เป็นเรื่องของการฆ่าคนตาย ยิงคนบาดเจ็บ เผาอาคาร เค้าสร้างข่าว ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเค้าสร้างข่าว ข่าวนี้ทำให้เกิดความหวั่นไหวในจิตใจของคนในภาคใต้ เกิดความหวาดกลัว เกิดความเกรงกลัว เพราะรัฐไม่สามารถให้สิ่งที่เรียกว่าสิทธิมนุษยชนขั้นต่ำสุดก็คือไม่สามารถให้ความปลอดภัยและไม่สามารถสร้างความสงบให้กับประชาชนได้


 


เพราะฉะนั้น มาตรการทหารที่นำออกมา ผมไม่สงสัยกับความตั้งใจดี แต่การใช้กฎหมายการใช้อำนาจที่ได้มานั้นต้องระมัดระวังที่สุด ต้องใช้ด้วยความรอบคอบตามที่ในหลวงท่านก็ทรงเตือนท่านนายกทักษิณไว้แล้ว ... ผมอยู่ผ่านประวัติศาสตร์ไทย 6 ตุลา ผมไม่ได้อยู่ 14 ตุลา ผมเห็นมาแล้ว ว่าคนไทยจะโดนแบบนี้ใช้อารมณ์เป็นเกณฑ์ และบิดเบือนความจริง และโกหก พวกเราที่มีหัวสมอง มีวิชาความรู้อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของความไม่จริง อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง เราจะเดินเข้าสู่กับดัก ไม่มีโลกไม่มีแผ่นดินใด ผมบอกได้ผมพูดได้ สิบประเทศสิบห้าประเทศที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งของคน ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่า ศาสนา หรือเชื้อชาติ หรืออุดมการณ์ ไม่ว่าประเทศใดในเวลาใด ที่แก้โดยใช้แต่กำลัง จะต้องเดินขนานกันไป เราเองก็ไม่แพ้


 


อเมริกาด้วยความหวังดี อุดมการณ์ทางการเมือง รบในเวียดนาม ทหารอเมริกันตายไป 50,000 กว่าคนบาดเจ็บไม่รู้กี่แสน เสียเงินไปเท่าไหร่ สังคมปั่นป่วนหมด เราเห็นอังกฤษพยายามปราบ ไอร์แลนด์ ตัวแทนได้ตายไป สองแสนกว่า กว่าจะได้อิสรภาพ กลายๆ เมื่อ ค.ศ.1921 และสู้รบกันมาพยายามปราบไอริช ตายไม่รู้กี่พันกี่หมื่น สุดท้ายก็ต้องจับเข่าคุยกัน ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอาหรับสู้กันมา 50 ปีแล้ว ขณะอเมริกาก็กระอักเลือดอยู่ที่อิรัก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะรับว่าพลาดก็ไม่กล้ารับ ก็พยายามบอกใครว่าทำในสิ่งที่ถูก


 


ที่ภาคใต้นี่ยังไม่มีองค์กรต่างประเทศเข้าไปช่วยเหลืออะไรเลย ไม่มีหลักฐานใดๆทั้งสิ้นว่ารัฐบาลต่าง


ประเทศ หรือองค์กรต่างประเทศ องค์กรศาสนา เข้าไปตรวจหัดในการสู้รบ เข้าไปสอนการบอมบ์ การยิงปืน หรือแม้แต่ส่งเงินมาช่วย เราต้องรักษาอันนี้ครับ ว่าอันนี้เป็นปัญหาของประเทศชาติ เป็นปัญหาที่คนไทยสร้างขึ้นมา เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นปัญหาที่คนไทยแก้ สิ่งที่พวกผมอยากทำคือไม่อยากเห็นเหตุ


การณ์ของคนไทยด้วยกันเลยเถิดไปเหมือนอย่าง ซีลอน ศรีลังกา การใช้กำลังรัฐกับพวกทมิฬ หรืออีกหลายแห่ง สุดท้ายก็ประสานมือ ต่างประเทศก็ช่วยเจรจา ที่อาเจ๊ะห์เช่นเดียวกัน ทุกคนคิดว่าอาเจ๊ะห์ต้องการอิสรภาพ ต้องการเป็นรัฐอิสระ ประเด็นไม่อยู่ที่การเป็นรัฐอิสระ เค้าเพียงแต่ขอให้เค้าได้มีส่วนร่วมในการกำหนดชีวิตของเค้าร่วมในการปกครอง ผมจะขอจบแค่นี้ นะครับว่าผมฝากการบ้านให้พวกคุณไปคิด และผมว่าคำตอบที่คุณได้นั้น เป็นคำตอบเดียวกับผม ขอบคุณครับ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net