Skip to main content
sharethis

ไชน่า เดลี่- สาวประเภทสองที่แปลงเพศหญิงแล้วโดยสมบูรณ์ในจีนที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อได้เข้าพิธีวิวาห์ และ ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการให้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็นนางแทนนายเมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้กำลังเรียกร้องสิทธิ์เพื่อขอรับเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

จาง ชาน ( นามสมมติ) อายุ 37 ปีจากเมืองลินอาน มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้ทำการผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิงมาได้ปีกว่าๆแล้ว ด้วยความรู้สึกว่าเธอไม่อาจจะทนหลอกตัวเองที่จะมีชีวิตอยู่แบบผู้ชายได้อีกต่อไป ในปีนี้ได้จุดประกายที่ก่อให้เกิดการถกเถียงขึ้นมาอีกครั้งว่า เหมาะสมหรือไม่ที่เธอและสามีขอเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

ทั้งนี้ ตามกฎหมายของจีนนั้นระบุว่า ผู้ที่จะสามารถรับบุตรบุญธรรมได้นั้น คู่สมรสทั้งสองจะต้องมีอายุ 30 ปี ขึ้นไป มีสุขภาพดี ไม่มีประวัติการเป็นโรคของคนในครอบครัว มีความสามารถที่จะเป็น ผู้ปกครองของเด็กได้ และ ไม่มีลูกคนอื่นๆ

จาง ชาน ซึ่งขณะนี้ทำงานเป็นลูกมืออยู่ในร้านเสริมสวยในลินอานมีรายได้ของครอบครัวเดือนละ2,500 หยวน ( 12,500 บาท) หากมองตามคุณสมบัติที่ทางกฎหมายกำหนดแล้วก็ไม่ได้มีข้อใดที่จะขัดต่อกฎหมายเลย

"เราคงจะต้องอนุญาตให้เขารับบุตรบุญธรรมได้ เพราะว่าครอบครัวของเธอมีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่ทางกฎหมายกำหนดเอาไว้" หม่า เว่ยจวิน หัวหน้าแผนกกิจการพลเรือนแห่งสำนักงานกิจการพลเรือนลินอานกล่าว

ขณะเดียวกันนักวิจารณ์บางคนก็ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อเรื่องความเป็นอยู่ของเด็กที่อยู่กับแม่ที่แปลงเพศมา

จาง ผิง หัวหน้าบ้านสงเคราะห์เด็กชิง ชานหู เลค ในลินอาน กล่าว่า เขารู้สึกเป็นสองทางเกี่ยวกับการสมัครของรับบุตรบุญธรรมของจาง ชานในครั้งนี้

" เธอสมควรที่จะได้รับความเห็นใจจากสังคมและเราก็ควรที่จะช่วยเติมเต็มความฝันของเธอในฐานะที่เป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วคนหนึ่ง แต่เราก็กังวลอยู่เกี่ยวกับเด็กที่ไปอยู่ในครอบครัวแบบนั้น" ผิงกล่าว

จาง ผิง กล่าวว่า เรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กควรจะเป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรก และบอกว่าขณะนี้ มีพ่อแม่เกือบ 70 คู่ที่กำลังรอขอรับเด็กไปเป็นลูก แม้ว่าจะยังไม่มีเด็กที่แข็งแรงๆอยู่ในบ้านสงเคราะห์เด็กในขณะนี้

แต่เขาก็บอกว่าจาง ชาน ก็จะมีชื่ออยู่ลำดับของคนที่จะได้ดูแลเด็กตามคำขอเพราะเธอและสามีของเธอมีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด

จาง ชาน กล่าวกับไชน่า เดลี่ ว่า ฉันต้องการให้เด็กเรียกฉันว่าแม่ เป็นความฝันของฉันมาชั่วชีวิตที่จะเป็นแม่ที่ดี"

ซู ชิง ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาจิตวิทยา และพฤติกรรม จากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง กล่าวว่าพ่อแม่แปลงเพศนั้นอาจจะไม่สามารถมีพื้นฐานทางครอบครัวที่มั่นคงเพียงพอที่จะเลี้ยงดูให้เด็กมีความสมบูรณ์ทั้งอารมณ์ และจิตใจได้

มีงานวิจัยบางแหล่งจากต่างประเทศชี้ว่าการผ่าตัดแปลงเพศอาจส่งผลต่ออาการทางจิตที่จะเกิดขึ้นตามมา

"และเด็กอาจจะพบกับความยากลำบากที่จะต้องรับมือกับการเลือกปฎิบัติที่จะเกิดขึ้นกับพ่อแม่ของตนเองอย่างเลี่ยงไม่ได้เมื่อเด็กโตขึ้น" ซูกล่าว

ต่อกรณีดังกล่าว จาง ชาน ตอบว่า เธอและสามีจะพยายามที่จะทำให้ดีที่สุดที่จะให้ลูกได้รับการศึกษาดีๆและอยู่สิ่งแวดล้อมดีๆ

" เราไม่ใช่คู่เดียวที่เป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังมีคนอื่นๆเช่นกันที่ผ่านขั้นตอนนี้แบบที่เรากำลังผ่านอยู่นี้มาแล้ว แล้วพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ จิน ซิ่ง ศิลปินผู้โด่งดังที่แปลงเพศมาเช่นกันก็ยังรับบุตรบุญธรรมถึง 3 คน" จาง ชาน กล่าว

"เมื่อลูกฉันโตขึ้นมา ฉันก็จะบอกเขาว่าการแปลงเพศหรือคนที่แปลงนั้นเป็นเรื่อง "ธรรมชาติ" และไม่ควรที่จะถูกตั้งข้อรังเกียจจากสังคม คนจำนวนมากที่มีความยากลำบากในการทำความเข้าใจกับความแตกต่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะถูก"

หวัง คุน ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันกฎหมายแห่งบัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ มณฑลเจ้อเจียง กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานใดๆที่จะชี้ว่าเด็กจากครอบครัวที่พ่อแม่แปลงเพศนั้นจะมีพบกับปัญหามากกว่า หรือเป็นที่ชื่นชมน้อยกว่า หรือว่า มีความเชื่อมั่นในตัวเองน้อยกว่าเด็กมีมากจากครอบครัวที่พ่อแม่เป็นคู่ชายจริงหญิงแท้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net