Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

พรรคการเมือง "ไทยรักไทย" กำลังเตรียมจะออกบัตรสมาชิกพรรคแบบใหม่!

บัตรสมาชิกพรรคไทยรักไทยรุ่นใหม่ จะสามารถใช้รับส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการ และผลประโยชน์อื่นๆ จากบริษัทธุรกิจเอกชนผู้เข้าร่วม

เทียบเคียงง่ายๆ ก็เหมือนกับบัตรสมนาคุณลูกค้าของบริษัทที่ทำธุรกิจทั่วๆ ไป

คล้ายๆ กับบัตรห้างเดอะมอลล์ ห้างเซ็นทรัล โลตัส แมคโคร หรือห้างสรรพสินค้าทั้งหลาย นั่นเอง

คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย อธิบายว่า "บัตรไทยรักไทย" ที่ให้อภิสิทธิ์ในการจับจ่ายซื้อหาสินค้าและบริการนี้ พัฒนามาจากแนวคิดของหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่มีดำริว่า "ต้องการจะให้สมาชิกพรรคกับพรรค มีความสัมพันธ์กันมากที่สุด"

น่าแปลกใจ ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับพรรคการเมือง มีได้หลากหลายรูปแบบ

ถ้าคิดจะเลือกรูปแบบที่ "สร้างสรรค์" เช่น การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของพรรคการเมือง เลือกกรรมการบริหารพรรค ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจทางการเมือง เช่น ควรจะปรับใครออกจากคณะรัฐมนตรี หรือเสนอความคิดเห็นว่า ควรจะแก้ปัญหาประเทศชาติในเรื่องต่างๆ อย่างไร

หรือถ้าจะเลือกรูปแบบความสัมพันธ์ที่ "ไม่สร้างสรรค์" เช่น การใช้เงินซื้อเสียง หรือเอาสิ่งของ ผลประโยชน์ไปแจก เพื่อแลกกับเสียงสนับสนุนจากประชาชน

น่าคิดว่า การใช้บัตรสมาชิกพรรคมาเป็นเครื่องล่อ สะท้อนความ "กลับหัวกลับหาง" ขัดกับเจตนารมณ์ของการมีพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย

เพราะตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงนั้น พรรคการเมืองจะเป็นศูนย์รวมของคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองแนวเดียวกัน หรือประชาชนที่คิดเหมือนกัน เชื่อเหมือนกัน มารวมตัวกันเป็นพรรคการเมือง เป็นสมาชิกพรรค เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน กำหนดนโยบายการเมืองร่วมกัน

เรียกว่า "ร่วมกันคิดร่วมกันสร้าง"

จากนั้น สมาชิกพรรคก็จะมีส่วนร่วมกันสรรหาบุคคลมาเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และผู้นำพรรคการเมือง เพื่อให้เป็นตัวแทนดำเนินงานในนามของพรรค

ผิดกับพรรคการเมืองที่ก่อตั้งอย่างเร่งด่วนโดยนายทุนหน้าตักใหญ่ ที่มีวาระซ่อนเร้นของตัวเอง มีผลประโยชน์ของตัวเอง มีนโยบายของตัวเอง แล้วจึงพยายามแสวงหาประชาชนมาเป็นสมาชิกพรรค เพื่อมาเป็นฐานของตัวเอง เพื่อเอานโยบายของตัวเองไปใช้บริหารประเทศ

การออกบัตรสมาชิกพรรคการเมือง โดยเสนอผลประโยชน์จูงใจให้ประชาชนสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคนั้น สะท้อนภาพ การจัดโปรโมชั่น "ลด-แลก-แจก-แถม" เหมือนการ "ขาย" สินค้าของบริษัทธุรกิจมากกว่าจะเป็นพรรคการเมืองตามความหมายที่แท้จริง

กล่าวคือ ประชาชนไม่ได้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพราะอุดมการณ์ นโยบาย หรือความศรัทธาทางการเมือง แต่เป็นการเข้ามาเพราะอยากได้ผลประโยชน์

ไม่ต่างกับการเดินเข้าไปซื้อของลดราคาในห้าง ที่ไม่จำเป็นต้องมีอุดมการณ์ หรือมีศรัทธาต่อห้างสรรสินค้านั้นๆ!

ถ้าจะถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชน ก็ต้องมองว่าเป็นความสัมพันธ์ที่หยาบกระด้าง และมีลักษณะเป็น "การค้า" มากกว่า "การเมือง"

ที่สำคัญ สะท้อนวิธีคิดแบบพ่อค้าการเมืองชัดเจน!

น่าเสียดาย ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชนหรือสมาชิกพรรค ถูกลิดรอนให้เหลือแค่ความสัมพันธ์แบบ "ซื้อ-ขาย" ระหว่าง "พ่อค้า-ลูกค้า"

แบบว่า ได้ส่วนลดในการชอปปิ้งบ้าง แต่ไม่มีส่วนร่วมทางการเมือง

น่าติดตามดูว่า บริษัทธุรกิจทั้งหลายย่อมจะยินดีเข้าร่วมกับพรรคการเมืองรัฐบาล เพราะนอกจากจะได้เพิ่มฐานลูกค้าให้ธุรกิจของตนเองแล้ว ยังจะได้สร้างสัมพันธ์ทางธุรกิจกับรัฐบาลอีกด้วย ทั้งนี้ ไม่ต้องพูดถึงบริษัทธุรกิจ "ขาประจำ" ที่เป็นผู้อุปการคุณกันอยู่เดิม
บางคนจึงฝันว่า บัตรสมาชิกพรรค น่าจะมีสิทธิประโยชน์ประเภทที่ว่า ซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือราคาพิเศษ ซื้ออะไหล่รถยนต์ราคากันเอง ซื้อของในร้าน 7-11 ได้ส่วนลด กระทั่งว่า สะสมแต้มไปรับโบนัสเป็นบ้านจัดสรรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือของนายกฯ (ฮา)

อย่างไรก็ตาม ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า หากพิจารณาตามเจตนารมณ์ข้อกฎหมายแล้ว การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายเป็นการให้สิ่งของ สิ่งจูงใจ ผลประโยชน์ หรือสัญญาว่าจะให้หรือเสนอว่าจะให้ เพื่อชักจูงใจประชาชนในทางการเมือง หวังผลการเลือกตั้ง ซึ่งมิชอบด้วยกฎหมาย

พรรคการเมืองไม่ใช่บริษัทธุรกิจ และระบอบประชาธิปไตยก็ไม่ใช่สนามธุรกิจ

คิดใหม่ ทำใหม่ เถอะครับ

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net