ผู้พิพากษาศาลยุโรป ตัดสินคล้อยตามระเบียบข้อบังคับของสหภาพยุโรป ที่บังคับให้เจ้าของร้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เลิกขายวิตามินและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพประมาณ 200 ชนิด ภายในเดือนสิงหาคม 2548

อียูออกระเบียบเรื่องนี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพื่อควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่ขายในประเทศสมาชิก

ผู้ผลิตและเจ้าของร้านอาหารสุขภาพในอังกฤษ ร้องเรียนว่าระเบียบดังกล่าวของอียู ละเมิดหลักการค้าเสรี แต่ศาลยุติธรรมของยุโรปที่ลักเซมเบิร์กชี้ขาด เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ว่า ระเบียบควบคุมมาตรฐานวิตามินเอื้อต่อการค้าเสรี เพราะทำให้สินค้าสุขภาพที่ขายทั่วประเทศอียูมีมาตรฐานตรงกัน

ระเบียบข้อบังคับของอียูที่ออกมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กำหนดให้ผู้ผลิตสินค้าประเภทวิตามิน และอาหารเสริมต่างๆ ที่คนนิยมรับประทานอย่างวิตามินอี ต้องชี้แจงกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคว่า ผลิตภัณฑ์ของตนปลอดภัย เพื่อที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนในรายการวิตามินที่อนุญาตให้ซื้อขายได้ในอียู

ทว่า เมื่อต้นปี 2548 อัยการของศาลยุติธรรมแห่งยุโรป ร้องเรียนต่อคณะผู้พิพากษา 15 คน ว่า ระเบียบนี้ไม่เหมาะสม และควรจะเป็นโมฆะ แต่ศาลยุโรปชี้ขาดออกมาแล้วว่า ให้เป็นไปตามข้อกำหนดในระเบียบของอียู โดยให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องมีการควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค

คาดว่าสินค้าประเภทนี้หลายร้อยชนิด จะต้องถูกโละออกจากร้าน บรรดาผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้ ย่อมเดือดเนื้อร้อนใจ เพราะนี่เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ามหาศาล

เฉพาะในอังกฤษ อุตสาหกรรมนี้ มีมูลค่า 500 กว่าล้านดอลลาร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้อ้างว่า ระเบียบนี้ทำให้ผู้บริโภค ต้องเลิกซื้อวิตามินที่พวกเขาใช้มาเป็นแรมปี โดยไม่มีเหตุผล เพราะวิตามินเหล่านี้ปลอดภัยดีอยู่แล้ว
ขณะที่สมาคมแพทย์ในอียูเห็นว่า การมีระเบียบนี้ เป็นเรื่องของการกันไว้ดีกว่าแก้ และสินค้าจำพวกวิตามิน ควรจะมีมาตรฐานควบคุมที่เข้มงวดเช่นเดียวกับยารักษาโรค

ที่มา :http://www.bbc.co.uk/thai/news/story/2005/07/050712_eu_vitamins.shtml