กรุงเทพฯ- นายจอน อึ๊งภากรณ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดกรุงเทพฯ กล่าวว่า ทางวุฒิสมาชิกกำลังปรึกษาหารือกับฝ่ายกฎหมายว่า จะส่งพระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถาน การณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
ประเด็นที่จะส่งให้วินิจฉัยน่าจะเป็นเรื่องสาระของพระราชกำหนด ละเมิดสิทธิ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่
"การส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ไม่น่าจะเป็นประเด็นว่า สามารถกระทำได้ในกรณีฉุกเฉินจริงหรือไม่ แต่น่าจะเป็นประเด็นการละเมิดสิทธิ ที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญมากกว่า" ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าว
นอกจากนั้น บ่ายวันพรุ่งนี้ ( 19 ก.ค.) กรรมาธิการของรัฐสภาอย่างน้อย 2 คณะคือ กรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรรมาธิการการต่างประเทศ จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน และตัวแทนคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ(กอส.) ต่อกรณีพระราชกำหนดฉบับดังกล่าว
ครป.เตรียมยื่นตีความ
"ในสัปดาห์หน้าหาก ส.ว.และส.ส.ไม่ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญเพื่อส่งศาลศาลรัฐธรรมนูญยื่นตีความ ครป.จะยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาให้ส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความพ.ร.ก.ฉบับนี้ว่าขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่" นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยหรือครป.กล่าวเมื่อวานนี้(17 ก.ค.)
เลขาฯครป. กล่าวว่า แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญยกเว้นให้มีการออกกฎหมายจำกัดสิทธิประชาชนได้ แต่นายวิษณุ พูดไม่หมดว่าการออกกฎหมายยกเว้นนั้นต้องไม่กระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้กระทบต่อหลักสิทธิเสรีภาพถึง 8 มาตรา เช่นเสรีภาพในการสื่อสาร การกักกันบริเวณ หรือการควบคุมตัวเกิน 48 ชั่วโมง