ประชาไท - 19 ก.ค. 48 สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ออกแถลงการณ์ประณามพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ขัดรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามมาตรา ๓๙ และ ๔๑ ซึ่งในเนื้อหาของแถลงการณ์ได้ระบุถึงความไม่เหมาะสมของการออก พ.ร.ก. ฉบับนี้ใน 4 ประเด็นหลัก กล่าวคือ
ประเด็นแรก พ.ร.ก. ฉบับนี้ เป็นการให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแก่นายกรัฐมนตรี โดยไม่คำนึงว่าจะกระทบกับสิทธิเสรีภาพ โดยอ้างสถานการณ์อย่างฉุกละหุก แถลงการณ์ระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนและสื่อมวลชน ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์วิกฤตมากขึ้น
ประการต่อมา ด้วยเหตุที่ พ.ร.ก. อ้างสถานการณ์ฉุกเฉินในภาคใต้เท่านั้น รัฐบาลจึงต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและควรใช้อำนาจอย่างรอบคอบ ทั้งยังต้องยกเลิกทันทีที่สถานการณ์คลี่คลาย
ประการที่สาม พ.ร.ก.ฉบับนี้อาศัยสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกกฎหมายปิดกั้นสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชนแทนกฎหมายเผด็จการในอดีต จึงสมควรยกเลิกโดยเร็ว และควรพิจารณาออกเป็นพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยความละเอียดรอบคอบ
ประการสุดท้ายรัฐบาลจะต้องเปิดเผยข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริง และทันต่อเหตุการณ์ รวมทั้งต้องรับรองสิทธิการเข้าถึงแหล่งข่าวสารของสื่อมวลชน เพื่อให้เสนอข่าวครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งแถลงการณ์ระบุว่าจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
ทั้งนี้ การประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดท่าทีต่อพระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ประกอบไปด้วย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย พร้อมทั้งบรรณาธิการ และผู้แทนหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)