ประชาไท-20 ก.ค.48 นายเกษม และหีม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตลิ่งชัน และนาย หนังสือดังกล่าวระบุว่า "...ตามประกาศสำนักงานที่ดิน จังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 จำนวนเนื้อที่ประมาณ ที่ดินดังกล่าว เป็นเส้นทางสาธารณประโยชน์ และเป็นที่ดิน"วะฮ์กัฟ" ตามหลักศาสนาอิสลาม โดยเจ้าของที่ดินอุทิศเพื่อพระผู้เป็นเจ้าให้ชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีทายาทผู้วะฮ์กัฟยืนยันชัดเจน ตามหลักการศาสนาอิสลามที่ดินวะฮ์กัฟไม่สามารถจำหน่าย จ่ายโอน แลกเปลี่ยน ซื้อขายหรือยกให้แม้จะเป็นทายาท และทางชาวบ้านในพื้นที่ตำบลตลิ่งชันได้มายื่นหนังสือ คัดค้านประกาศการขอใช้ที่ดินดังกล่าวต่อทาง อบต.ตลิ่งชันไว้แล้ว อบต.ตลิ่งชัน เห็นว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ และที่ดินวะฮ์กัฟจริง ประชาชนในพื้นที่ตำบลตลิ่งชันและชุมชนใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์กันมาอย่างยาวนาน ดังนั้นอบต.ตลิ่งชันจึงขอคัดค้านประกาศดังกล่าว และไม่อนุญาตให้บริษัทใช้ที่ดินดังกล่าว ตามที่ร้องขอ จึงขอให้ที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ยับยั้งการดำเนินการอนุมัติการขอใช้ที่ดินดังกล่าว เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนดังกล่าวมาแล้วข้างต้น..." ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางสุรางรัตน์ ลีเดร์ พนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ได้ออกมารับหนังสือด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี เพียงลงรายมือชื่อรับหนังสือที่นายก อบต.ตลิ่งชันนำไปยื่น แล้วรีบขึ้นรถออกไปจากสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะทันที โดยไม่มีการชี้แจงใดๆ ต่อประชาชนจำนวนมากที่ไปยื่นหนังสือ นายเกษม และหีม นายก อบต.ตลิ่งชัน กล่าวว่า ที่ดินซึ่งบริษัทขอใช้เป็นที่ดินที่ประชาชนยังใช้ประโยชน์อยู่ ตามกฎหมายการจะแลกเปลี่ยน หรือขอใช้นั้นต้องสอบถามก่อนและขึ้นอยู่กับชาวบ้าน ปัจจุบันบริษัทได้ก่อสร้างจนเกือบแล้วเสร็จ เพิ่งมาดำเนินการขอใช้ที่ดินย้อนหลัง ถือว่า บริษัทละเมิดกฎหมาย เพราะตามกฎหมาย ต้องขออนุญาตก่อที่จะทำการก่อสร้าง อีกทั้งบริษัทยังไม่เคยขออนุญาตใช้ที่ดินดังกล่าวกับอบต. ทั้งที่เป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)