ประชาไท25 ก.ค. 48 นาย
วันนี้ นาย
โดยนายพินิจกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้บริษัทอีสวอเตอร์ เร่งรัดวางท่อเส้นทางบางปะกง-บางพระ และเส้นทาง คลองใหญ่-ประแส ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค.นี้ และหากเกิดภาวะวิกฤตฉุกเฉินอาจจะต้องปิดแม่น้ำบางปะกง ซึ่งจะต้องหารือกับคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำบางปะกง และเสนอให้ครม.พิจารณาก่อน
สำหรับโครงการชลประทานคลองส่งน้ำพระองค์เจ้าไชยานุชิต ซึ่งเป็นโครงการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองรพีพัฒน์ สระบุรี ,อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ,พระรามหก, มีนบุรี จะดำเนินการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาวันละไม่เกิน 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะนำน้ำจากการผันน้ำมาจัดสรร 3 ส่วน คือสำหรับอุปโภคบริโภค ภาคการเกษตร และ ภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ นายพินิจให้ข้อมูลการใช้นำในแม่น้ำระยองว่า ปัจจุบัน บริษัททีพีไอ ดูดน้ำไปใช้วันละ 1 แสนลูก บาศก์เมตร และการประปา จ.ระยองดูดมาวันละ 5 หมื่นลูกบาศก์เมตร
สำหรับการปิดปากแม่น้ำระยองชั่วคราวนั้น เดิมมีกำหนดจะทำการปิดปากแม่น้ำในวันที่ 29 ก.ค. แต่ได้เลื่อนมาปิดเร็วขึ้น คาดว่าผลจากการปิดปากแม่น้ำช่วยรักษาปริมาณน้ำที่ไหลทิ้งลงทะเล และให้มีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะผันสู่คลองทับมาและคลองหูเพื่อส่งเข้าระบบท่อของการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมทั้งผันเข้าสู่ระบบท่อของบริษัท อีสต์ วอเตอร์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งสิ้น 220,000 ลบ.ม.
ด้านนาย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)