Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 10:00 น. วันที่ 26 ก.ค. ศูนย์คัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซีย ลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซฯ ได้จัดแถลงข่าว โดยมีนายประกอบ หลำโส๊ะ เป็นผู้แถลง


นายประกอบ แถลงว่า เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2548 องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ได้มีการประชุมในญัตติด่วนกรณีที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ออกประกาศอนุญาตให้บริษัท ทรานส์ ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ทีทีเอ็ม ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์พื้นที่หมู่ที่ 2 และ 8 ตำบลตลิ่งชัน และ หมู่ที่ 6 ตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 69 ตารางวา ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 ที่ประชุมมติเป็นเอกฉันท์ 17 ต่อ 0 คัดค้านการออกประกาศดังกล่าว และจะยื่นฟ้องร้องบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ และฟ้องร้องหน่วยงานรัฐที่สนับสนุนการบุกรุกที่ดินดังกล่าวด้วย


นายประกอบ แถลงอีกว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม 2548 เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซฯ จะเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการอนุญาตใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าวโดยอ้างตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ของบริษัท ทรานส์ไทย-มาลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกับรายชื่อชาวบ้านที่ร่วมกันคัดค้าน และเรียกร้องให้นางสุรางค์รัตน์ ลีเดร์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ยับยั้งการอนุญาตดังกล่าวด้วย


นายเส็น หมัดเมาะ อดีตกำนันสะกอม กล่าวว่า ทางกลุ่มคัดค้านฯขอเรียกร้องให้ทางอบต.สะกอม เร่งรัดดำเนินการและปฏิบัติการตามมติดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อนำที่ดินวะกัฟตามหลักศาสนาอิสลาม และที่ดินสาธารณประโยชน์กลับมาเป็นของชุมชนอย่างแท้จริง


นายสุไลมาน หมัดยูโซ๊ะ แกนนำเครือข่ายคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซีย กล่าวว่า การยื่นหนังสือดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใน 30 วันตามที่ระบุในประกาศสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 ที่อนุญาตให้บริษัท ทรานส์ ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ใช้ประโยชน์ในที่ดิน ดังกล่าว นอกจากนี้กลุ่มชาวบ้านจะนำมติขององค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม อำเภอจะนะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2548 ที่คัดค้านการอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวไปยื่นด้วย


ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2548 มีการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม พิจารณาวาระบริษัททรานส์ไทย - มาเลเซีย ขออนุญาตสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ใช้ที่ดินสาธารณ


ประโยชน์ก่อสร้างโรงแยกก๊าซ ที่ประชุมมีมติ 5 ข้อ ดังนี้


1. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ดำเนินการนำที่ดินวะกัฟ ตามหลักศาสนาอิสลามและที่ดินสาธารณประโยชน์กลับมาเป็นของชุมชน


2. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม คัดค้านการขออนุญาตใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ ก่อสร้างโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซีย ของบริษัททรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด บริเวณหมู่ที่ 6 ตำบลสะกอม ตามประกาศของสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 โดยให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ดำเนินการต่อไปนี้



2.1 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ยืนยันต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ โดยอ้างมติสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสะกอมว่า ที่ดินดังกล่าว เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ชุมชนยังใช้ประโยชน์ และเป็นที่ดินวะกัฟจริง


2.2 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม คัดค้านการอนุญาตให้บริษัททรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์และที่ดินวะกัฟ ตามบริษัททรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัดร้องขอ


2.3 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ทำหนังสือยืนยันถึงนางสุรางค์รัตน์ ลีเดร์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ก่อนวันที่ 30 กรกฎคม 2548


3. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ตรวจสอบกรณีการบุกรุกที่ดินสาธารณะของบริษัท ทรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด  ว่ามีหน่วยงานหรือบุคคลใดให้การสนับสนุน
          


4. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม นำผลการตรวจสอบไปเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและดำเนินคดีกับบริษัท ทรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ในข้อหาบุกรุกที่สาธารณประโยชน์


5. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม ฟ้องร้องกล่าวโทษบริษัท ทรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ในความผิดฐานบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ และฟ้องร้องกล่าวโทษหน่วยงานรัฐที่ให้การสนับสนุนการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งถือเป็นการร่วมกระทำผิด และละเลยการปฏิบัติหน้าที่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net