ประชาไท-28 ก.ค. 48 นาย วรวิทย์ บารู หนึ่งในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ(กอส.) กล่าวภายหลังชมการถ่ายทอดสดการสนทนาพิเศษ "การสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" ระหว่าง พ.ต.ท.
โดย นาย วรวิทย์ ระบุว่า สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่คาดหวังก็คือ นายกฯ จะตอบว่า จะกำกับดูแลการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ ตาม พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไร เพราะพ.ร.ก ดังกล่าวเป็นการให้อำนาจอย่างมากมายกับเจ้าหน้าที่ แต่นายกฯ กลับไม่ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวเลย ทั้งที่จุดนี้จะเป็นหลักประกันที่สร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ที่ปัจจุบันกำลังขาดศรัทธาต่อจ้าหน้าที่รัฐ
นาย
"ชาวบ้านบางคนที่เคยออกทะเลแล้วถูกจับไปที่เวียดนาม เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำอย่างปัจจุบัน กลับรู้สึกแย่ยิ่งกว่าการถูกจับโดยคนต่างชาติ ดังนั้นสิ่งที่นายกฯ พูดผ่านรายการโทรทัศน์วันนี้ คงจะทำให้ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐมั่นใจในการปฏิบัติตาม พ.ร.ก. แต่ กอส. คงต้องทำงานหนักขึ้น และคงต้องมีข้อเสนอที่มากขึ้น"
ด้าน นาย
นายพิภพ ยังกล่าวต่อว่า การพูดคุยในรายการดังกล่าว นายอานันท์ มีโอกาสได้อธิบายน้อย แต่ พ.ต.ท. ทักษิณ มีโอกาสได้พูดชี้แจงเกี่ยวกับ พ.ร.ก. มากกว่า อาจติดปัญหาที่เวลาน้อย ซึ่งควรมีเวลามากกว่านี้ เนื่องจากรูปธรรมของปัญหายังไม่มีการพูดถึง เช่น จะป้องกันการใช้อำนาจตามมาตราที่ 17 อย่างไร เพราะที่นายอานันท์ ถามว่า "ใครจะเป็นคนพิสูจน์ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่กระทำโดยสุจริต ?" ก็ไม่มีคำชี้แจงคำตอบดังกล่าว
นอกจากนี้ มีการพูดถึงมาตรการ 14 ข้อที่ กอส. เสนอให้รัฐบาลปฏิบัติ ก็มีเพียงการตอบกว้างๆ ว่า เห็นด้วยในหลักการ แต่ยังไม่มีการแลกเปลี่ยนหรือชี้แจงให้ชัดว่า จะรับปฏิบัติในข้อไหน หรือไม่รับในข้อไหน ซึ่งกอส.เองก็ไม่ได้หวังว่ารัฐบาลจะต้องตอบรับปฏิบัติตามมาตรการ 14 ข้อนี้ทั้งหมด เพียงแต่ต้องการคำชี้แจงด้วยเหตุผลว่าไม่สามารถรับไปปฏิบัติตามข้อนั้นๆ ได้เพราะอะไร
อย่างไรก็ตาม นาย
เช่นเดียวกับ นายโคทม อารียา เลขานุการร่วมกอส.ซึ่งเห็นว่าการชี้แจงของนายกฯใน วันนี้หลายอย่างยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่อง ของพ.ร.ก. การบริหาราชการฯ
"นายกฯ พยายามอธิบายพ.ร.ก. ฉบับนี้ในบางอย่าง แต่ยังไม่กระจ่างในเกือบทุกประเด็น เช่น การจับกุมผู้ต้องสงสัย การที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทางอาญาและทางแพ่ง เป็นต้น"
นายโคทม ระบุว่า นายกฯมาอธิบายเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ดังกล่าวว่ามาแทนกฎอัยการศึกและเพื่อหวังบูรณาการทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่หลักการที่ถูกต้อง เพราะการออกกฎหมายเป็นหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ฝ่ายบริหารที่จะมาบูรณาการ เท่ากับเป็นการขัดกับหลักการแบ่งแยกอำนาจ
ขณะเดียวกัน นายโคทม ยังเห็นว่า การอธิบายของนายกฯที่นำ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวมาใช้แทนกฎอัยการศึกนั้น เป็นการพยายามพูดอ้างให้ดูว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้อ่อนกว่ากฎอัยการศึก ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงแต่ก็แค่บางส่วน ที่ยังมีความไม่จริงอีกหลายส่วน
"การที่นายกฯอ้างว่า แม่ทัพสามารถประกาศกฎอัยการศึกได้โดยไม่ต้องผ่านเบื้องบนนั้น ก็เพราะถือว่ามีศึกสงครามอยู่จะรอให้รัฐบาลประกาศก็คงไม่ได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องในอดีต แต่สถานการณ์วันนี้ไม่ได้ตรงกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สังคมจะต้องคิดและตัดสินใจเอาเองจากการพูดคุยกันในวันนี้" นายโคทม กล่าวสรุป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- สภาทนายฯ ชี้ รัฐควรรับ 14 มาตรการ กอส.
- ข้อเสนอมาตรการระยะสั้นเพื่อลดความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้-กอส.