" เมื่อเบียร์ช้างจะเข้าตลาดหุ้น เมืองไทยจะแข็งแรงได้อย่างไร "

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

ข่าวคราวความพยายามที่จะนำเบียร์ช้างเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศมีมาอย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะได้รับการคัดค้านอย่างหนักจากปัญญาชนในกรุงเทพ  ซึ่งนำทีมโดยพลตรีจำลอง  ศรีเมือง  จนต้องมีการเลื่อนการพิจารณาเพื่อลดกระแสสังคมไปก่อน  รอวันสังคมเผลอค่อยอนุมัติให้ซื้อขายทำกำไร

 

เรื่องเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้นนั้น  ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลแอบหนุนอย่างไม่ออกหน้า  เพราะไม่อยากเสียคะแนนนิยม  ไม่อยากถูกชาวพุทธชาวมุสลิมประณามว่าส่งเสริมอบายมุข  

 

รัฐบาลชุดนี้มีจุดยืนที่ชัดเจนว่า  สนใจเม็ดเงินเป็นหลัก  สนใจผลกำไรของภาคธุรกิจเป็นตัวตั้ง  กระตุ้นให้สังคมบริโภคไม่ว่าจะเป็นสิ่งจำเป็น สิ่งฟุ่มเฟือย  หรือแม้แต่สุรายาเมา    มากกว่าที่จะมองให้ไกล  ใส่ใจการสร้างสังคมที่สมดุล  มีความอยู่เย็นเป็นสุขในระยะยาว   ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีข่าวว่ารัฐบาลจะเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายบ้าง  ยกหวยใต้ดินมาไว้บนดิน  ขายหวยออนไลน์  รวมทั้งเรื่องการเอาบริษัทเหล้าเบียร์เข้าขายระดมทุนในตลาดหุ้นก็คือหนึ่งในวิธีคิดแบบสายตาสั้น  ที่เอาเงินเป็นใหญ่  เอาสุขภาพไว้ท้ายๆ

 

ในขณะเดียวกันในปี 2548-2549 นี้  รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ประกาศวาระแห่งชาติเรื่อง " เมืองไทยแข็งแรงหรือ  Healthy  Thailand "  หวังสร้างสังคมไทยให้แข็งแรงด้วยกลยุทธ 6 อ.อันได้แก่  อโรคยา(  ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บที่หลีกเลี่ยงได้ )  อาหารที่ปลอดภัย  อุบัติเหตุน้อยลง   ออกกำลังกาย  อารมณ์แจ่มใส  และอบายมุขหลีกไกล   โดยให้ทุกโรงพยาบาลและ อสม.ร่วมแรงร่วมใจรณรงค์ไปให้ถึงจุดหมาย

 

แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้มีความพยายามนำเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้นโดยไม่ตัดไฟแต่ต้นลม  ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับนโยบายเมืองไทยแข็งแรงของรัฐบาลเอง 

เหล้าเบียร์คือต้นเหตุของโรคตับโรคสมองและโรคภัยอีกมากมายที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 

เหล้าเบียร์คือต้นเหตุสำคัญที่สุดของความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร  

เหล้าเบียร์คือประตูด่านแรกของโรคเอดส์เพราะความเมานำมาซึ่งความประมาท

เหล้าเบียร์คืออบายมุขตัวแรกๆและตัวสำคัญที่มอมเมาเยาวชนไทยเข้าสู่ยาเสพติด

เหล้าเบียร์คือตัวการทำให้ครอบครัวแตกแยก  เกิดการทำร้ายร่างกาย  ทุบตีลูกเมีย

เหล้าเบียร์คือหนึ่งในตัวการให้ 30 บาทรักษาทุกโรคเงินไม่พอ เพราะต้องเจียดเงินที่มีน้อยอยู่แล้วมารักษาโรคที่ไม่ใช่เรื่อง

เหล้าเบียร์คือธุรกิจที่ควรถูกจำกัดให้เล็กลงเรื่อยๆ  ไม่ใช่เปิดโอกาสให้มีการขยายตัว

 

และดูเหมือนว่า เหล้าเบียร์จะมีประโยชน์เพียงข้อเดียวคือ  ทำรายได้อย่างงามให้กับผู้ผลิตและผู้ขาย  โดยที่ภาระจากพิษภัยและผลแทรกซ้อนที่ตามมานั้น  สังคมทั้งหมดกลับเป็นผู้ที่ต้องรับภาระแทน

 

เช่นนี้แล้วทำไมรัฐบาลจึงยังทำเฉยต่อกรณีการนำเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น  การทำเฉยก็คือการสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง  โดยขอลอยตัวไม่อยากให้โดนสังคมประณามก็เท่านั้นเอง   หรือเพราะพรรคการเมืองยิ่งใหญ่ก็ยิ่งต้องใช้เงินมาก  ผลกำไรจากการนำหุ้นเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้นคงตกอยู่ในมือคนเพียงบางกลุ่ม  รวมทั้งคนของฝ่ายการเมือง

 

ทำไมกระทรวงสาธารณสุขที่มีรัฐมนตรีเป็นถึงนายแพทย์  กลับเพิกเฉยไม่แสดงจุดยืนให้สังคมเห็นว่า คัดค้านอย่างเต็มความสามารถ   ผู้หลักผู้ใหญ่ทางการแพทย์ทำไมกลายเป็นปลาตายที่ลอยตามน้ำ

 

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษนายโรบิน  คุค ที่เพิ่งเสียชีวิตไป  ได้ลาออกจากรัฐบาลเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่นายกรัฐมนตรีโทนี่ แบล์ ส่งทหารไปร่วมถล่มอิรัก  นี่คือจิตวิญญาณของความเป็นนักการเมืองที่มีจุดยืนอิสระที่นักการเมืองไทยไม่ค่อยจะมี  

 

หากเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้นสำเร็จ  นโยบายเมืองไทยแข็งแรงคงเป็นเพียงปาหี่ฉากใหญ่ของไทยรักไทย  

เช่นนี้แล้ว  ชาวสาธารณสุขกว่า 200,000 ชีวิตและ อสม.กว่า 500,000 คน  จะช่วยรัฐบาลทำเรื่อง " เมืองไทยแข็งแรง หรือ Healthy  Thailand " ไปทำไม  ในเมื่อรัฐบาลปราศจากความจริงใจและจุดยืนในการสร้างสังคมที่มีสุขภาวะ  ที่อยู่เย็นเป็นสุข 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท