Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานได้รับรายงานจากสำนักงานแรงงาน กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) สาขาเมืองเกาสง ไต้หวัน เกี่ยวกับแรงงานไทยก่อการประท้วงและทำร้ายร่างกายผู้จัดการแคมป์และทำลายทรัพย์สินในแคมป์ที่พัก ดังนี้


 


1. เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2548 เวลาประมาณ 22.00 . อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) สาขาเมืองเกาสง ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลแคมป์แรงงานไทยของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเมืองเกาสง โดยมีบริษัท Kaohsiung Rapid Transit Coporation เป็นนายจ้างว่าแรงงานไทยซึ่งพักอยู่ในแคมป์ที่พักประมาณ 1,500 คน ได้ประท้วงและทำร้ายร่างกายผู้จัดการแคมป์และทำลายทรัพย์สินในแคมป์ที่พัก


 


2. หลังจากได้รับแจ้งเหตุอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ที่อำเภอกังซัน จังหวัดเกาสง เมื่อเวลา 23.00 . พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังรอบแคมป์ที่พัก และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังดับไฟซึ่งไหม้อาคารสำนักงานของแคมป์ที่พัก โดยมีผู้จัดการแคมป์และพนักงานได้หลบหนีออกมาอยู่นอกรั้วกำแพง และมีแรงงานไทยจำนวนประมาณ 80 คน ที่เลิกทำงานแล้วไม่สามารถเข้าไปในแคมป์ได้ เนื่องจากแรงงานไทยที่อยู่ในแคมป์ได้ขว้างปาหินและสิ่งของใส่ผู้ที่จะเข้าไปในแคมป์


 


3. ผู้จัดการแคมป์ได้แจ้งสาเหตุของการประท้วงว่า มีแรงงานไทยกลุ่มหนึ่งได้นำสุราเข้าไปดื่มในเรือนนอน และมีการสูบบุหรี่ รวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบของแคมป์ เมื่อผู้จัดการแคมป์ได้แจ้งให้ แรงงานไทยหยุดการกระทำดังกล่าว ปรากฏว่าได้สร้างความไม่พอใจให้กับแรงงานไทยกลุ่มดังกล่าวและได้ทำร้ายผู้จัดการแคมป์ ซึ่งผู้จัดการแคมป์และพนักงานได้หลบหนีออกมานอกแคมป์ และได้มีการทำลายทรัพย์สินและสิ่งของภายในแคมป์ เช่น ทุบกระจกอาคารสำนักงาน อาคารโรงอาหาร ใช้ก้อนหินปาหลอดไฟแสงสว่างภายในแคมป์ และเผาอาคารสำนักงานแคมป์


 


4. เวลาประมาณ 00.30 . ของวันที่ 22 สิงหาคม 2548 อัครราชทูตฯ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดเกาสง เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานท้องถิ่นจังหวัดเกาสง และตัวแทนนายจ้าง ได้ประชุมหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่ง อัครราชทูตฯ เสนอให้มีการเจรจากับแรงงานไทยก่อนที่จะใช้กำลังตำรวจปราบจลาจลเข้าไปเคลียร์พื้นที่ ต่อมาเวลา 02.30 .  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่าแรงงานไทยในแคมป์ได้สงบลงแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดเกาสง จึงตัดสินใให้ตรึงกำลังตำรวจล้อมแคมป์ไว้เพื่อรอจนถึงตอนเช้า


 


5. เวลา 07.00 . ของวันที่ 22 สิงหาคม 2548 อัครราชทูตฯ หัวหน้าตำรวจฝ่ายกิจการคนต่างชาติ และตัวแทนนายจ้าง ได้เข้าไปในแคมป์และรับฟังข้อเรียกร้องของแรงงานไทยทั้งหมดที่ขอให้นายจ้างแก้ไขระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นการลิดรอนเสรีภาพของแรงงานไทย ได้แก่


                        5.1 แรงงานไทยแจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์ขยายตัวจนนำไปสู่การทำลายทรัพย์สินในแคมป์  เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้จัดการแคมป์และพนักงานได้ใช้กระบองไฟฟ้าตีแรงงานไทยที่ฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์มือถือ ทำให้แรงงานไทยไม่พอใจและนำไปสู่การตอบโต้และทำร้ายผู้ดูแลและทำลายทรัพย์สินในแคมป์ที่พัก


                        5.2 นายจ้างได้มีระเบียบให้แรงงานไทยเบิกเงินสดไว้ใช้ในไต้หวันได้จำนวน 3,000-5,000 เหรียญไต้หวัน และกรณีขอเบิกเงินมากกว่าจำนวนดังกล่าว นายจ้างจะจ่ายเป็นคูปองให้มูลค่าไม่เกิน 5,000 เหรียญไต้หวัน ซึ่งจะใช้แลกสินค้าได้เฉพาะแคมป์เท่านั้น และได้ขอให้ยกเลิกการจ่ายคูปองโดยจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมดตามที่ขอเบิก


                        5.3 ขอให้นายจ้างรับดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีนายจ้างคิดจำนวนชั่วโมงทำงานล่วงเวลาให้ไม่ครบถ้วน และให้มีใบแสดงรายการจ่ายเงินเดือนและรายการหักค่าใช้จ่ายโดยมีรายละเอียดที่ชัดเจนและถูกต้อง


                        5.4 ขอให้นายจ้างยกเลิกระเบียบการห้ามแรงงานไทยใช้โทรศัพท์มือถือในแคมป์ที่พัก


                        5.5 ขอให้แก้ไขปัญหาเรือนพักนอนซึ่งมีความแออัด และมีการปิดน้ำปิดไฟ เวลา 22.00 . ซึ่งแรงงานไทยที่กลับมาหลังเวลาดังกล่าวต้องได้รับความเดือดร้อน


                        5.6 กรณีแรงงานไทยกระทำความผิดเล็กน้อย นายจ้างได้ดำเนินการเลิกจ้างและส่งกลับประเทศไทย ขอให้นายจ้างยุติการกระทำดังกล่าว


                        5.7 กรณีแรงงงานไทยเจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาพยาบาลยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทั้งที่ได้จ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสุขภาพทุกเดือน และกรณีประสบอันตรายทั้งนอกและในเวลาทำงาน นายจ้างจะไม่ค่อยรับผิดชอบและดูแลดำเนินการให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากผลของการบาดเจ็บ จึงขอให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย ฯลฯ


 


6. นายจ้างได้รับข้อร้องเรียนดังกล่าวไปพิจารณา และรับจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่แรงงานไทยเรียกร้องทั้งหมด ทำให้สถานการณ์กลับสู่สภาพปกติและแรงงานไทยได้ร่วมกันเก็บกวาดเพื่อทำความสะอาดในบริเวณแคมป์ที่พักและให้คำรับรองว่าจะไปทำงานตามปกติในวันถัดไป


 


7. ฝ่ายตำรวจของไต้หวัน ได้มีการพูดถึงประเด็นการดำเนินการสอบสวนจับกุมแรงงานไทยที่เกี่ยวข้องกับการทำลายทรัพย์สินและเผาอาคารสำนักงาน โดยแจ้งว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่มีลักษณะความรุนแรง แต่อัครราชทูตฯ ได้แก้ไขสถานการณ์และชี้แจงให้ตำรวจได้รับฟังข้อเท็จจริงที่แรงงานไทยแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุที่นำไปสู่ความเสียหายดังกล่าว ซึ่งเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ฝ่ายตำรวจไต้หวันมิได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวอีกแต่อย่างใดและได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ


 


8. เวลา 17.15 . ของวันที่ 22 สิงหาคม 2548 รองประธานคณะกรรมการแรงงานไต้หวันได้แถลงข่าวผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุปัญหาเกิดจากนายจ้างดูแลแรงงานไทยไม่ดี ในเบื้องต้น สำนักงานคณะกรรมการแรงงานจะพิจารณาตัดโควต้าการจ้างแรงงานต่างชาติของนายจ้างรายนี้ จำนวน 800 คน และจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยแต่งตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย


 


9. กระทรวงแรงงานจะได้ติดตามในเรื่องนี้ และให้ความช่วยเหลือต่อแรงงานไทยดัง กล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net