กทม.เมิน "ป้อมมหากาฬมั่นคง"เดินหน้ารื้อ-ย้ายชุมชนฯ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

 

 

 

 

ประชาไท-3 ก.ค. 48         กทม.เดินหน้ารื้อชุมชนป้อมมหากาฬ ปัดไม่เคยรับปากไม่รื้อ อ้างศาลปกปกครองสั่งต้องทำตามกฎหมาย ด้านชาวบ้านแย้ง ศาลปกครองไม่เคยสั่งไล่ชุมชน ให้ย้อนกลับไปดูสำนวนใหม่ก่อนดำเนินการ  หาก กทม.ต้องการให้ออกอย่างถูกต้อง ต้องไปฟ้องให้ศาลสั่ง

 

 

 

 

 

 

ศ.พญ.

เพ็ญศรี พิชัยสนิท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝ่ายสาธารณสุขและสังคม ชี้แจงกรณีการที่กองจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน สำนักโยธาธิการกรุงเทพมหานคร ไปติดประกาศสำรวจชุมชนป้อมมหากาฬเพื่อเยียวยาการที่จะต้องให้ชุมชนออกจากพื้นที่เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ได้ทราบเรื่องแล้ว และเป็นทำเพื่อช่วยเหลือชุมชนป้อมมหากาฬ ด้านการรองรับที่อยู่อาศัยใหม่

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า เรื่องการที่ชาวบ้านอ้างว่าจะให้ชุมชนนี้เป็นบ้านมั่นคงและมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดการปัญหาที่ดินนั้น ทางกทม. ชุมชนป้อมมหากาฬนั้นเลิกพูดไปเลยในเรื่องการอยู่อาศัยในพื้นที่เดิม เพราะศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินให้ชุมชนแพ้คดีไปแล้วและให้กทม.ย้ายชุมชนออก เนื่องจากพื้นที่ตั้งชุมชนบุกรุกโบราณสถาน

 

 

 

 

 

ส่วนคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาดูแลปัญหาที่ดินนั้น นางเพ็ญศรี กล่าวว่า กทม.ตั้งขึ้นเพื่อดูแลชุมชนอื่นที่มีปัญหาอีกมากมายแตกต่างกันไป ไม่ใช่สำหรับชุมชนป้อมมหากาฬ แต่ในส่วนที่กทม.ทำนี้ให้ชุมชนทำให้ได้คือการเข้าไปสำรวจ เพื่อประเมินมูลค่าในการเยียวยาด้านชาวบ้านที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัย จะพิจารณาในเรื่องอาคารสงเคราะห์ของกทม. ให้

 

 

 

 

 

ด้าน นาย ธวัชชัย วรมหาคุณ ตัวแทนชาวบ้าน ชุมชนป้อมมหากาฬ เห็นแย้งว่า สิ่งที่ชาวบ้านแพ้ในศาลปกครองนั้น เป็นการฟ้องเรื่องความไม่เป็นธรรมในกฤษฎีกา ปี 2535-2539 ไม่ใช่เรื่องกรรมสิทธิ์ ในที่ดิน เนื่องจากรัฐเองเป็นผู้ใช้อำนาจอันไม่ชอบธรรมและอ้างกฤษฎีกาดังกล่าวในการไล่รื้อชุมชน จึงวอนให้ทาง กทม.ไปอ่านสำนวนที่สั่งฟ้องใหม่

 

 

 

 

 

"เนื้อความในกฤษฎีกามีว่า รัฐมองพื้นที่ใดเป็นสาธารณะประโยชน์ จะออกจุดสำรวจเพื่อหาว่าพื้นที่นั้นเป็นของใคร หลังจากนั้นจะใช้กฎหมายลักษณะนี้ในการบังคับซื้อ ชุมชน จำเป็นต้องขายกับรัฐ ทั้งที่ที่ดินแปลงนี้เดิมโดยมากเป็นที่ของวัด และที่พระราชทานส่วนบุคคล แต่กทม.ใช้อำนาจโดยกฤษฎีกาและบังคับซื้อ ความจริงชุมชนไม่ใช่ผู้บุกรุก แต่รัฐเป็นผู้ทำให้บุกรุก" นายธวัชชัยกล่าว

 

 

 

 

 

ตัวแทนชาวบ้านยังกล่าวต่อว่า หากย้อนกลับไปดูสำนวนของศาลปกครองให้ดี จะเห็นว่าศาลปกครองไม่ได้ให้อำนาจกับกทม.ในการรื้อบ้านคน ดังนั้นหากจะให้ถูกกฎหมาย กทม. ต้องไปฟ้องขับไล่ก่อน

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ นายธวัชชัย ยังถามผ่านสื่อไปยัง กทม. ว่า ชุมชนป้อมมหากาฬติดปัญหาอะไร จึงไม่สามารถจัดการให้เช่าพื้นที่ได้ เพราะประชาชนเองก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกทม.และไม่ขัดกับการจัดการสาธารณะประโยชน์ในเรื่องของสวนสาธารณะ ชุมชนเพียงขอปันพื้นที่ และจะจัดการดูแลสวนฯให้ ในลักษณะของงานอาสาตามหลักประโยชน์ของสาธารณะ ที่ทาง กทม. ต้องการ

 

 

 

 

 

นายรณฤทธิ์ ธนโกเศศ อดีตผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานอนุรักษ์สถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่า การที่ กทม.อ้างว่าคนไม่สามารถอยู่กับโบราณสถานได้นั้น เห็นว่า ไม่ถูกต้อง และไม่มีข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.โบราณ

 

 

สถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งจะมีเพียงว่า ให้อธิบดีกรมศิลปากรเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ในกรณีป้อมมหากาฬ นั้น เห็นว่า ทาง กทม. กับชุมชนได้มีข้อตกลงบางอย่างกันไปแล้วในช่วงหนึ่ง จึงไม่อยากเข้าไปก้าวก่าย

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม นายรณฤทธิ์ ชี้ว่า ทางกรมศิลปากรเอง ได้พิจารณานำเสนอไปแล้วว่า คนสามารถอยู่กับโบราณสถานได้ เพียงแต่อาจต้องแยกประเภทหรือจัดระเบียบให้เหมาะสม ในส่วนงานวิจัยขององค์กร

 

 

 ICCROM (ศูนย์อบรมด้านอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม)ที่ปรึกษาคณะพิจารณามรดกโลก ของยูเนสโกเอง ก็มองว่า คนอยู่กับโบราณสถานได้

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ประเทศไทยเอง ก็เป็นภาคี ในกฎหลักสากลวอชิงตัน มีมติเกี่ยวกับเมืองประวัติศาสตร์ซึ่งก็ระบุชัดเจนว่าการที่คนอยู่กับโบราณสถาน เป็นการอนุรักษ์เชิงบูรณาการ ที่เน้นการจัดการบริหารไม่ใช่ความสวยงาม เพราะการที่มีคนอยู่จะเป็นการช่วยดูแลจัดการเมือง เป็นการจัดการอย่างยั่งยืน ด้าน กรมศิลปากรก็ไม่สามารถแลเองได้อย่างทั่วถึง

 

 

 

 

 

"ประเด็นคือการยกเลิกหลักนิติศาสตร์ มาผสมกับหลักรัฐศาสตร์ ต้องปรับหลักคิดด้านการอนุรักษ์ชุมชนเมืองใหม่ จึงจะแก้ปัญหาได้" นายรณฤทธิ์ กล่าว

 

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท