Skip to main content
sharethis

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีด้านแร่ธาตุของอาเซียน ครั้งที่ 1 (The First ASEAN Ministerial Meeting on Minerals หรือ AMMin) ที่จัดขึ้น ณ เมืองคูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 ส.ค 48 ว่า เป็นการประชุมความร่วมมือพัฒนาภาคอุตสาหกรรมแร่ธาตุของกลุ่มประเทศอาเซีย เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมเเร่ธาตุ เป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีศักยภาพการแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้ โดยเน้นการดำเนินงานใน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การอำนวยความสะดวก และยกระดับการค้าการลงทุนด้านแร่ธาตุ การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมที่รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรมแร่ธาตุ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรในอนาคต


 


"กรอบความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ธาตุในกลุ่มอาเซียน มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการสร้างความสมดุลระหว่างภาคอุตสาหกรรมและเหมืองเเร่ ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมแร่ธาตุของไทย โดยจะกระตุ้นให้เกิดการค้าการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไทยจะได้รับการสนับสนุน และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ธาตุจากกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ตลอดจนการจัดหาวัตถุดิบ สำหรับภาคอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ" นายปานปรีย์ กล่าว


 


ทั้งนี้  ภายหลังจากการประชุมมีการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเเร่ธาตุของอาเซียน โดยได้กำหนดกรอบการดำเนินงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ธาตุในกลุ่มอาเซียน เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้กับประเทศสมาชิก เช่น การร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ ด้านการค้าและการลงทุน การแบ่งปันข้อมูลข่าวสารด้านแร่ธาตุ การกำหนดกฎระเบียบให้เอื้อต่อการส่งเสริมการค้าและการลงทุ ทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอาเซียน เป็นต้น ทั้งหมดเป็นไปตามแผนปฏิบัติการความร่วมด้านแร่ธาตุของกลุ่มอาเซียน ปี 2548 - 2553

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net