กรุงเทพฯ-10 ส.ค.48 เวลา10.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) ศาลอาญานัดสืบความ นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ ทนายความคดีเจไอ เหรัญญิกชมรมนักกฎหมายมุสลิม พยานโจทก์ในคดีการหายตัวของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม โดยอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก อดีตสารวัตรช่วยราชการ กองอำนวยความรักษาความสงบภายใน และพวก รวม 5 คน เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ และข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมโดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547
โดย พยานโจทก์ เบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.47 เวลา 12.00 น. พยานไปพบนายสมชาย ที่สำนักงานกฎหมายของนายสมชายที่ ซ.อาภาภิรมย์ รัชดาภิเษก 32 เพื่อหารือกรณี 5 ผู้ต้องหาคดีปล้นอาวุธปืนกองพันทหารพัฒนาที่ 4 และกรณีเผาโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกซ้อมทำร้างร่างกายให้รับสารภาพในคดีดังกล่าว
โดยขณะนั้นมีโทรศัพท์ถึงนายสมชาย ฟังความจากนายสมชายว่า มีปลัดอำเภอ ใน จ.นราธิวาส คนหนึ่งแจ้งว่า ขณะนี้นายสมชายถูกจับตามมองว่า เป็นผู้ก่อการร้ายคนที่ 1
อย่างไรก็ดีนายกิจจาระบุว่า ได้สอบถาม นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.กรุงเทพฯ ในฐานะประธานกรรมาธิการตรวจสอบกรณีภาคใต้แล้ว ซึ่งนายสักยืนยันว่า ได้สอบถามทางสภาความมั่นคงแห่งชาติและ กอ.รมน.แล้ว ไม่ปรากฏว่า เป็นจริงดังคำบอกเล่า
ทั้งนี้ วันที่ 12 มี.ค.47 เวลา 16.00 น. พยานได้โทรศัพท์ไปนัดนายสมชายกับนายปฐมพงษ์ ลิขิต ทนาย ความฝึกงานซึ่งเป็นลูกศิษย์ของนายสมชายไปกินข้าวเย็น โดยพยานจะต้องไปรับตั๋วรถทัวร์ไป จ.เชียง ใหม่ ที่ฝากให้นายปฐมพงษ์ซื้อให้จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยนัดหมายดังกล่าวพยานยังไม่ได้ระบุเวลาและสถานที่ให้นายสมชายทราบ
กระทั่งเวลา 20.00 น. เมื่อพยานเสร็จจากภารกิจแล้วจึงโทรศัพท์ติดต่อนายสมชาย จึงทราบว่านายสมชายรับประทานอาหารเย็นแล้ว โดยขณะนั้นอยู่กับนายปฐมพงษ์ที่โรงแรมชาลีน่า ถ.รามคำแหงซอย 65 ซึ่งนายสมชายบอกด้วยว่าในคืนดังกล่าวจะไปนอนค้างที่บ้านน้องชายของนายวรรณชัย ปานนพภา ที่หมู่บ้านสวนสน ย่านบางกะปิ ที่อยู่ห่างจากโรงแรมชาลีนาประมาณ 2 กิโลเมตร
จากนั้นในช่วงกลางคืนพยานยังได้ติดต่อหานายสมชายอีก แต่ติดต่อไม่ได้ซึ่งพยานเข้าใจว่า นายสมชายคงนอนหลับแล้ว โดยพยานทราบเรื่องการหายตัวเมื่อนายสมชาย ไม่ได้เข้าประชุมชมรมนักกฎหมายมุสลิมในเช้าวันที่ 13 มี.ค.47 และที่ไม่ได้ไปฟังการสืบพยานโจทก์คดีเจไอ ที่ศาลจังหวัด นราธิวาสในวันที่ 14 มี.ค.47
นายกิจจา ยังเบิกความถึงมูลเหตุจูงใจที่นายสมชายถูกอุ้มหายตัวไปว่า เกิดจากสาเหตุ 2 ประการ 1.การร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรรมาธิการฯ วุฒิสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณี 5 ผู้ต้องหาคดีปล้นปืน - เผาโรงเรียนถูกซ้อมให้รับสารภาพและ 2.เรื่องที่นายสมชายเป็นผู้เคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อ 50,000 ชื่อยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งก่อนหายตัวไปนายสมชายรวบรวมได้ชื่อประชาชน จ.นราธิวาส ปัตตานีและ กทม.ได้แล้วประมาณ 20,000 รายชื่อ
หลังนายกิจจาเบิกความโจทก์แล้ว ทนายความจำเลยจึงซักถามประเด็นมูลเหตุจูงใจ ซึ่งนายกิจจา ย้ำว่า เกิดจาก 2 สาเหตุเท่านั้นคือการร้องขอความเป็นธรรมให้ 5 ผู้ต้องหาคดีปล้นปืน ฯ และการเคลื่อนไหวให้ยกเลิกกฎอัยการศึก โดยยืนยันว่านายสมชายไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับครอบครัว หรือกับสมาชิกทนาย
ความในชมรมนักกฎหมายมุสลิม
นายกิจจาเบิกความซักค้านทนายจำเลยว่า นายสมชายไม่เคยได้รับบริจาคเงิน หากมีภารกิจสมาชิกชมรมจะร่วมกันออกค่าใช้จ่าย ซึ่งมีเงินสะสมในบัญชีเพียง 10,000 บาทเศษเท่านั้นโดยชมรมเคยมีเงินสะสมสูงสุด 100,000 บาท ส่วนที่นายสมชายเดินทางไปซาอุ ฯ เพื่อร่วมพิธีฮัจเท่านั้น และไม่เคยรับเงินบริจาคของ
ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ปากต่อไปในวันที่ 11 ส.ค. นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งอัยการจะเบิกตัวนายปฐมพงษ์ ลิขิต ทนายความฝึกงานที่อยู่ใกล้ชิดกับนายสมชายก่อนหายตัวไป ขึ้นเบิกความต่อไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- "แม้ว" ปัดไม่รู้ "ทนายสมชาย" หายไปไหน
- ถล่มฐานปฏิบัติการทหารวัดธารโต ไม่มีใครเจ็บ
- ถล่มลูกจ้าง กอ.สสส.จชต.ยะลาดับอีก 1
- ประกบยิงรักษาการ ผอ.โรงเรียนนราฯสาหัส
- ยิงเซียนนกกรงหัวจุกยะลาดับ