ประชาไท10 ส.ค. 48 "ประเทศไทยไม่ควรซื้อดาวเทียมธีออส แม้จะเซ็นสัญญาซื้อไปแล้วก็ควรเลิกดำเนินการต่อเพราะจะช่วยให้ได้กำไรมากกว่า และอย่าเพิ่งมีดาวเทียมตอนนี้เพราะเราไม่มีบุคลากรและทรัพยากรมากพอ" ดร.ธวัช วิรัตติพงษ์ กล่าว |
วันนี้ ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมได้เชิญ ดร.ธวัช วิรัตติพงษ์ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "มองโลกจากอวกาศ....ประเทศไทยเปลี่ยนไปอย่างไร" ทั้งนี้ ได้หยิบยกประเด็น "บทเรียนราคาแพงจากดาวเทียม 6,440 ล้านบาท" กล่าวในช่วงท้ายด้วย
ดร.ธวัช ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการห้องปฏิบัติการสำรวจอวกาศที่ไม่ใช่มนุษย์ โครงการออกแบบประกอบและติดตั้งเครื่องรับสัญญาณยานอวกาศจากนอกโลก องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (นาซ่า) ซึ่งเป็น 1 ในจำนวนชาวเอเชียที่มีประมาณ 10-15% ที่ได้ร่วมงานกับองค์การนาซ่า
ขณะนี้ ดร.ธวัช กำลังรับผิดชอบการปรับปรุงระบบการสื่อสารรับสัญญาณนอกโลกของนาซ่า โดยการสร้างจานดาวเทียมในวงเงิน 1.6 พันล้านบาท ได้แสดงทัศนะต่อการดำเนินการจัดซื้อดาวเทียม
ธีออสของไทย ว่าไม่สมเหตุสมผล ดังนี้
ประการแรก การใช้ดาวเทียมเพื่อทำการค้าให้ได้กำไร ดร.ธวัช กล่าวว่า แม้แต่เจ้าของโครงการยังบอกว่าเราจะขาดทุนหลายพันล้าน ซึ่งถ้าขาดทุนตั้ง 80-90% จึงนับเป็นเหตุผลทั้งหมด แต่ถ้าจะยังทู่ซี้ทำต่อก็ต้องมีเหตุผลมาหักล้างที่ดีมาก
"ประการต่อมา เพื่อเรียนรู้การออกแบบและสร้างดาวเทียม ประเทศไทยจะได้ตามเขาทัน ผมว่าไม่ใช่ เพราะการออกแบบเพื่อใช้จริงนั้นไม่ใช่ทำกันเล่นๆ ไม่ไช่ทำกันง่ายๆ และการส่งคนไป 20-30 คน เพื่อไปอบรม 2-3 ปี ใครๆ ก็รู้ว่าถึงยังไงก็กลับมาทำดาวเทียมเองไม่ได้" วิศวกรไทยในนาซ่า ชี้แจง
ประการที่สาม ดาวเทียมเพื่อทำการจารกรรม ดร.ธวัช ก็กล่าวหนักแน่นว่าทำไม่ได้ เพราะ resolution
สำหรับ ประการที่สี่ หากคาดการณ์ว่าอายุดาวเทียมอาจมากกว่า 10 ปี ดร.ธวัชก็ยังมองว่ายังไม่คุ้ม โดยดร.ธวัช ให้เหตุผลว่าไม่มีใครรู้จริงว่าดาวเทียมจะมีอายุการใช้งานเท่าไรแน่ อาจจะตั้งแต่ 0-14 ปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ สำหรับดาวเทียมธีออสถูกออกแบบให้ใช้งานได้ 5 ปี ดังนั้นผลกำไรก็ต้องยึดตัวเลขตรงนี้ในการคำนวณ
ประการที่ห้า ดาวเทียมจะทำให้สะดวกรวดเร็วในการได้ภาพถ่ายจากดาวเทียม เพราะเป็นของไทยเอง ดร.ธวัชค้านว่า อาจจะไม่จริง เพราะว่าดาวเทียมจะโคจรถึงจุดเดิมทุกๆ 26 วัน และยังมีอยู่แค่ดวงเดียวทำให้ไม่สะดวก โดยถ้าเลือกซื้อข้อมูลจากดาวเทียมอื่นจะสะดวกกว่า อีกทั้งมีคุณภาพดีและแนวโน้มราคาถูกลงด้วย
ประการสุดท้าย หากมองว่ารัฐบาลตกลงทำสัญญาและจ่ายเงินไปเมื่อปีที่แล้ว หากยกเลิกประเทศจะขาดทุนเป็นพันล้านบาท ดร.ธวัช กลับเห็นว่าถ้ารัฐบาลยกเลิกจะทำให้ได้กำไรถึง 5 พันกว่าล้านบาท และยังสามารถเอาเงินจำนวนนี้ไปทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนได้อีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ดร.ธวัช กล่าวว่า หากรัฐบาลยังคิดจะอยู่กับโครงการนี้ต่อไป 5-6 ปี ข้างหน้าเมื่อดาวเทียมหมดอายุก็ต้องซื้อดาวเทียมดวงใหม่ เท่ากับว่าประเทศไทยจะขาดทุนอีกหลายพันล้าน
ในที่สุด ดร.ธวัช ก็สรุปว่า "จากที่กล่าวมาทั้งหมด ผมจึงหมดเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลจะต้องซื้อดาวเทียมธีออส"
ขณะเดียวกัน ดร.ธวัช ได้เสนอทางออกสำหรับประเทศไทย โดยกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นเจ้าของดาวเทียมในขณะนี้ โดยสามารถซื้อภาพถ่ายจากดาวเทียมอื่นๆ จะช่วยประหยัดจำนวนเงินไปได้มาก พร้อมกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของไทยให้มากยิ่งขึ้น
"ถ้ารัฐบาลเลือกได้เอากลับมา 5 พันล้านดีกว่า ผมไม่ใช่ต่อต้านรัฐบาลแต่มองว่าอะไรไม่ถูกก็ไม่ควรทำ และเราควรซื้อดาวเทียมเรดาร์มากกว่า เพราะสามารถถ่ายได้แม้มีเมฆและเป็นที่นิยมมาก ซึ่งขณะนี้ประเทศเวียดนาม และสิงคโปร์ก็กำลังใช้อยู่" นายช่างไทยในนาซ่า อธิบาย
ทั้งนี้ ดร.
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)