ประชาไท-10 สค. 48 ศาลจังหวัด "นราธิวาส" นำร่อง "พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ" นำร่อง ปูแบบแผนการขออำนาจศาลควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยตามมาตรา 12 ด้านนักกฎหมายมุสลิมยังหวั่น เจ้าหน้าที่พลิ้ว ชี้ กระทรวงยุติธรรม ควรตั้งกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 12
นาย สิทธิพงศ์ จันทรวิโรจน์ ตัวแทนจากสภาทนายความ และสมาคมนักกฎหมายมุสลิม กล่าวในที่ประชุม "แนวทางการพัฒนากระบวนการยุติธรรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้:มิติใหม่ตามแนว ทางสมานฉันท์" ที่จัดโดย คณะทำงานส่งเสริมการดำเนินกระบวนการยุติธรรมตามหลักนิติธรรม วันนี้(10 ส.ค.) ว่า ตามที่ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตราที่ 12 มีเนื้อความสรุป ให้อำนาจการสั่งควบคุมตัวอยู่ที่ศาล เจ้าหน้าที่มีหน้าที่เพียงยื่นคำร้อง อาจทำให้เกิดการยืมมือศาลจับกุมคนอย่างไม่เป็นธรรมได้
ทั้งนี้ นายสิทธิพงศ์ ระบุว่า เพื่อเป็นการป้องกันการจับกุมอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลจะต้องระบุให้ชัดว่า เจ้าหน้าที่จะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะควบคุมตัวได้ และต้องแจงรายละเอียดให้ชัดเจนในคำร้องด้วย
โดยขณะนี้ ทางศาลจังหวัดนราธิวาสได้ ทำแนวทางการออกหมายจับและควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของการกรอกแบบฟอร์มคำร้องนั้นต้องระบุให้ชัดเจนว่า มีหลักฐานอะไร จะควบคุมตัวไว้ที่ไหน และต้องรายงานต่อศาลภายในวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้ก่อนมาขออกหมายควบคุมตัวจากศาลนั้น จะต้องสอบพยานผู้ร้องให้ชัดเจนก่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิพงศ์ ยังแสดงความเป็นห่วงว่า แม้จะมีแบบแผนรูปธรรมดังกล่าวแล้วก็ตาม ก็ยังเกรงว่า เจ้าหน้าที่อาจจะไม่ปฏิบัติตามมาตราที่ 12 อย่างเคร่งครัด คือ ไม่ขออำนาจศาลตามที่ระบุ ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวงยุติธรรมตั้งกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ ตามมาตร 12 อย่างเคร่งครัดด้วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)