ประชาไท15 ส.ค. 48 "สื่อคือองค์กรที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติ ผมโทษท่านเพราะผมไม่เข้าใจการให้ข่าวข้อมูลแก่ประชาชน ซึ่งมีหนังสือพิมพ์ไม่กี่ฉบับที่เอาคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาไปบอกให้ประชาชนทราบ ผมอยากตั้งคำถามว่าสื่อมวลชนทำอะไรกันอยู่ โดยที่ไม่ให้ความสนใจในการให้ความรู้ต่อประชาชนที่ตนรับผิดชอบอยู่เลย" ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายก รัฐมนตรี และประธานกรรมการศึกษาระบบเตือนภัยล่วงหน้า(ซึนามิ) กล่าวตำหนิสื่อมวลชนในการทำหน้าที่รายงานภัยธรรมชาติ
วานนี้(15 ส.ค.) มีการระดมสมองจากในหัวข้อ "ระบบการสื่อสารข้อมูลข่าวสารในภาวะวิกฤต" ภายใต้โครงการนโยบายและแนวทางพัฒนาระบบการรับมือกับภัยพิบัติ ด้านสังคมและการจัดการปกครอง: กรณีศึกษาจากประสบการณ์ธรณีพิบัติซึนามิ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
ดร.สมิทธ กล่าวว่า "ภัยธรรมชาติเป็นวัฏจักรที่เกิดขึ้นกับโลกมาเป็นเวลา 4,600 ล้านปี ได้คร่าชีวิตคนและสัตว์เป็นจำนวนมาก ทำไมสื่อไม่ให้ความสนใจพวกเขาบ้าง คนเราเฉลี่ยมีอายุเพียง 70 ปี ก็น่าจะช่วยให้ความสุข ความปลอดภัยแก่พวกเขาบ้าง สื่อได้ให้การศึกษาแก่เขาบ้างไหมว่าอะไรเป็นภัยต่อตัวเขาบ้าง ผมรู้สึกน้อยใจสื่อ หากว่าเราสนใจสักนิดต่อภัยพิบัติและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก็จะช่วยให้เขาจะได้ระวังตัวบ้าง"
นอกจากนี้ ดร.สมิทธ ยังขอให้สื่อให้เวลากับเรื่องราวอื่นๆ ด้วย ดังเช่นกรณีคลื่นยักษ์ซึนามิ แม้เพียง 1 นาทีก็มีค่าต่อชีวิตคนนับหมื่นนับแสนคน จึงต้องการเรียกร้องให้สื่อรับผิดชอบต่อสังคมให้มากกว่าที่เป็นอยู่
"ผมเตือนเกี่ยวกับคลื่นซึนามิไป 10 กว่าปีแล้ว รัฐบาลควรให้ความรู้กับประชาชน ต้องมีคลังสมองให้การศึกษาแก่ประชาชน ทั้งการตรวจวัดและระบบเตือนภัยที่ดี ถ้าประชาชนไม่เข้าใจก็ตายอีกเหมือนกัน" ดร.สมิทธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.สมิทธ ได้เคยให้สัมภาษณ์พิเศษ ในประชาคมวิจัย ฉบับที่ 61 เดือนพ.ค.-มิ.ย. 48 เกี่ยวกับความรู้ของการเตือนภัยซึนามิต่อประชาชนว่า "สมัยรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่2 อาจจะมีคนอาศัยอยู่ในแถบนี้แต่มีเป็นจำนวนน้อย เพราะพลเมืองประเทศไทยสมัยนั้นมีน้อยมาก และอาจจะโดนคลื่นซึนามิพลัดตายกันหมด เลยไม่มีใครมาเล่าให้ฟัง"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)