ประชาไท- อุทกภัยในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วนับร้อย สร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย ผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้ง การท่องเที่ยว เสียหายหลายพันล้านบาท |
จากเหตุการณ์นับตั้งแต่พายุวาชิกระหน่ำและต่อมาด้วยความกดอากาศต่ำที่ทำให้ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกประเทศในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงเจออุทกภัยกันทั่วหน้า ถึงตอนนี้ในเวียดนามนั้นได้เกิดน้ำท่วม ทั้งในภาคเหนือ และ บริเวณที่ราบสูงภาคกลางที่ชีวิตผู้คนถูกคร่าไปแล้วอย่างน้อย 17 ชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกันพายุที่กระหน่ำอย่างรุนแรงสู่ภาคกลางของเวียดนามก็ทำให้มีคนเสียชีวิตจากอุทกภัยที่จังหวัด เหงอาน อีก 13 คน โดยที่ 6 เป็นเด็กอายุตั้ง 8-16 ปี
รายงานจากสำนักข่าวเวียดนามมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 16 สิงหาคม) นับเป็นอุทกภัยที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับจังหวัดเหงอานในรอบ 10 ปี โดยมาถึงขณะนี้น้ำได้ทำให้บ้านเรือน 89 หลังและ โรงเรียน 5 แห่ง พังทลายลง และ บ้านอีก 1,000 หลังรวมทั้งสำนักงานใหญ่ของอีก 5 สำนักงานได้รับความเสียร้ายแรง
เจ้าหน้าซึ่งเป็นกรรมการควบคุมอุทกภัยและวาตภัยของจังหวัดเหงอานบอกกับสำนักข่าวสารเวียดนามว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ได้สร้างความหายให้กับพื้นที่เกษตรกรรมไปถึง 9,000 เฮคตาร์ (
นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้สูญเสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมอีก ที่จังหวัด เยียนไบ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือ ห่างจากฮานอย 180 กิโลเมตร มีผู้ชายสองคนถูกน้ำพัดพาไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในวันเดียวกันที่จังหวัด คอน ทุม ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงภาคกลาง มีชาวนาสองคนเสียชีวิตจากน้ำท่วม
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า โดยรวมแล้วเหตุการณ์น้ำท่วมหนักครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนของชาวเวียดนามเสียหายไปถึง 1,300หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร์เสียหายไป 10,827 เฮคตาร์
ที่จังหวัดกัมปงจาม ของกัมพูชาเด็ก 3 คนจมน้ำตายเนื่องจากเรือที่ทำการอพยพผู้คนได้พลิกคว่ำลงเนื่องจากลงแรงมาก พ่อของเด็กที่เสียชิวตคนหนึ่งก็ถูกน้ำพัดหายไปด้วยเนื่องจากเขาพยายามที่จะไปช่วยชีวิตลูกเอาไว้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าฝ่ายภัยพิบัติในพนมเปญได้ติดประกาศเตือนให้จังหวัดที่อยู่ริมฝั่งน้ำโขงให้ระวังน้ำท่วมฉับพลับและเตรียมกั้นกระสอบทราย รวมทั้งเตรียมอพยพผู้คนออกจากพื้นที่แล้ว
ด้านประเทศลาวก็หนีไม่พ้น แม้ว่าแม่น้ำโขงยังไม่ล้นตลิ่ง แต่ภัยนี้ก็เกิดเช่นกัน แม้ไม่มีรายงานการเสียชีวิต แต่พื้นที่ทางการเกษตรและ ถนนหนทางในหลายเมืองก็รับความเสียหายหนักอาทิ อุดมไซ สะหวันนะเขต จำปาศักดิ์ คำม่วน สาละวัน บอลิคำไซ ซึ่งรวมพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายไปถึง 27,000 เฮคตาร์ ในขณะที่จังหวัดอุดมไซเพียงจังหวัดเดียวมีความเสียที่เกิดขึ้นคาดว่าจะต้องใช้งบในการบูรณะถึง 1.39 ล้านเหรียญ หรือ 54.60 ล้านบาท
ส่วนที่มณฑลยูนนานของจีนซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของกลุ่มประเทศนี้ ที่ผ่านมา ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน ทั้งนี้รายงานข่าวจาก พีเพิ่ล เดลี่ ของจีนแจ้งว่า ในจำนวนนี้ ได้รวมถึง 12 คน ที่เสียชีวิตเนื่องจากแผ่นดินเลื่อนใน เขตพิเศษปกครองตนเองของชนเผ่าไต-จิงป้อ ที่เมืองเต๋อหงด้วย นอกจากนี้ภัยพิบัติที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ทำให้มีคนสูญหายไปอีก 48 คน สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณ 18.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( ประมาณ 756 ล้านบาท)
นอกจากนั้นตัวก่อนหน้ามีรายงานถึงวันที่ 22 กรกฎาคมนั้น มีคน 88 คนเสียชีวิตจากภัยพิบัติดังกล่าวซึ่งส่งผลกระทบไปยังห้าเมืองของมณฑลยูนนาน ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ทางเศรษฐกิจไปถึง 289 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 11,920 ล้านบาท)
นอกจากนี้ รายงานข่าวจากสำนักข่าวซินหัวของจีน แจ้งว่า จนกระทั่งถึงวันพฤหัสฯที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวนับหมื่นคนต้องติดอยู่ที่อยู่ติดชมวิวของแม่น้ำจิ่งสา ที่เรียกว่า แชงกรี-ล่า ในเมืองลี่เจียง ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งด้วย รวมทั้งบนท้องถนนกลายอัมพาตไป เพราะรถไม่สามารถขับเคลื่อนย้ายไปไหนได้ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวก็ต้องลงมาช่วยกันเข็นเพื่อที่จะให้ตัวเองสามารถออกมานอกพื้นที่ได้
สำหรับประเทศไทยนั้นก็เสียหายหนักตามที่ทาง "ประชาไท" ได้เสนอข่าวไปแล้วในส่วนของข่าวประจำวันและจะได้เสนอความคืบหน้าต่อ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)