ประชาไท18 ส.ค. 48 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงชี้ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสิทธิในปัจจัย 4 โดยเฉพาะด้านอาหารและโภชนาการที่ดี ทั้งทรงย้ำทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิต
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการพิเศษด้านอาหารและโภชนาการ ครั้งที่ 14 เรื่อง "สิทธิในอาหารและโภชนาการที่พอเพียงเพื่อการพัฒนามนุษย์" ที่สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ พระองค์ตรัสว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิต ทั้งผู้ปกครองและชุมชน ล้วนต่างมีสิทธิเช่นเดียวกัน
พระองค์ ตรัสอีกว่า แต่เดิมนั้นความมั่นคงเป็นเรื่องของการป้องกันประเทศเพื่อไม่ให้มีผู้มารุกล้ำทำลาย แต่ในภาวะปัจจุบันจะมุ่งให้ความสำคัญด้านการป้องกันเพื่อไม่ให้ถูกทำร้าย การเข้าโรงเรียน สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ การรับประทานอาหารและโภชนาการที่ดี รวมถึงปัจจัย 4 อันได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่ม
โดยคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ ได้รับอาหารและโภชนาการที่ดี เพื่อให้สามารถพยุงตัวเองได้ โดยพร้อมที่จะนำความรู้ไปเกื้อกูลชุมชนได้อีก หากเมื่อไรสุขภาพไม่ดีก็จะทำให้ไม่มีสมองทั้งร่างกายก็จะตกเป็นภาระของผู้อื่น ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นยังจะส่งผลต่อชาติบ้านเมืองด้วย ดังนั้นเมื่อเจ็บป่วยจึงต้องหายามารักษาพยาบาล หรือด้วยการรักษาสมดุลในการรับประทานอาหาร
ขณะที่ ศ.พญ.คุณสาคร ธนมิตต์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในภายหลังว่า "พระเทพฯ ทรงชี้ให้เห็นความสำคัญของปัจจัย 4 ซึ่งจริงๆ แล้วจำเป็นมาก แต่ตัววิกฤตที่สุดก็คืออาหารและยา เพราะปัจจัยอย่างอื่นยังพอดำเนินไปได้
"พระองค์ตรัสว่า โรคที่ไม่ได้เกิดจากตัวเชื้อโรคมีถึง 70% ดังนั้นการเจ็บป่วยจึงหายได้โดยไม่ต้องใช้ยา ขณะเดียวกันการเจ็บป่วยที่มาจากเชื้อโรคก็ทิ้งไม่ได้ แต่ทุกโรคก็อย่าคิดว่ากินยาแล้วจะหาย หากแต่อาหารเป็นยาในตัวที่ทำให้แข็งแรงและสู้ต่อโรคได้ แม้จะมีตัวเชื้อโรคอยู่ในร่างกายก็จริง
ศ.พญ.คุณสาคร กล่าวในที่สุดว่า สำหรับอาหารที่ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค เช่น วิตามินซีในผักและผลไม้ก็จะทำให้ไม่ป่วย ทั้งยังต้านเชื้อโรคไม่ให้ออกฤทธิ์ ดังนั้นอาหารจึงมีความสัมพันธ์กับความเจ็บป่วยเป็นอย่างมาก
เรื่องที่เกี่ยวข้อง