ประชาไท18 ส.ค. 48 มหาวิทยาลัยมหิดล ตบเท้าเข้าบ้านกะเหรี่ยง เบิกทางวิจัยอาหารและโภชนาการ โดยผูกโยงกับสิทธิของชุมชน ที่บ้านสะเนพ่อง จ.กาญจนบุรี หวังปูทิศวิกฤตอาหารนำเข้าของคนเมือง พร้อมพยายามชี้ให้ชาวบ้านเห็นคุณค่าอาหารป่าหากินเอง
หลังจากสถาบันวิจัยโภชนาการ ร่วมกับสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่ายังมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการเลี้ยงดูที่เอื้อต่อการพัฒนาภาวะโภชนาการของเด็ก แม้ว่าสภาพแวดล้อมและแหล่งอาหารไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนในอดีต จึงได้ตั้งโครงการวิจัยสำรวจและประเมินภาวะโภชนาการในกลุ่มชาติพันธุ์ โดยได้วิจัยชุมชนชาวกะเหรี่ยงบ้านสะเนพ่อง ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจวิถีชีวิต การบริโภคอาหาร สุขภาพและภาวะโภชนาการ รวมถึงวัฒนธรรม ความเชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เพื่อเป็นฐานข้อมูลความรู้ในการพัฒนาสุขภาพ ภาวะโภชนาการแก่คนในชุมชน อันจะช่วยให้เกิดความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของคนในชุมชนรวมถึงชุมชนอื่นต่อไป
ดร.สุทธิลักษณ์ สมิตะสิริ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะทำงานโครงการวิจัยกระบวนการและวิธีการในการพัฒนาสุขภาวะและโภชนาการที่ดีของเด็กและผู้หญิงกลุ่มชาติพันธุ์(กะเหรี่ยงในชุมชนสะเนพ่อง) กล่าวว่า ในชนกลุ่มน้อยมีทัศนคติหรือความเชื่อที่หลากหลาย ขณะที่มุมโภชนาการปัญหาระดับโลกกำลังเห็นความหลากหลายของพืชที่ลดต่ำลงไปมากซึ่งเกี่ยวข้องกับอาหารในชุมชนโดยตรง
"หมู่บ้านชาวชนบทต่างร่ำรวยในทรัพยากร แต่ผู้อยู่ข้างนอกหรือคนเมืองกลับกำลังยากจนขึ้น ซึ่งเราสนใจในความหลากหลายทางทรัพยากร การดำรงชีวิต การโภชนาการ โดยชุมชนเผ่านี้มองว่าทุกอย่างล้วนเป็นวิถีชิวิตของพวกเขา" ดร.สุทธิลักษณ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ดร. สุทธิลักษณ์ เห็นว่า ในระยะหลังไม่สามารถนำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในภาคอีสานได้ และชาวบ้านมีความรู้สึกว่ามีความยากลำบากในการนำไปใช้จริง การวิจัยครั้งนี้จึงอยากดูของจริงในหมู่บ้านที่มีความพอเพียงจริงๆ ว่าเขาเจอกับอะไร เกิดอะไรบ้าง และชาวบ้านเองคิดเห็นอย่างไร โดยต้องการดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
"เราต้องเรียนรู้ร่วมกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบ วันนี้จึงมาเสนอมุมองค์ความรู้ ศึกษาว่าชาวบ้านเขามองอย่างไร ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นชาวบ้านต้องพิจารณาเอง เราไม่ได้ไปบอกให้ชาวบ้านทำโน่นทำนี่ แต่บอกหนทางให้เด็กเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ เป็นสิ่งที่ชุมชนต้องเรียนรู้ และเขาก็ต้องดูทิศทางที่พอเป็นไปได้" คณะทำงานโครงการ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.สุทธิลักษณ์ เห็นว่า ตอนนี้ระบบอาหารเริ่มหายากลำบากมากขึ้น เด็กสุขภาพไม่ดีเพิ่มขึ้น การวิจัยครั้งนี้จึงเป็นการดูแลชาวบ้านให้ปรับตัวให้เหมาะกับสถานการณ์ ซึ่งภายในชุมชนมีการแบ่งปันจัดการอย่างสมดุลและพอเพียง โดยที่อาหารและสิ่งแวดล้อมรักษาความเป็นชุมชนเอาไว้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)