Skip to main content
sharethis

หมายเหตุ-ระหว่างวันที่ 18 ถึง 19 ส.ค.ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ จัดสัมมนานานาชาติเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสันติภาพ เพื่อให้นักวิชาการในอาเซียนนำเสนอผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับสันติภาพ โดยเฉพาะในประเด็นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โดยมีผู้เกี่ยวข้องมาร่วมงานประมาณ 200 คน


"ประชาไท"ของนำสาระสำคัญของนักคิดที่นำเสนอในเวทีสัมมนาบางท่าน มาถ่ายทอดให้กับผู้อ่านโดยสังเขป



-----------------








 

นายอุกฤษฎ์ ปัทมานันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายหัวข้อ มองปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ในสายตาภายในประเทศและระดับภูมิภาค ในการสัมมนานานาชาติ เรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสันติภาพ ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2548

ผมเดินทางลงมาที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากเหตุการณ์ปล้นปืนเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ด้วยความการเข้ามาค้นหาความจริง หลังจากเข้าได้ประมาณ 1 ปี พบว่า รัฐไทยเป็นรัฐที่ป่าเถื่อนที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากอัตลักษณ์ของคนใน 3 จังหวัดมีความเข้มแข็ง ทำให้รัฐไทยที่อยู่ส่วนกลางรับไม่ได้ ไม่สามารถกลืนอัตลักษณ์ของพื้นที่ได้ เช่นเดียวกับในภาคเหนือหรือภาคอีสานของไทย จึงทำให้รัฐไทยต้องการเข้ามากำหราบ แต่ไม่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ยิ่งเป็นแกนนำรัฐบาลก็ยิ่งไม่เข้าใจ


 


ยุคนี้นายกรัฐมนตรีต้องแถลงข่าวมากขึ้น เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาจากคำพูดของนายกรัฐมนตรีมากที่สุด การที่นายกรัฐมนตรีพูดว่า ประเทศไทยเศรษฐกิจไม่ดี ไม่เป็นความจริง ก็มีผลทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป หรืออย่างที่นายกรัฐมนตรีพูดว่าจะต้องมีความเชื่อมั่นและกล้าได้กล้าเสีย(Trust and Confidence) โดยเฉพาะกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


 


คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้จึงเป็นคณะรัฐมนตรีที่จะสร้างปัญหาให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป เห็นได้จากการติดตั้งโทรทัศน์ให้ดูฟุตบอล


 


สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนไม่เรียกร้องให้ทำวิจัย แต่เป็นประเด็นที่ท้าทายมาก โดยเฉพาะการทำวิจัยเกี่ยวกับปัญหาชนกลุ่มน้อย การเสนอกระบวนการศึกษาการก่อการร้ายในระดับอาเซียนให้กับรัฐบาล คนที่อยู่ในเขตสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกฉียงใต้มีความรู้มากกว่า บางประเทศมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาการก่อการร้ายมากกว่าประเทศไทย เพราะฉะนั้นต้องฟังเขา ต้องจัดประชุมให้ถี่ขึ้น เพราะความร่วมมือในระดับภูมิภาคเป็นเรื่องสำคัญ ประเทศชอบทำตัวเป็นซีอีโอ หรือเป็นเจ้าภาพในอาเซียน ก็น่าจะเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ด้วย


 


กรณีที่ พล.ต.อ.ชิตชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมาระบุว่าจะให้ปัตตานีเป็นดารุสลาม อาจเพราะได้รับการเปิดทางให้ศึกษาเรื่องนี้ขึ้นมา แต่คำว่า ดารุสลามเป็นเรื่องใหญ่ หากมีการออกกฎหมายโดยไม่ได้หารือกับหลายฝ่ายแทนที่จะเป็นการแก้ปัญหา ก็จะทำให้เกิดปัญหาที่ต้องตามไปแก้อีกมากมาย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net