ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-24 ส.ค.2548 แก่เหมืองฝายโบราณครวญ "ทักษิณ" ไม่รักบ้านเกิด สั่งรื้อฝายโบราณที่สร้างสมัยพระเจ้ามังราย เรียกร้องให้ระงับคำสั่งรื้อ ก่อนที่แผ่นดินเชียงใหม่-ลำพูนจะลุกเป็นไฟ
นายหมื่น ทิพยเนตร ผู้อาวุโสวัย 77 ปี ประธานเหมืองฝายพญาคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นประธานเหมืองฝายมากว่า 40 ปี ก็เคยรู้เคยเห็นมาอยู่ว่า เคยมีน้ำท่วมแบบนี้ แต่ไม่เคยคิด เหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดว่า สาเหตุที่น้ำท่วมนั้นมาจากฝาย 3 แห่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะตัวฝายนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าขอบพนังถนนอยู่แล้ว
"จริงๆ โครงการที่จะรื้อฝายพญาคำ ฝายท่าวังตาล และฝายหนองผึ้งนั้นมีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา แต่หลังจากที่พวกเราไปยื่นหนังสือคัดค้าน เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านในเขตเชียงใหม่และลำพูน และได้มีการระงับโครงการนี้ไว้
แต่มาถึงยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นลูกคนเมือง นอกจากไม่ส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมอันเก่าแก่นี้ไว้ กลับมีความคิดที่จะรื้อทำลายทิ้ง ซึ่งคนเชียงใหม่ ลำพูน รับไม่ได้ และจะพร้อมที่จะออกมาเรียกร้องคัดค้านจนถึงที่สุด แม้ว่าแผ่นดินจะลุกเป็นไฟก็ตาม" นายหมื่น กล่าว
อย่างไรก็ตาม ประธานเหมืองฝายพญาคำ กล่าวย้ำอีกว่า อยากขอให้ นายกฯ ทักษิณ ได้คิดใหม่ และระงับการรื้อฝายทั้ง 3 แห่งนั้นไว้ ก่อนที่ปัญหาความขัดแย้งจะรุนแรงมากกว่านี้
ทั้งนี้ เหมืองฝายพญาคำ มีอายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามังราย โดยในครั้งนั้น มีเจ้าพญาคำ เป็นผู้วางแผน และได้รวบรวมชาวบ้านในเขตปกครองพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน ที่มีพื้นที่ติดต่อกัน มาร่วมกันขุดลอกลำเหมือง และร่วมกันสร้างฝายธรรมชาติกันขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.1100 เป็นต้นมา
เหมืองฝายพญาคำ จึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมล้านนามาช้านาน ที่มีการผันน้ำเข้าลำเหมืองไปหล่อเลี้ยงชีวิตชุมชนตั้งแต่ ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ยาวไปถึงเขต อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จนถึงเขต ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งนายหมื่น ทิพยเนตร ได้สืบทอดเป็นประธานเหมืองฝายพญาคำ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ใช้น้ำในชุมชนลักษณะกึ่งเมืองกึ่งชนบท ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 204 หมู่บ้าน และมีพื้นที่รับน้ำทั้งหมดประมาณ 30,000 กว่าไร่