Skip to main content
sharethis

สำนักข่าว BBC รายงานเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 48 โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดรัฐบาลทหารพม่าว่า เมื่อค่ำเย็นของวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา พลเอกอาวุโสตานฉ่วย ผู้นำสูงสุดของพม่าถูกบีบบังคับให้สละออกจากตำแหน่ง อันมีสาเหตุมาจากเล่นพรรคเล่นพวกและคอรัปชั่น


 


ทั้งนี้กระแสข่าวซึ่งเริ่มต้นเมื่อวานนี้ ระบุว่า พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย ประธานสภาฟื้นฟูสันติภาพแห่งสหภาพพม่า (SPDC), ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า ถูกยึดอำนาจ โดยพล.อ.หม่องเอ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารบก และรองประธาน SPDC


 


แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดรัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยว่า พลเอกอาวุโสตานฉ่วย ถูกบีบบังคับให้สละตำแหน่ง ภาย หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมของทหารในวันเดียวกันได้ไม่นาน โดยผู้ทำหน้าที่บีบบังคับให้เขาสละตำแหน่งนั้น มีทั้งหมด 5 คน นำโดยพลเอกรองอาวุโสหม่องเอ ผู้นำหมายเลขสองของพม่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ยังไม่อาจยืนยันได้อย่างชัดเจน


 


ขณะที่ สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า พล.อ.หม่องเอ ได้ส่งคนเข้าควบคุมตัว พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย ไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงย่างกุ้งตั้งแต่บ่ายของวันเดียวกัน ก่อนที่จะสามารถควบคุมอำนาจได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ในพม่าขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง รวมทั้งไม่มีการตรึงกำลังทหารตามท้องถนน


 


รายงานข่าวซึ่งอ้างเจ้าหน้าที่ทูตของประเทศตะวันตกประจำกรุงย่างกุ้งรายหนึ่งกล่าวว่า สถานการณ์ในย่างกุ้งเงียบเหงา และรัฐบาลได้ให้สัญญาณในทุกทิศทางว่าธุรกิจในประเทศยังคงดำเนินไปตามปกติ และรัฐบาลสงสัยเป็นอย่างยิ่งถึงต้นตอของข่าวรัฐประหาร


 


ส่วนทางด้านแหล่งข่าวจากชายแดนจีน-พม่า ได้ยืนยันการปลดเอกอาวุโสตานฉ่วยนั้นว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากว่าแม่ทัพทุกภาคได้รับแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนในกรุงย่างกุ้ง ผู้เฝ้าติดตามสถานการณ์รายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 48 เป็นมา ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเฝ้ารักษาอยู่โดยรอบโรงพยาบาลทหารหมายเลข 2 อย่างแน่นหนา คาดว่าอาจมีการฉวยโอกาสระหว่างที่พลเอกอาวุโสตานฉ่วยเข้าพักรักษาตัวอยู่


 


ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายคนได้ให้ความเห็นถึงสาเหตุที่มีการแอบปลดพลเอกอาวุโสตานฉ่วย อย่างลับๆ นี้ว่า อาจมีสาเหตุจากมาพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ได้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจแก่ นายเตชะ บุตรบุญธรรมของเขามากเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจหลักในพม่า ได้แก่ธุรกิจการสื่อสาร, สายการบิน, การค้าอาวุธ, ธนาคาร รวมไปถึงไม้และข้าวสารเป็นต้น     


 


ทั้งนี้เมื่อ ต.ค. ปีที่แล้ว พล.อ.อาวุโสตาน ฉ่วย และ พล.อ.หม่อง เอ ทำการรัฐประหาร โดยร่วมกันปลด พล.อ.ขิ่น ยุ้นต์ ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับสลายขั้นอำนาจของ พล.อ.ขิ่น ยุ้นต์ ในหน่วยข่าวกรองซึ่งถือว่า มีอิทธิพลสูง ด้วยข้อกล่าวหาทุจริตกับการใช้อำนาจเกินขอบเขต  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net