ประชาไท - 29 ส.ค.48      ศ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ขณะนี้กสม.มีแนวคิดจะตั้งอนุกรรมการเพิ่มเติม เพื่อติดตามการปฏิรูปกฎหมายทั้งระบบ 400 ฉบับของรัฐบาลโดยเฉพาะ โดยมีเป้าหมายในการร่วมดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิในข้อกฎหมาย หรือส่งเสริมสิทธิเพิ่มเติมในกฎหมายฉบับต่างๆ

 "แต่เรายืนยันว่าจะไม่ทำกฎหมายแทนรัฐบาล เพราะหลักสำคัญของคณะกรรมการสิทธิฯ ที่ยึดถือมาตลอดคือ เราจะไม่ก้าวก่ายเอกสิทธิ์ในการบริหารของรัฐบาล เพียงแต่ในฐานองค์กรด้านสิทธิฯ เราต้องดูแลไม่ให้รัฐบาลทำผิดกติกาในรัฐธรรมนูญ" ศ.เสน่ห์กล่าว

ประธานกสม. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังจะมีการตั้งอนุกรรมการที่จะผลักดันงานนโยบายการกระจายอำนาจตามมาตรา 46 เพื่อให้ชุมชนมีสิทธิในการจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นของตนมากขึ้น

อนึ่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพิจารณาแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติเมื่อวันที่ 22 มี.ค.48 ซึ่งแผนดังกล่าวขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการพัฒนากฎหมายแห่งชาติ มี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  และมีการเห็นชอบที่จะแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายรวม 400 ฉบับ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าในจำนวนนั้นเป็นกฎหมายแม่บท 176 ฉบับ และมีกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญราว 40 ฉบับ

พร้อมกันนั้นรัฐบาลได้ตั้งคณะอนุกรรมการดูในรายละเอียดของการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอีก 10 คณะ อาทิ 1.นายมีชัย ฤชุพันธ์  อดีตประธานรัฐสภา  เป็นประธานอนุกรรมการลดและเลิกกฎหมายที่สร้างภาระโดยไม่จำเป็นแก่ประชาชน 2.นายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานอนุกรรมการปรับปรุงขบวนการพิจารณาออกกฎหมาย และพัฒนาบุคลากรทางกฎหมาย 3.นายสุวรรณ วลัยเสถียร  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ยุคทักษิณ 1  ผู้ช่ำชองกฎหมายธุรกิจเป็นประธานอนุกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาประเทศ     

นอกจากนี้รัฐบาลยังกำหนดจะขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 123 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับการปฏิรูปกฎหมายของประเทศให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในสมัยประชุมนิติบัญญัติที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.48