ประชาไท—30 ส.ค. 48 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมีสาระสำคัญ 2 ประการคือ การเพิ่มทุนของบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด มหาชน (บมจ. กฟผ.) จาก 60,000 ล้านบาทเป็น 80,000 ล้านบาท โดยจดทะเบียนหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านหุ้น ๆ ละ 10 บาทก่อนการเสนอขายหุ้นแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ ได้เห็นชอบให้ออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 460 ล้านหุ้นเพื่อเสนอขายให้แก่พนักงานประจำของบมจ. กฟผ.

สาระสำคัญอีกประการคือการกำหนดหลักเกณฑ์โครงสร้างค่าไฟฟ้า โดยการปรับสูตรการคิดอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ใหม่โดยคำนวณค่าความเสี่ยงของต้นทุน (ค่าสัมประสิทธิ์ความยืดหยุ่นของต้นทุนต่อปริมาณ -Cost Volume Elasticity: CVE) ในระดับ 0.8

โดยระหว่างการประชุม ครม. นายเชิดพงศ์ ศิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ออกมาชี้แจง ว่า การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าดังกล่าว เป็นเพียงการปรับค่าไฟฐาน ซึ่งปกติจะต้องปรับทุกๆ 4 ปีอยู่แล้ว และช่วงนี้ก็ครบกำหนด  โดยค่าไฟฐานที่ปรับจะรวมเอาค่าไฟฐานเดิมมารวมกับค่าเอฟทีแบบเดิมทำให้ ค่าไฟฐานใหม่ อยู่ที่ 2.72 บาท จากเดิม 2.25 บาท และจะคงที่ในราคานี้อีก 3 ปี

ส่วนค่า Ft ใหม่จะเริ่มต้นจาก 0 บาท  และการคิดค่าเอฟทีใหม่ ครั้งต่อๆไปจะให้มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยจะคิดไปตามการขึ้นลงของ ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าทุกๆ 4 เดือน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เคยนำมาใช้รวมในค่า Ft เช่น ผลกระทบจากเงินเฟ้อ ค่าเครื่องจักร หรืออื่นๆ จะยกให้เป็นหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตต้องดูแลจัดการเอง

ซึ่งผลของการปรับสูตรค่าเอฟทีใหม่นี้จะมีผลต่อราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป จากเดิม ซึ่งค่าเอฟทีมีราคาเฉลี่ย 0.4683 บาทต่อหน่วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตรียมปรับเอฟที รับแผนเข้าตลาดหุ้นเดือนต.ค.

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=566&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai