Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ก่อนหน้านี้ไม่นานนักได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดสี่แยกศาลเด็กและสี่แยกข่วงสิงห์ โดยหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบคือกรมทางหลวงได้ชี้แจงว่าได้เร่งรัดผู้รับเหมาคือ หจก.จิระเทพ ให้เร่งดำเนินการก่อสร้างตามกำหนดสัญญา ทว่า ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการอนุมัติเงินเพิ่มจำนวน 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินค่าชดเชยที่จ่ายให้เนื่องจากวัสดุก่อสร้างปรับราคาขึ้น แต่เพิ่งยอมรับกับ "พลเมืองเหนือ" ว่า ได้อนุมัติเงินค่าชดเชยจำนวน 40 ล้านบาทให้ผู้รับเหมารายนี้ไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา


ผู้ที่ขับขี่ยวดยานพาหนะผ่านไปผ่านมาบนถนนสายซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ - ลำปาง ต่างตกอยู่ในภาวะเครียดไปตาม ๆ กัน เพราะเกือบจะ 2 ปีแล้วที่ต้องเผชิญมหกรรมรถติด เนื่องจากมีการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณสี่แยกศาลเด็กและสี่แยกข่วงสิงห์ ที่เหลือช่องทางจราจรให้สัญจรเพียง 2 ช่องทางเท่านั้น


            และประเด็นสำคัญที่ทำให้คนเชียงใหม่ยิ่งเครียดมากขึ้นไปอีกก็คือ โครงการดังกล่าวได้หยุดการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทั่งมีข่าวแพร่ออกมาสารพัดว่าผู้รับเหมาทิ้งงาน ไม่สามารถแบกภาระต้นทุนการก่อสร้างต่อไปได้ เพราะต้นทุนวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นทั้งระบบ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นจึงทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าโครงการอุโมงค์ลทางลอดโครงการนี้ จะแล้วเสร็จทันวันที่ 10 เมษายน 2549 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญาการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ หรือไม่


             นายพรธรรม แย้มพลอย นายช่างแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 เปิดเผย "พลเมืองเหนือ" ถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณสี่แยกศาลเด็กและสี่แยกข่วงสิงห์ ว่า ขณะนี้หจก.จิระเทพ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้ ได้ระดมเครื่องจักรและคนงานเข้ามาทำงานในไซต์งานแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจากที่หยุดงานไปตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนงานใต้ดิน คอนกรีต และคนงานส่วนใหญ่ก็ต้องลงไปทำงานในส่วนใต้ดินเช่นกัน อยู่ต่ำกว่าพื้นดินประมาณ 1 - 2 เมตร ซึ่งเป็นการทำงานในส่วนทางลอดและผนังคอนกรีต จึงอาจดูเหมือนว่าโครงการไม่มีคนงานเข้ามาทำงาน


            โดยขณะนี้ได้รับรายงานว่า หจก.จิระเทพ ได้ปรับแผนการทำงานใหม่ ซึ่งนอกจากทำงานในช่วงกลางวันแล้ว ยังปรับแผนเน้นทำงานในช่วงกลางคืนมากขึ้น และเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจติดตามงานคมนาคมที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้มาติดตามงานก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดโครงการนี้ด้วย พร้อมกับเร่งรัดงานก่อสร้างซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ หจก.จิรเทพ เพื่อให้เสร็จทันตามสัญญาที่กำหนดไว้


            "สัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 10 เมษายน 2549 ถ้าผู้รับเหมายังดำเนินงานไม่แล้วเสร็จก็ต้องถูกปรับคิดเป็นรายวัน แต่ขอยืนยันว่าผู้รับเหมารายนี้ยังไม่ได้ยกเลิกสัญญาตามที่มีข่าวออกมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ก็ได้ลงมาตรวจสอบงานอย่างใกล้ชิด และกำชับให้ผู้รับเหมาเร่งทำงานให้เสร็จ" นายพรธรรม กล่าวและว่า


            สำหรับสาเหตุที่ทำให้การดำเนินการก่อสร้างต้องล่าช้านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้รับเหมาประสบปัญหาต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างปรับราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขสัญญาระบุว่าหากต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างมีการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่มขึ้นเกิน 4 % รัฐบาลก็จะชดเชยเงินให้ตามสัดส่วนที่เป็นจริง ซึ่งกรณีของ หจก.จิระเทพได้ประสบปัญหาดังกล่าว โดยรัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยให้แล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นจำนวน 40 ล้านบาท


            แหล่งข่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว กล่าวกับ "พลเมืองเหนือ" ว่า การก่อสร้างโดยรวมแม้ไม่ถึงกับหยุดชะงัก แต่กลับมีความคืบหน้าช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเช่นนี้เรื่อยมาตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา และทราบว่าผู้รับเหมารายนี้กำลังประสบปัญหาทางการเงิน


            สำหรับงานก่อสร้างที่ดำเนินการอยู่ในเวลานี้เป็นส่วนของโครงสร้างหลัก ซึ่งหากยังไม่แล้วเสร็จจะไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ได้ ซึ่งตามกกำหนดสัญญาควรมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 60 % แต่เท่าที่ดำเนินการไปแล้วจนถึงขณะนี้คิดเป็นเพียงกว่า 30 % เท่านั้น ซึ่งไซต์งานทั้ง 2 จุดคือบริเวณสี่แยกข่วงสิงห์และสี่แยกศาลเด็ก มีกำหนดแล้วเสร็จตามสัญญาโครงการในวันที่ 10 เมษายน 2549 วงเงินงบประมาณกำหนดไว้ที่ไซต์งานละ 270 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 540 ล้านบาท


            แหล่งข่าวกล่าวว่า น่าตั้งข้อสังเกตว่างานก่อสร้างบางส่วนที่ดำเนินการได้อย่างเช่นส่วนของถนนพื้นท้องอุโมงค์กลับไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการขาดทุน ส่วนที่ผู้รับเหมากำลังดำเนินการอยู่มีเพียงส่วนผนังกั้นอุโมงค์เท่านั้น และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าผู้รับเหมาอาจจะถอนตัวจากโครงการนี้


            ด้านนายอภินันท์ โปราณานนท์ หัวหน้าทางหลวงชนบทเชียงใหม่ เปิดเผย "พลเมืองเหนือ" ว่า ขณะนี้การก่อสร้างทางลอดบนถนนวงแหวนรอบกลางเมืองเชียงใหม่ทั้ง 5 จุด ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท มีความคืบหน้าในหลายระดับ ซึ่งจากการตรวจงานล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า งานก่อสร้างในภาพรวมได้ผลแล้วประมาณ 88 % ทั้งนี้ สัญญาว่าจ้างก่อสร้างทางลอดทั้งหมดกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 720 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2546 สิ้นสุด 2 ตุลาคม 2548 วงเงินประมาณ 684 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่าเหลือเวลาอีกราว 20 วันเท่านั้น ที่โครงการต้องแล้วเสร็จ ซึ่งผู้รับเหมาคือ หจก.นภาก่อสร้างยืนยันว่างานในส่วนของโครงสร้างใหญ่จะดำเนินการเสร็จทัน แต่อาจจะเหลือเฉพาะองค์ประกอบปลีกย่อยเช่น ไฟฟ้า การตกแต่งงานภูมิทัศน์ ที่ต้องเก็บรายละเอียดในภายหลัง ซึ่งถ้าเกิดกรณีนี้ขึ้นก็ถือว่างานเสร็จไม่ตรงตามกำหนดสัญญา ทางผู้รับเหมาก็ต้องถูกปรับตามระเบียบ


            นายอภินันท์ กล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้การก่อสร้างจะคืบหน้าไปแล้วประมาณ 88 % แต่ก็ถือว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ตัวผู้รับเหมาเองที่ไม่พร้อมในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในทุก ๆ ด้าน ทำให้งานค่อนข้างล่าช้า ซึ่งตามที่ผู้รับเหมารายนี้เสนอราคาประมูลก่อสร้างในราคาต่ำที่สุดคือ 684 ล้านบาท จากราคากลาง 1,026 ล้านบาท และจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีราคาน้ำมันเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างเกือบทุกอย่างปรับราคาขึ้น ซึ่งก็ทำให้ต้นทุนทั้งระบบของผู้รับเหมาเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้คุมเข้มตรวจงานอย่างใกล้ชิด โดยกรมทางหลวงชนบทได้ว่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาเข้ามาควบคุมงาน รวมถึงได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทเข้าควบคุมงานอีกชั้นเพื่อให้การก่อสร้างได้มาตรฐานตามที่กำหนด


            "ตามสัญญาการก่อสร้างหากผู้รับเหมาประสบภาวะต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างเปลี่ยนแปลงราคาปรับเพิ่มขึ้นเกิน 4 % ทางภาครัฐก็จะจ่ายเงินค่าชดเชยให้ตามความเป็นจริง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงายจากผู้รับเหมาเกี่ยวกับเรื่องนี้" นายอภินันท์ กล่าวในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net