เป็นที่ทราบกันดีว่าเชียงใหม่เป็นเมืองอันดับ 2 ของประเทศ แต่ไม่มีระบบการเตือนภัยล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความด้อยประสิทธิภาพดังกล่าว ทั้งที่ความเสียหายมหาศาลที่เกิดขึ้นสามารถบรรเทาลงไปได้มากหากมีการเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที
นายสมิทธิ ธรรมสโรช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการแถลงการณ์เกี่ยวกับการติดตั้งหอเตือนภัยในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนและ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องระบบเตือนภัยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2548 ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดระบบให้ได้มาตรฐานโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าเป็นมูลค่ามหาศาล โดยจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคธุรกิจการค้าเกิดความเสียหายอย่างมาก
นายสมิทธิกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ติดตั้งหอเตือนภัยทั่วประเทศในเวลานี้ดำเนินการใน 6 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยสึนามิไปเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเริ่มดำเนินการในส่วนของจังหวัดภาคเหนือ เริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นจังหวัด ในเบื้องต้นได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้โดยทันที สำหรับการติดตั้งจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด โดยในเชียงใหม่จะติดตั้งก่อนจำนวน 3 จุด เริ่มที่ย่านธุรกิจสำคัญอย่างไนท์บาซาร์เป็นที่แรก ส่วนอีก 2 จุดต้องประสานกับผู้ว่าฯเชียงใหม่อีกทีว่าควรจะเป็นที่ไหนบ้าง มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และในช่วงแรกจะใช้งบประมาณของศูนย์เตือนภัยแห่งชาติไปก่อน หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของทางจังหวัดที่ต้องเข้ามารับผิดชอบต่อไป
ระบบของหอกระจายข่าวเตือนภัยจะมีสถานีควบคุมและส่งข้อมูลตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ มีระบบรับข้อมูลการเตือนภัยกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจวัดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภัยธรรมชาติทุกแห่ง ตัวหอกระจายข่าวจะติดตั้งในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย มีลักษณะเป็นหอสูงประมาณ 20-30 เมตร สร้างด้วยวัสดุคอนกรีตเสริมเหล็กหรือโครงสร้างเหล็กกันสนิม ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคงแข็งแรง ตัวหอสามารถทนแรงลมได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทนแรงกระแทกของคลื่นได้ดี อุปกรณ์ที่ติดตั้งบนหอกระจายข่าวประกอบด้วย ระบบเครื่องรับสัญญาณวิทยุ(ระบบดิจิตอล) ที่จะรับสัญญาณวิทยุจากสถานีส่งข้อมูลจากกรุงเทพฯผ่านดาวเทียม Inmarsat ตอนบนของหอจะมีระบบกระจายเสียง เป็นลำโพงหลายตัวหันหน้าไปตามทิศทางที่ต้องการ ระบบกระจายเสียงมีพลังงานเสียงส่งออกมาไม่ต่ำกว่า 121 เดซิเบล ซึ่งสามารถได้ยินได้ในรัศมี 1 กิโลเมตร พลังงานที่ใช้ป้อนระบบการทำงานทั้งหมดบนหอกระจายข่าวเป็นพลังงานจากแบตเตอรี่ซึ่งเติมพลังงานด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (solar cells) โดยไม่ต้องใช้บุคลากรในการควบคุมการทำงานของหอกระจายข่าว และอาจมีการดัดแปลงติดตั้งสัญญาณเตือนภัยระบบไฟสีได้ด้วย
การเตือนภัยจะเป็นเสียงสัญญาณไซเรน หลังจากนั้นจะเป็นเสียงประกาศในหลายภาษา ในช่วงแรกจะเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นหลัก และต่อไปอาจพิจารณาเพิ่มภาษาจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ฯลฯ จะมีการรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และแจ้งประชาชนให้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุ การสั่งการเตือนภัยทำได้ 2 รูปแบบ คือสั่งการจากศูนย์เตือนภัย และสั่งการโดยผู้ว่าฯ และภายหลังการติดตั้งเสร็จสิ้น หอกระจายข่าวเตือนภัยจะอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมอุตุนิยมวิทยา
อย่างไรก็ตาม ภัยธรรมชาติบางรูปแบบก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า แผ่นดินไหวสามารถเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้เนื่องจากเปลือกโลกไม่เคยหยุดนิ่ง นายสมิทธิ ยืนยันว่าคนเชียงใหม่ต้องยอมรับว่าอยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว และอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนความเชื่อที่ว่าแผ่นดินไหวหากเกิดขึ้นแล้วหนึ่งครั้งจะทิ้งช่วงไปอีกนานกว่าจะเกิดขึ้นอีก การปรับตัวเรียนรู้เพื่อรับมือเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นทางเดียวที่ดีที่สุด สำหรับพื้นที่อย่างเชียงใหม่หากเกิดแผ่นดินไหว จุดที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่อาคารสูง เนื่องจากอาคารเหล่านี้มีการคำนวณโครงสร้างเพื่อรับแรงลมไว้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่อาคารขนาดเล็กที่ส่วนมากมีการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานน่าจะเป็นจุดที่น่าห่วงมากกว่า.