นายอดิศักดิ์ แวเต๊ะ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) เขต อ.แว้ง จ.นราธิวาส กล่าวว่า ส.อบจ.นราธิวาส ได้มีการประชุมกันที่อ.เจาะไอร้อง และได้มีการเสนอในที่ประชุม ถึงปัญหาที่อาจจะขยายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ที่ประชุมมีแนวคิดนำผู้ลี้ภัยทั้งหมดกลับมา แต่คนส่วนใหญ่ที่ลี้ภัยมีความหวาดกลัว และได้มีมติให้สมาชิก อบจ. ร่วมกับทางราชการเข้าไปดูแลผู้ที่หลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซีย ว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องอะไร

"สื่อโทรทัศน์ช่อง 3 ประเทศมาเลเชีย ได้ออกมาระบุว่า คนเหล่านี้ถูกกดดันจากทหาร ถ้าเราเอาคนเหล่านี้กลับมาไม่ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ จะกลายเป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลมาเลเซีย"นานอดิศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ได้สรุปรายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้นำทางการเมืองในรัฐกลันตันหลายคนได้ออกมาแสดงความ เห็น อาทิดาโต๊ะ กามารุดดีน ยะฟาร์ (Dato" Kamaruddin Jaafar) เลขาธิการพรรคปาส และส.ส.รัฐกลันตัน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลกลาง พิจารณาใช้กฎหมายระหว่างประเทศกับปัญหาประชาชนไทยมุสลิม จากจ.นราธิวาสที่อพยพเข้าไปในพื้นที่รัฐกลันตัน และให้ปฏิบัติเสมือนเป็นผู้ลี้ภัย พร้อมเรียกร้องมิให้รัฐบาลกลสงส่งประชาชนเหล่านี้กลับภูมิลำเนา

ด้านดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส นิกมัต (Dato" Nik Abdul Aziz Nik Mat) มุขมนตรีรัฐกลันตัน และผู้ทรงคุณวุฒิของพรรคปาส ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนมาเลเซียเช่นเดียวกัน โดยประกาศของรับเงินและสิ่งของจากชาวมาเลเซีย เพื่อช่วยเหลือราษฎรชาวไทยมุสลิมที่หลบหนีเข้าเมืองดังกล่าวเพื่อมนุษยธรรม และปฏิเสธว่าการสนับสนุนดังกล่าว ไม่เป็นการสนับสนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในประเทศไทยแต่ อย่างใด

นายอับดุลรอนิง อาแว 1 ใน 131 ประชาชนไทยมุสลิมที่หลบหนีเข้าไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของประเทศมาเลเซียว่า พวกเขาที่อพยพเข้ามานี้ถูกกดขี่ข่มเหงจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย และไม่สามารถอยู่อาศัยในประเทศไทยได้ เนื่องจากไม่มีความปลอดภัย จึงมาขอความช่วยเหลือจากประเทศมาเลเซีย

ขณะนี้ทางการมาเลเซีย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับพวกเขา เนื่องจากวันที่ 1-2 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันหยุดราชการของมาเลเซีย ยังคงควบคุมตัวไว้ที่ สถานที่ควบคุมตัวผู้หลบหนีเข้าเมือง ที่อ.ตาเนาะแมเราะ รัฐกลันตัน