"วันนี้เขาได้มาระบายความรู้สึก มาบอกให้รู้ว่าญาติของพวกเขาไปแล้ว บางคนที่เหลือก็กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะทำอย่างไร หากรัฐไม่มีการทำความเข้าใจ ผมเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะมีชาวบ้านหลบหนีเข้าไปประเทศมาเลเซียอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งผมเองก็พยายามบอกว่าไม่ต้องไป" ศูนย์ข่าวอิสรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (http://www.tjanews.org) รายงานคำสัมภาษณ์ นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลซามัด ประธานคณะกรรมการกลางอิสลามจังหวัดนราธิวาส กรณีข่าวชาวบ้าน อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 131 คน เดินทางไปขอลี้ภัยในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

นายอับดุลเราะห์มานอธิบายว่า มีชาวบ้านจากสุไหงปาดี ซึ่งเป็นญาติของคนไทยมุสลิมทั้ง 131 คน และญาตินายสตอปา ยูโซ๊ะ โต๊ะอิหม่ามมัสยิดบ้านละหาร ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต มาหาเขาและบอกเล่าถึงเหตุผลที่คนเหล่านี้หลบหนีไปว่า เป็นเพราะชาวบ้านรู้สึกถูกกดดัน และเกรงกลัวการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ

นายอับดุลเราะห์มาน กล่าวอีกว่า  ชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า พวกเขาเหนื่อยหน่าย ที่ถูกกดดันกลัวเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาตรวจค้น รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิต และหากอยู่ไป เกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นที่อ.ตากใบ หรือที่มัสยิดกรือเซะ ที่มีการใช้ความรุนแรง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยชาวบ้านเหล่านี้ จึงต้องหลบไปอยู่ประเทศมาเลเซีย

นายอับดุลเราะห์มาน กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบทำความเข้าใจ เพราะหากปล่อยไว้นานไปมีแต่ผลเสีย ไม่มีผลดีเลย และอาจจะกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ อย่าเข้าใจผิดๆ ว่าคนเหล่านี้ หนีไปทำงาน ให้เลิกคิดเช่นนี้เสีย มิฉะนั้นจะกลายเป็นแรงผลักดันให้ผู้ที่กำลังคิดจะหลบหนีไป มีแนวโน้มมากขึ้น

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านละหาร ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งชาวบ้านและญาติของนายสตอปาโต๊ะอิหม่ามที่ถูกยิงเสียชีวิต ต่างเก็บตัวอยู่แต่ภายในหมู่บ้าน และปิดพื้นที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งบุคคลภายนอกเข้าไปภายในหมู่บ้าน นายอับดุลเราะห์มาน กล่าวว่า  จนถึงขณะนี้ชาวบ้านก็ยังปิดล้อมพื้นที่หมู่บ้าน ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกแปลกปลอมเข้าไป เพราะยังโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าโต๊ะอิหม่ามคนนี้เป็นผู้อาวุโส มีชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ ศรัทธาจำนวนมาก ชาวบ้านรู้ดีว่าสาเหตุการตายนั้นใครเป็นผู้กระทำจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่าง มาก"ประธานอิสลามจังหวัดนราธิวาสกล่าว