ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปฏิเสธรายงานที่ว่าการที่ชาวบ้านนราธิวาสจำนวนมาก อพยพข้ามพรมแดนไปในมาเลเซียเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย บอกว่าเป็นการเข้าไปตามปกติ แต่เนื่องจากมีจำนวนมากผิดสังเกตจึงถูกทางการมาเลเซียจับกุม จึงได้อ้างว่าไม่กล้ากลับ
ผู้สื่อข่าวในท้องถิ่นบอกบีบีซีว่า จากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ได้ข้อมูลว่าประชาชนที่อพยพเข้าไปในพื้นที่รัฐกลันตันของมาเลเซียนั้น มีประมาณร้อยกว่าคน จากพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
พวกเขาเดินขบวนเข้าไปในรัฐกลันตันโดยอ้างว่ากลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และยอมให้ทางการมาเลเซียจับตัว
ผู้สื่อข่าวบอกว่าจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ระดับผู้ใหญ่ในพื้นที่ พบว่าอาจเป็นผลจากการที่มีมือที่สามพยายามเข้าไปปลุกระดมชวนเชื่อและเป็นการสร้างกระแสให้เกิดความเกลียดชังระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่
ข่าวล่าสุดบอกว่าคนเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของกงสุลไทยในเมืองโกตาบารู
ด้านนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสบอกบีบีซีว่า มีประชาชนอพยพไปจริง แต่มี 62 คนเท่านั้น
นายประชากล่าวว่าปกติ มีคนไทยเดินทางไปประชุมที่รัฐกลันตันเป็นปกติ แต่อย่างมากก็ประมาณห้าคนสิบคน แต่ครั้งนี้มีมากกว่าปกติ จึงถูกตำรวจมาเลเซียควบคุมตัว
"พอเขาจับกุมปุ๊บ ทางกลุ่มที่ชุมนุม 62 รายที่มัสยิดอะไรผมก็จำไม่ได้ ก็อ้างว่าเขาไม่กล้ากลับประเทศไทยซึ่งที่จริงก็คงจะไม่ใช่ คือการไปพูดอย่างนั้นทำให้เราเสียหายในเชิงลักษณะว่าเจ้าหน้าที่ไปกดขี่ข่มเหง ไม่กล้ากลับเพราะกลัวอะไรทำนองนี้ ก็คงจะไม่ใช่" นายประชากล่าวกับบีบีซี
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสบอกว่ากำลังตรวจสอบต่อไปว่าคนเหล่านี้เป็นใครบ้าง และเมื่อติดต่อไปที่กงสุลที่โกตาบารู ก็ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศไทยได้ประสานงานกับทางประเทศมาเลเซียว่าจะขอรับตัวคืนแล้ว
จากรายการภาคเช้าวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2548
ที่มา : http://www.bbc.co.uk/thai/news/story/2005/09/050901_2330g310805tx.shtml
ลี้ภัย
ที่เมืองไทย สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดเหตุการณ์รุนแรงหลายจุดตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ รวมแล้วนับสิบจุดในนราธิวาสและปัตตานี ไม่มีใครเสียชีวิตแต่มีผู้บาดเจ็บ
อีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียยืนยันกับบีบีซีว่า ทางการที่นั่นกำลังดำเนินการกับคนไทยจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนร้อยสามสิบเอ็ดคนที่เข้าเมืองอย่างผิดกฏหมายตั้งแต่เมื่อวันอังคาร
ซุลคิฟลิ อับดุลลา หัวหน้าตำรวจรัฐกลันตันบอกว่าคนไทยที่ถูกจับข้อหาเข้าเมืองผิดกฏหมายกลุ่มนี้มีจำนวน 131 คน มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็กวัยรุ่น เด็กเล็ก และ เด็กทารก
ขณะที่สื่อมาเลเซียรายงานว่าคนไทยเหล่านั้นขอลี้ภัยในมาเลเซียอ้างว่าหลบหนีสถานการณ์รุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ ประเด็นเรื่องคนไทยร้อยสามสิบเอ็ดคนหลบหนีเข้ารัฐกลันตันของมาเลเซียนี้ ตอนนี้ดูจะกลายเป็นประเด็นปัญหาทางการทูตระหว่างไทยกับมาเลเซียไปแล้ว
ส่วนทางรัฐบาลไทย นายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกสื่อมวลชนว่า
"เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เรามีการประสานกับมาเลเซียอย่างใกล้ชิด ต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน ยังไม่มีความชัดเจนข้อมูล ความสำคัญของเรื่องนี้ขอให้กงสุลใหญ่ของเราประสานกับมาเลเซีย ช่วยดูแลคนไทย และ หาข้อเท็จจริง เราจะร่วมมือ ดำเนินการอย่างใกล้ชิด เราจะปกป้องคนไทย ถ้ามีปัญหาอะไรยินดีที่จะรับทราบ เราจะให้เรื่องนี้ออกมาดีที่สุดกับคนไทยทุกคนที่เกี่ยวข้อง"
สื่อมาเลเซียรายงานว่าคนไทยเหล่านั้นขอลี้ภัย ขณะที่เมื่อวานนี้นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิ วาสบอกว่า ไทยจะขอรับตัวพวกเขากลับเพราะต้องการสอบปากคำ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลท้องถิ่นรัฐกลันตันบอกบีบีซีว่า เรื่องนี้รัฐบาลกลางของมาเลเซียจะเป็นผู้ตัดสินใจ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องว่าจะให้คนเหล่านั้นมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยหรือไม่
อย่างไรก็ตามรัฐบาลมาเลเซียยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนอย่างใดออกมา ปัญหาสำคัญอีกอย่างคือคนกว่าร้อยเหล่านี้มาจากไหนแน่ ยังไม่มีใครให้รายละเอียด
สื่อมาเลเซียรายงานอ้างว่าคนไทยกลุ่มนี้หวาดกลัวความปลอดภัยหลังจากผู้ใหญ่ในพื้นที่ถูกยิงเสียชีวิต แต่จุดนี้ยังไม่มีการยืนยัน แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้มีโต๊ะอิหม่ามในหมู่บ้านละหาน อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ถูกยิงตาย
และตอนนี้มีรายงานว่าชาวบ้านที่นั่นไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าถึงขั้นปิดกั้นไม่ให้ใครเข้าหมู่บ้าน คุณภาสกร จำลองราช ผู้สื่อข่าวจากศูนย์ข่าวอิศราของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ไปดูสถาน การณ์แต่ก็ยังไม่ได้เข้าไป เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศแห่งความไม่ไว้ใจมีอยู่สูง
"เราไม่เข้าหมู่บ้านโดยตรง แต่เชคกับคนหมู่บ้านข้างๆ เพื่อเซฟเราเพราะพื้นที่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะเห็นรถทหารหุ้มเกราะวิ่งไปมา ซึ่งญาติโต๊ะครูที่เสียชีวิตมาบอกเราเองว่าอย่าเพิ่งเพราะชาวบ้านไม่มั่นใจหลายเรื่องหลายราว "
รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่นั่นว่า ปัญหาคนไทยร้อยสามสิบเอ็ดคนนี้แม้จะเป็นเรื่องภายในของไทย แต่เพื่อมนุษยธรรมก็จำเป็นต้องให้คนเหล่านั้นพักพิงในมาเลเซียเป็นการชั่วคราว
จากรายการภาคค่ำวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2548
ที่มา : http://www.bbc.co.uk/thai/news/story/2005/09/050901_1235g010905.shtml
พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับประเทศเมื่อคืนนี้หลังไปเยือนญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรีกลับมาเจอศึกหนักทันที ในเรื่องของความไม่สงบในภาคใต้
มีการก่อเหตุรวมแล้วนับสิบจุดในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนของเมื่อวาน และจนบัดนี้ก็ยังมีบางพื้นที่ของนราธิวาสที่เจอหางเลขมีหมู่บ้านปิดตัวเองไม่รับคนแปลกหน้า
อีกด้านหนึ่ง คนไทยกว่าร้อยสามสิบรายข้ามแดนไปขอหลบภัยในมาเลเซียซึ่งทางการมาเลเซียก็ออกมาพูดแล้วว่า จะยอมให้อยู่ได้ชั่วคราว
กิตติพงษ์ สุ่นประเสริฐ รายงานมาว่า ตั้งแต่มีความขัดแย้งเรื่องภาคใต้นี้มาสองปี อาจจะเรียกได้ว่านี่เป็นคนไทยกลุ่มใหญ่กลุ่มแรกที่เดินทางออกนอกประเทศไปขอพึ่งพิงมาเลเซียอย่างเปิดเผย โดยให้เหตุผลว่าหวาดกลัว สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงบางส่วนระบุว่า ชาวไทยกลุ่มนี้จะเดินทางเข้ามาเลเซีย ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตามแต่ แต่ก็ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะเมื่อมีคนข้ามแดนขอลี้ภัยก็กลายเป็นประเด็นระหว่างประเทศไปในทันที
หลายฝ่ายสะท้อนว่าบรรยากาศของความกลัวเป็นปัญหาใหญ่ และเป็นสิ่งที่ทำให้คนในมาเลเซียเองก็คงตระหนักเรื่องนี้
เรื่องนี้ก็ย้อนกลับมาเป็นแรงกดดันทางการเมืองให้รัฐบาลมาเลเซียต้องดำเนินการเพื่อสิทธิมนุษยชนแม้ด้านหนึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียจะยืนยันว่าไม่ต้องการแทรกแซงเรื่องภายในของไทยก็ตาม
ที่มา : http://www.bbc.co.uk/thai/news/story/2005/09/050901_2330g010905tx.shtml