ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-5 ก.ย.48 ชาวแม่อายยืนยันไม่ยอมรับเป็นคนต่างด้าว ตามที่นักวิชาการเสนอทางออกให้ยื่นคำร้องขอสัญชาติใหม่ ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ มาตรา 7 ทวิ แต่ขอฟ้องศาลต่อให้ถึงที่สุด หากมีคำพิพากษาให้ชาวบ้านแพ้
ตามที่ในวันที่ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปพบกับชาวบ้านแม่อาย ที่วัดภาวนานิมิต ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เพื่อหาแนวทางการทำงานต่อกรณีปัญหาสัญชาติของชาวแม่อาย ก่อนที่จะรอฟังคำตัดสินชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุด ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ โดยมีชาวบ้านแม่อายเข้าร่วมรับฟังแนวทางการเรียกร้องการให้ได้มาซึ่งสัญชาติไทย และได้สะท้อนถึงปัญหาต่างๆ หลังจากถูกกรมการปกครอง และนายอำเภอแม่อาย ประกาศเพิกถอนชื่อชาวบ้านจำนวน 1,243 คน ออกจากทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2545
ผศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาจนจิตรา สายสุนทร อาจารย์ประจำภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอให้ถึงวันที่ 8 ก.ย.ก่อน ถึงจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้ ซึ่งหากชาวบ้านชนะคดี แกนนำชาวบ้านทุกคนก็จะต้องกลับช่วยเหลือให้มีการดำเนินการนำรายชื่อเข้าบัญชีทะเบียนบ้านเดิม โดยจะต้องเตรียมหลักฐานพยานอะไรไว้เพิ่มเติม
"แต่ถ้าหากศาลปกครองสูงสุด พิพากษาตัดสินให้ชาวบ้านแพ้คดี ชาวบ้านทุกคนจะต้องเตรียมเตรียมใจกันไว้ เพราะฉะนั้น อย่าขวัญเสีย เสียใจได้ แต่อย่าเสียกำลังใจ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการระดมคนมาช่วยกันเขียนเรื่องการยื่นคำร้องกันใหม่ทั้งหมด รวมทั้งจะต้องกลับมานั่งคิดกันใหม่ว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป" ผศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้ ผศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ ได้เสนอทางออกเอาไว้ หากชาวบ้านแพ้คดีว่า มีอยู่ 2 ทางเลือก คือ หนึ่ง ให้ชาวบ้านทั้ง 1,243 คน กลับมายื่นคำร้องขอการมีสัญชาติไทยกันใหม่ โดยยึดหลักแผนยุทธศาสตร์ที่รัฐได้วางไว้ โดยใช้สิทธิตาม มาตรา 7 ทวิ ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านที่เป็นคนไทยดั้งเดิมมาก่อน อาจจะได้รับความเจ็บปวดกันบ้าง เพื่อแลกกับการได้สัญชาติไทยคืนมา และอยากให้ชาวบ้านเข้าใจตรงกันว่า เป้าหมายคือการได้มาซึ่งสัญชาติไทย ดังนั้น เราไม่ต้องไปคิดกันว่าจะเป็นประชาชนคนไทยชั้นสอง แต่มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกภายในของเราเอง ส่วนทางออกที่สอง ก็คือยื่นฟ้องต่อศาลกันต่อไป แต่ก็หันกลับมาดูว่าเรามีหลักฐานพยานบุคคล พยานวัตถุ หรือพยานเอกสาร ที่ชัดเจนหรือไม่ ที่จะไปยืนยันกับศาล
ด้าน นายใสแดง ซอจิ่ง แกนนำชาวบ้านแม่อาย กล่าวว่า หากยอมรับข้อเสนอทางออกที่ว่า ให้ยื่นคำร้องขอสัญชาติ ตามมาตรา 7 ทวิ นั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าจะทำให้การดำเนินการล่าช้าและรอต่อไปไม่ไหว ดังนั้น ชาวบ้านยืนยันว่า ยังไงก็ต้องสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด
ในขณะที่ นายคำ โพธิ แกนนำชาวบ้านแม่อาย อีกคนหนึ่ง ก็ออกมากล่าวว่า ถ้าพูดตามความจริง สิ่งที่ อ.พันธุ์ทิพย์ ได้ออกมาพูดกับชาวบ้านในครั้งนี้ เป็นการพูดตามหลักวิชาการและกฎหมายทั้งหมด ซึ่งก็เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำให้ชาวบ้านสับสน เพราะในความเป็นจริงของชาวบ้านในขณะนี้ ทุกคนต่างยืนหยัดในกรอบความคิดเดิม คือชาวบ้านที่ถูกสัญชาติ ล้วนเป็นคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่เป็นคนต่างด้าว
"จะให้ชาวบ้านทั้งพันกว่าคน ยอมยื่นข้อเสนอขอสัญชาติ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.สัญชาติ ในมาตรา 7 ทวิ เพื่อยอมรับว่าเป็นคนต่างด้าวได้อย่างไร เชื่อว่า ชาวบ้านไม่ยอมแน่ และพร้อมจะเลือกหนทางเดิม คือยืนหยัดที่จะยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอสัญชาติไทยคืนมาให้ได้" แกนนำชาวบ้านแม่อาย กล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)