ในงานเสวนาเรื่อง "พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์" ที่จัดขึ้น ณ ห้องประชุมจี๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 นาย
"สำหรับพระราชอำนาจนั้นเป็นจารีตประเพณี เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงรัฐธรรมนูญ จารีตประเพณีเป็นเรื่องลึกซึ้งมาก เช่นกรณีของแหม่มแคทลียา แมคอินทอช ซึ่งแสดงให้เห็นความลึกซึ้งของจารีตซึ่งไม่ได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
"เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า หลายๆ อย่างเขาอาจจะไม่ได้ตราอยู่ในรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญมีระบุไหมว่า เวลาเกิดวิกฤติแล้วพระเจ้าอยู่หัวจะต้องเรียก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาคลานต้วมเตี้ยมกันอยู่ต่อหน้า ก็ไม่ได้ระบุ แต่เป็นความเป็นรับผิดชอบในฐานะที่พระองค์ท่านทรงเป็นพระราชาที่ปกครองด้วยทศพิธราชธรรม ตรงนี้ต่างหากซึ่งมีมานมนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมี เพราะฉะนั้นเมื่อมีตรงนี้แล้ว เราต้องมีความเกรงพระทัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม"
ทั้งนี้ นายสนธิกล่าวว่า พระราชอำนาจนั้นทรงมีอยู่แต่ไม่ทรงแสดงออก เนื่องจากมนุษย์น่าจะมีสติปัญญามากพอที่จะเข้าใจการแสดงออกของพระองค์ท่าน เช่น กรณีการเลื่อนชั้นให้กับคุณหญิง
นอกจากนี้ คอลัมนิสต์และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผุ้จัดการได้ยกตัวอย่างของการท้าทายพระราชอำนาจในกรณีสมเด็จพระสังฆราชซึ่งถือว่าเป็นการสายใยของสังคมไทย เพราะว่าสมเด็จญาณสังวรฯ นั้นเป็นพระพี่เลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และนักการเมืองบางคนยังกล่าวอ้างว่า พระสังฆราชสติเลอะเลือน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่เลวมาก
"เลวที่สุดก็เพราะว่า เราได้เห็นแล้วว่า สมเด็จญาณสังวรฯ ได้ทรงพลานามัยที่เข้มแข็งสมบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว พอขอให้ยกเลิกรักษาการสมเด็จพระสังฆราช แล้วถวายให้สมเด็จญาณฯ นั้นเป็นองค์ประธานต่อไป แต่ก็ไม่ทำ นี่คือสิ่งที่หนังสือพิมพ์สังเกต ผมเป็นเพียงแต่เก่งในเรื่องของการยกตัวอย่าง ผมก็สงสัยอยู่ข้อเดียวเท่านั้นเอง ว่ามันจะเป็นจะตายกันตรงไหนหนา ถ้าหากมันจะจบกันด้วยการที่เอาคุณหญิงจารุวรรณกลับมาเป็นผู้ว่า สตง. ก็จบ มันจะทำให้มีคนตายกันเชียวหรือ หรือมันจะทำให้โครงการต่างๆ พังทลายกันไป หรือมันจะทำให้เกิดมีอาการของการส่งเรื่องเข้าไปให้ ป.ป.ช.ทำงานมากขึ้น" นายสนธิระบุ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)