Skip to main content
sharethis

"รัฐบาลควรเร่งพัฒนาระบบกฎหมายของไทยให้เท่าทันกับการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากจีเอ็มโอ โดยกฎหมายสำคัญที่ควรมีก่อนการอนุญาตให้มีการทดลองหรือปลูกพืชจีเอ็มโอเชิงพาณิชย์ได้แก่ กฎหมายด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ยึดหลักความรับผิดชอบอย่างเคร่ง ครัด (Strict Liability) และกฎหมายป้องกันการผูกขาดที่มีประสิทธิภาพ" นายวสันต์ พานิช ประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติระบุ


 


เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา  อนุกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบเรื่องมะละกอจีเอ็มโอ ภายใต้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แถลงผลการสุ่มตรวจตัวอย่างมะละกอจากแปลงเพาะปลูกของเกษตรกร 6 ราย โดยระบุว่า พบมะละกอจีเอ็มโอในแปลงเกษตรกร 5 รายใน 4 จังหวัด คือ ระยอง มหาสารคาม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์


 


ทั้งนี้อนุกรรมการฯ ได้เสนอมาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและทำลายมะละกอจีเอ็มโอที่แพร่กระจายออกไปอย่างจริงจัง ก่อนที่จะควบคุมไม่ได้ รวมถึงจัดการให้ค่า ชดเชยความเสียหายแก่เกษตรกรอย่างเป็นธรรม จากเดิมที่ให้เพียงต้นละ 40 บาท ขณะเดียวกันจะต้องเร่งพัฒนาระบบกฎหมายให้เท่าทันการพัฒนาพืชและใช้ประโยชน์จีเอ็มโอ


                                                    


นายวสันต์อธิบายว่า เนื่องจากสินค้าจีเอ็มโอเป็นสินค้ากึ่งผูกขาด มีสิทธิบัตรคุ้มครอง รวมถึงประเทศไทยควรเป็นภาคีสมาชิกของพิธีสารว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety Protocol) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่จะเป็นประโยชน์ด้วย


 


ทั้งนี้ กระบวนการจัดทำกฎหมายควรประกอบด้วยผู้แทนจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยึดหลักการ     มีส่วนร่วมและโปร่งใส โดยมีการรับฟังความเห็นจากสาธารณะอย่างกว้างขวางทุกขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง


 


ประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจ ยังเห็นว่า ควรเร่งรัดการดำเนินงานของคณะกรรมการที่ศึกษาเรื่องสิทธิบัตร เนื่องจากขณะนี้มีการยื่นขอจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับมะละกอของไทยหลายรายการในประเทศสหรัฐ และอีกหลายประเทศ โดยนักวิจัยสหรัฐและคณะ ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกมะละกอของไทย จึงควรเร่งพิจารณาทบทวนเนื้อหาของข้อสัญญาตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ (MOU) ระหว่างกรมวิชาการเกษตรและมูลนิธิวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนล ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นทดลองมะละกอจีเอ็มโอ หากพบว่าสัญญาไม่เป็นธรรม ควรมีการยื่นคัดค้านการขอรับสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net